Author Topic: “แตงโม” เชื่อรถพ่อโดนสาดน้ำกรดเพราะร่วมชุมนุม บอกเช็กวงจรปิดแล้วคนร้ายมาคนเดียว  (Read 689 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




สภาพรถพ่อแตงโม หลังโดนสาดน้ำกรด

“แตงโม” บอกเป็นไปได้รถพ่อโดนสาดน้ำกรดเพราะตนไปร่วมชุมนุมต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รับตกใจไม่คิดว่าคนเราจะทำลายล้างกันได้ขนาดนี้ เชื่อเป็นการข่มขู่ บอกเช็กกล้องวงจรปิดแล้วคนร้ายมาคนเดียว สับกรรมจะตามสนองคนทำเอง
       
       หลังจากเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุมือมืดบุกสาดน้ำกรดใส่รถของ “โสภณ พัชรวีระพงษ์” พ่อนักแสดงสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ที่จอดไว้หน้าบ้านย่านเรียบทางด่วนรามอินทรา จนทำเอาหลายคนตกอกตกใจ พร้อมทั้งมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการเมือง เนื่องจากทั้งแตงโมและพ่อได้ออกมาร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแตงโมในระหว่างที่เจ้าตัวเดินทางมาร่วมงานเปิดตัว “Groovy Party Blu-O Disco Ball” ที่สยามพารากอน โดยนางเอกสาวได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า…
       
       “ประมาณ 4-5 ทุ่มค่ะ เมื่อคืนนี้เราก็อยู่ในบ้าน แล้วโมจะไปหยิบของที่รถก็เห็นว่าทำไมรถเป็นรอย ก็ยังไม่คิดอะไรคิดว่าพ่อขับรถไปเฉี่ยวหรือเปล่า ก็เรียกพ่อออกมาดู ก็บอกว่าไม่ได้ไปทำอะไรมาเลย พ่อยังชี้รอยที่เป็นน้ำกรดให้ดู เราก้มไปดูมันก็เพิ่งสดๆ ร้อน มันก็กัดสีรถ แล้วสีมันก็ร่อนออกมาจากฝั่งขวาหน้ากระโปรงรถไปจนถึงฝั่งซ้ายเลยค่ะ ตกใจค่ะ เกิดมาไม่เคยเห็นการทำลายล้างว่าทำกันได้แบบนี้เลยเหรอ เราเลยตกใจว่ามันรุนแรงได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
       
       บอกเป็นไปได้ว่าสาเหตุมาจากการที่ตนออกไปต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะหลายคนก็เล็งไปที่การเมือง
       “ยังคิดอยู่หลายประเด็น ยังไม่ได้เจาะจงว่าอะไร ต้นเหตุมาจากอะไรเพราะว่ามันเป็นไปได้หลายๆ กรณี การเมืองก็อาจเป็นไปได้ต้องขอทบทวนแล้วดูดีๆ แล้ว ต้องรอดูกล้องวงจรปิดก่อนว่าการทำงานของเขามันเป็นยังไง”
       
       “โมก็คิดว่าเป็นการขู่ค่ะ แต่ว่าขู่ในประเด็นไหนโมก็ไม่ทราบเหมือนกัน หลายคนเล็งไปที่การเมือง ก็โมว่าโมก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ว่าถ้าไปโทษเขาเลยทีเดียวมันก็จะเป็นการใส่ร้ายเขาจนเกินไป ต้องขอพิจารณาสิ่งรอบข้างดูก่อนค่ะ อาจจะเป็นคนที่ไม่ชอบโมแล้วมาทำในช่วงเวลานี้ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ยังไม่อยากโทษใครขอทบทวนเรื่องราวก่อนค่ะ เพราะมาขู่เราโดนตรงก็ไม่มีนะคะ เลยทำให้คิดไม่ออกว่ามันมาจากประเด็นอะไร”
       
       คิดว่าเกี่ยวกับการขึ้นเวทีที่ราชดำเนินไหม?
       “การขึ้นเวทีของโมก็ไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้วค่ะ โมก็ไม่ได้ไปขึ้นเยอะอยู่แล้วค่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องของการเมืองจริงๆ นะคะ โมก็ใช้ชีวิตปกติดีกว่า โมคิดว่าเดี๋ยวมันมาจากอะไรมันก็จะแสดงตัวมาเองแหละค่ะ ถามว่าจะยังขึ้นเวทีอยู่ไหม คือการขึ้นเวทีมันอยู่ที่วาระโอกาสมากกว่าว่าโมมีอะไรจะพูดหรือเปล่า เพราะโมไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดจากอะไร”
       
