“อ๊อฟ ปองศักดิ์” เผยคดีฟ้องอดีตแฟนเก่าที่หลอกเอาชื่อไปแอบอ้างใช้บัตรเครดิตอยู่ในช่วงไต่สวนมูลฟ้อง ลั่นไม่ลดหนี้ให้ ถ้าชดใช้ไม่ไหวก็ไปอยู่ในคุก คาดตัดสินคดีปีหน้า พร้อมบอกถึงจะโดนผู้ชายหลอกเงินเกือบล้าน แต่ก็ยังไม่เข็ดเรื่องความรัก ก่อนหน้านี้ นักร้องเสียงดี “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” เคยออกมาประกาศฟ้องอดีตแฟนหนุ่ม หลังถูกหลอกเอาชื่อไปแอบอ้างใช้บัตรเครดิตสูญเงินเกือบล้าน จนกระทั่งล่าสุด เจอนักร้องหนุ่มที่งาน “แถลงข่าวเปิดอัลบั้ม THE ILLUSION OF LOVE” ณ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ก็เลยสอบถามความคืบหน้าคดี เจ้าตัวก็อัปเดตให้ฟังว่า อยู่ในช่วงไต่สวนมูลฟ้อง
“ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของศาลเรียบร้อยแล้ว อยู่ในช่วงไต่สวนมูลฟ้องต่างๆ นานา แล้วเดี๋ยวก็มีขึ้นศาลด้วย ก็ต้องใช้เวลานิดนึง เราก็พยายามอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อไปเกิดขึ้น และก็จะไม่ไกล่เกลี่ยอยู่แล้วครับเพราะเราไม่มีการลดภาระหนี้ และไม่มีการไกล่เกลี่ยหนี้ คือถ้าไม่ไหวก็ไปอยู่ในคุก แล้วส่วนเงินที่เราเสียไปแล้วเขาเอามาคืน สมมติถ้าเป็นไปได้นะ ก็คงไม่เอามาใช้ ก็คงเอาไปบริจาคจริงๆ”
เผยตอนนี้อีกฝ่ายรับรู้แล้วว่าโดนฟ้อง แถมยังเคยส่งทนายมาดำเนินการแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็หายต๋อม
“ต้องรู้อยู่แล้วครับเพราะว่าถ้าเรื่องถึงศาล ยังไงศาลก็ต้องส่งมูลศาลไป แล้วตอนนี้เขาก็ส่งทนายมาเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เรามีหลักฐานชัดเจน แต่ว่าทางเขาไม่มีหลักฐาน เลยหายเงียบไป ทนายเขาคงทำอะไรไม่ได้ เราก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของศาล คือถ้าถูกก็คือถูกผิดก็คือผิด คือทางทนายของเขาก็น่าจะเข้าใจอ๊อฟว่าเขาคงไม่กล้าเสี่ยงหรอกเพราะคนก็รู้จักอ๊อฟแล้วอีกอย่างหลักฐานเราค่อนข้างชัดเจน”
คาดตัดสินคดีปีหน้า
“ก็น่าจะประมาณปีหน้าเพราะว่าเดี๋ยวเรามีการขึ้นศาลเราไม่ได้จบแค่ครั้งสองครั้ง แต่ยังไงก็ได้ครับ ขอให้คนชั่วได้รับโทษ หากคดียืดเยื้อก็ไม่ซีเรียสครับ ก็ปล่อยให้ยืดเยื้อไป แต่อย่างน้อยที่สุด ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดหวัง เอาเขาเข้าไปอยู่คุกได้เราก็สบายใจ เพราะว่าไม่มีแค่อ๊อฟคนเดียวที่โดน เพราะเราได้มีโอกาสคุยกับคนอื่นที่โดน คือมีคนโดนมากกว่า 10 คน คือเขาทำเป็นอาชีพอย่างที่บอก บางคนเขาก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผย แล้วอย่างตัวเขาเองก็คงคิดว่าอ๊อฟไม่กล้าออกมาพูด เขาไม่คิดว่าอ๊อฟจะแลกกับสิ่งที่อ๊อฟเจอ ไม่คิดจะแลกกับชื่อเสียงตัวเอง”
แม้จะโดนหลอกสูญเงินเป็นล้าน เจ้าบอกบอกยังไม่เข็ดเรื่องความรัก
“ก็คงไม่เข็ดครับ แต่ต่อไปคงมองให้กว้างขึ้นและละเอียดมากขึ้นและคงต้องใช้เวลาเยอะๆ แต่ก็คงไม่รักบั่นทอนลงเพราะเราก็ยังมองว่ารักเป็นสิ่งที่ดีถ้าเกิดเราเข้าใจและมีความสุขกับมัน คือถ้าเกิดมัวแต่ปิดกั้นตัวเองเราก็คงไม่มีโอกาสเจอคนดีๆ ตอนนี้เราก็เปิดใจอยู่ตลอดครับ แต่ว่ามันยังไม่มี ก็อาจเพราะว่าช่วงนี้ผมยุ่งเรื่องงานมาก เพราะกำลังจะมีทั้งคอนเสิร์ตและอัลบั้มก็คงไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่น แต่เราก็อยากมีเหมือนกันนะ แต่ว่าถ้าเข้ามาแล้วไม่ดีเราก็ไม่เอา”
ที่มา: manager.co.th
