Author Topic: ไอ-โมบาย แตกไลน์เน็ตบุ๊ค ประเดิมเวทีงานคอมมาร์ต  (Read 1369 times)

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่



สามารถ ไอ-โมบาย แตกไลน์ผลิตภัณฑ์เกาะกระแสเน็ตบุ๊ค ประเดิมส่ง “เอ็กซ์ไซท์ แอล 50" ทดสอบความแรงในงานคอมมาร์ต กลางเดือน มี.ค. นี้

 นายฑิตพล จันทรอุไร ผู้จัดการฝ่าย-อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไอ-โมบาย บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย กล่าวว่า บริษัทได้ขยายสายผลิตภัณฑ์แบรนด์ไอ-โมบาย จากโทรศัพท์มือถือ โดยพัฒนาเครื่องโน้ตบุ๊คขนาดเล็ก ที่รองรับการเล่นอินเทอร์เน็ต แชท และโทรทางไกลผ่านเน็ต ออกมาตอบรับแนวโน้มตลาดเน็ตบุ๊คที่กำลังมาแรง


 ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวเครื่องรุ่นแรก "ไอ-โมบาย เอ็กซ์ไซท์ แอล 50" ในงานคอมมาร์ต ซึ่งจะมีขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ ราคาจำหน่าย 12,900 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม


 ด้านคุณสมบัติของเครื่องรุ่นแรกนี้ เทียบได้กับรุ่นท็อปของแบรนด์เอชพี "มินิ โน้ต 1000"  หน้าจอแอลซีดีขนาด 10.2 นิ้ว แรม 1 กิกะไบต์  และฮาร์ดดิสก์ 160 กิกะไบต์ พร้อมหน่วยประมวลผลอินเทล อะตอม ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการลินิกซ์ กล้องเว็บแคมความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล


 นายฑิตพล กล่าวว่า ราคาเน็ตบุ๊ครุ่นนี้จะราคาต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 30% มีให้เลือกสีดำ และขาว ซึ่งเป็นสียอดนิยมในผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค ตั้งเป้ายอดขายไว้ 3,000-5,000 เครื่องช่วงทำตลาด 3 เดือนแรก เบื้องต้นเน้นลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์ ผ่านช่องทางโมเดิร์น เทรด และช็อปไอ-โมบาย


 “เรามองว่าผลิตภัณฑ์นี้ยังมีการเติบโตสูง จึงได้คุยกับโรงงานผู้ผลิตที่ไต้หวันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ชิปขณะนั้นยังไม่รองรับ มีแต่ซีพียู จากนั้นเมื่อผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่เริ่มทำตลาด จึงเหมาะสมกับเวลาที่จะวางตลาดชิงส่วนแบ่งเช่นกัน” นายฑิตพลกล่าว


 นายฑิตพล กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดเน็ตบุ๊ค ยังน่าสนใจ และหวือหวา เพราะผู้ผลิตมือถือจะเริ่มให้ความสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงตลาดนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อไทยจะเริ่มมีบริการ 3จี และอีวีดิโอรวมทั้งมองว่าตลาดนี้ กลุ่มลูกค้าซื้อเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่าจะมีมากกว่าลูกค้าใหม่ล้วนๆ


 ขณะที่ ในส่วนของผลิตภัณฑ์มือถือนั้น ไอ-โมบาย อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับโครงข่าย 3จี รวมถึงจะนำโทรศัพท์รุ่นทัชสกรีน ออกมาทำตลาดต้นไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยมี 2-3 รุ่น


 รวมทั้งจะยังคงจุดเด่นของแบรนด์ไว้เช่นเดิมคือ ราคาต่ำกว่าคู่แข่งแต่ประสิทธิภาพคุ้มค่าต่อการใช้งาน ราคาระหว่าง 3,900-6,000 บาท ยกเว้นรุ่นรองรับ 3จีจึงจะมีราคาเกิน 10,000 บาท ซึ่งคาดว่าทั้งตลาดจะยังมีเครื่องใหม่อยู่ที่ 7-8 ล้านเครื่องเท่าปีที่ผ่านมา


 “3จีจะมาเปลี่ยนแปลงตลาดโทรศัพท์มือถือ ในแง่การใช้งาน ที่จะเน้นใช้คุณสมบัติวีดิโอ เอสเอ็มเอส แชทมากขึ้น" นายฑิตพลกล่าว


 นอกจากนี้ ยังมีมือถือรุ่นระดับราคาต่ำกว่า 2,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าจะมีปัจจัยหนุนยอดขายจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลเดือนละ 2,000 บาท ให้กับผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท

ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)