       “ก็ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยเป็นคนตัดสินให้เราดีกว่า แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นโมก็ยังใช้ชีวิตแบบธรรมชาติเหมือนเดิม ก็ใครที่คิดจะปองร้ายก็โมอยู่บ้านเฉยๆ ค่ะ ทรัพย์สินเงินทองของโมอยากได้อะไรก็ทำไป ไม่ได้ท้าทาย แต่ว่าโมก็ยังมั่นใจว่าโมไม่เคยมีเรื่องกับใคร แล้วโมก็ไม่ได้ทำร้ายใครด้วยค่ะ โมก็ขอให้ความดีคุ้มครองเราแค่นั้นเอง ส่วนมันจะรุนแรงกว่าเดิมไหม มันต้องดูว่าต้นเหตุมาจากอะไรก่อน อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เพราะว่าโมไม่เคยมีเรื่องกับใครเลย ถ้าไม่ใช่การเมืองก็เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า”
       
       ยังไม่รู้ว่าพ่อแจ้งความหรือยังเพราะตนออกมาทำงานทั้งวัน
       “ยังไม่ทราบเลยค่ะเพราะว่าโมออกมาทำงานวันนี้ โมยังไม่ได้ติดต่อกับคุณพ่อเลย โทรศัพท์คุณพ่อเสีย โมเลยไม่รู้ว่าคุณพ่อได้ไปแจ้งความหรือยัง โมให้คุณพ่อเป็นคนจัดการค่ะ”
       
       เผยเช็กจากกล้องวงจรปิดมือเลวที่ก่อเหตุมาคนเดียว
       “คุณพ่อได้ไปดูแล้วค่ะ กล้องของหมู่บ้านมันเลยไม่ค่อยชัด เขามาคนเดียวค่ะ โมไม่ได้ไปดูเองเห็นเขาขี่มอเตอร์ไซค์มาระบุยากว่าเป็นใครเพราะเขาใส่ชุดเหมือนเมสเซนเจอร์แล้วก็ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ขอพิจารณาก่อนว่ามีใครที่ไม่ชอบเราเป็นพิเศษหรือเปล่า”
       
       ลั่นคงไม่ต้องถึงกับหาบอดี้การ์ดส่วนตัว บอกตนยังใช้ชีวิตปกติ
       “คงไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าโมก็มีคนรถแล้วพี่เขาก็เคยเป็นการ์ดมาก่อน เขาก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันค่ะ น่าจะพอช่วยได้ค่ะ แต่คิดว่าถ้าจะเล่นถึงตัวเขาคงไม่หรอกค่ะเพราะมันจะดูรุนแรงเกินไปถ้าเล่นถึงตัว โมก็ยังจะทำตัวใช้ชีวิตแบบปกตินะคะ เพราะว่าโมกับคุณพ่อก็ไม่ได้เป็นอะไร มีแต่ทรัพย์สินที่เสียหายค่ะ”
       
       เจอเข้าแบบนี้ทำเอาแฟนหนุ่ม “โตโน่” เป็นห่วง บอกให้ดูแลตัวเองดีๆ
       “ก็บอกว่าให้ดูแลตัวเองให้ดีๆ ค่ะ กำชับพี่ยามที่อยู่ในหมู่บ้านให้ช่วยมาเดินตรวจบ่อยๆ คุณพ่อไปบอกยามหน้าหมู่บ้านว่าให้เข้มงวดกับคนเข้าออกให้มีการแลกบัตรตามกติกาของหมูบ้าน ทั้งคุณพ่อและพี่โน่ก็บอกว่าไปไหนให้ระวังตัวอย่าไปไหนในที่เปลี่ยวที่มันเสี่ยงเพราะว่าเราไม่น่าจะทันใครอยู่แล้วค่ะ”
       
       “ถามว่ารู้สึกกลัวไหม โมเฉยๆ ค่ะ โมยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องของอะไร โมก็ใช้ชีวิตปกติไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร คนเกลียดก็มีคนรักก็มีเพราะฉะนั้นก็ถ้าเราไประแวดระวังมากเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาติ มันก็จะดูหลอนๆ ตัวเองไปนะ กลายเป็นโรคจิตไปซะเปล่าๆ เพราะเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้วค่ะ ความดีจะช่วยรักษาเรา แล้วมันก็จะเป็นไปตามกรรมด้วยค่ะ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)