Author Topic: ในที่สุด ใครก็สามารถค้นหา "คุณ" ได้บน Facebook  (Read 1163 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




ข้อความเตือนผู้ใช้ให้ทราบว่าการตั้งค่า "Who can look up your Timeline by name?" ที่ผู้ใช้เคยเลือกไว้ ถูกยกเลิกแล้ว


เบื้องต้นเฟซบุ๊กแนะนำให้คลิกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมทุกครั้งโพสต์


การตั้งค่าอนุญาตว่าใครสามารถเปิดชมโพสต์นั้นได้ (audience of posts)

ชาวเฟซบุ๊ก (Facebook) หมดสิทธิ์ปิดกั้นชื่อตัวเองออกจากระบบเสิร์ช เพราะล่าสุดเฟซบุ๊กยกเลิกระบบตั้งค่าที่ทำให้ชาวโซเชียลสามารถปกป้องตัวเองไม่ให้ระบบเสิร์ชของเฟซบุ๊กแสดงข้อมูลแก่คนแปลกหน้าที่ใส่คำค้นหาด้วยชื่อ เบื้องต้นเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่าระบบตั้งค่าที่ยกเลิกไปนั้นสร้างความสับสนและไม่เหมาะสมในการใช้งาน โดยแนะให้ผู้ใช้เลือกบล็อก (block) หรือปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้เฉพาะรายเห็นโปรไฟล์จากระบบเสิร์ชแทน
       
       ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเฟซบุ๊กสามารถตั้งค่าไม่ให้คนแปลกหน้าได้เห็นประวัติหรือโปรไฟล์บนเฟซบุ๊กด้วยการเลือกที่คุณสมบัติ "Who can look up your Timeline by name?" ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกว่าอนุญาตให้ใครสามารถเห็นโปรไฟล์จากการค้นหาด้วยชื่อหรือนามสกุล ปรากฏว่า 10 ตุลาคม 2013 เฟซบุ๊กประกาศดีเดย์เริ่มยกเลิกการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยตั้งไว้ และคาดว่าจะมีผลต่อผู้ใช้ทุกคนในช่วง 2-3 สัปดาห์นับจากนี้
       
       การยกเลิกระบบตั้งค่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการประกาศเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว โดยช่วงปลายปี 2012 เฟซบุ๊กประกาศยกเลิกคุณสมบัตินี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีการตั้งค่าใดๆไว้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือเฟซบุ๊กจะยกเลิกการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยเลือกไว้ จุดนี้เฟซบุ๊กยืนยันว่ามีผู้ใช้คิดเป็นไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เคยตั้งค่าคุณสมบัตินี้
       
       เฟซบุ๊กระบุว่า แต่เดิม คุณสมบัตินี้จะช่วยปกป้องไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้ปรากฏเมื่อคนแปลกหน้าพิมพ์ชื่อหรือนามสกุลลงในแถบค้นหา ทั้งข้อมูลเช่นความเคลื่อนไหวหรือไทม์ไลน์ (Timeline) และข้อมูลประวัติโปรไฟล์ แต่จะไม่มีการปกป้องเมื่อผู้ค้นหาเป็นเพื่อนหรือ friend กับผู้ใช้รายนั้น ขณะเดียวกัน คุณสมบัตินี้ถูกสร้างมาก่อนที่เฟซบุ๊กจะเปิดให้บริการค้นหา Graph Search และการปรับโครงสร้างข้อมูลบนเฟซบุ๊ก ซึ่งเฟซบุ๊กเชื่อว่าคุณสมบัตินี้ทำให้เกิดความสับสนมากกว่าจะเกิดประโยชน์
       
       คำว่าไม่เกิดประโยชน์ของเฟซบุ๊กนี้หมายถึง คุณสมบัตินี้ไม่เคยปกป้องข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ใช้จากคนแปลกหน้า เนื่องจากชาวเฟซบุ๊กสามารถคลิกที่ชื่อผู้ใช้บนข้อความอัปเดทสถานะเพื่อเปิดชมไทม์ไลน์ของทุกคนได้อยู่แล้ว (ไม่ต้องพิมพ์ชื่อเพื่อค้นหา) ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เฟซบุ๊กจึงตัดสินใจยกเลิกคุณสมบัตินี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กทุกคนสามารถค้นหาชื่อสมาชิกรายใดก็ได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดผ่านบริการ Graph Search
       
       โดยไม่เพียงโปรไฟล์ แต่ยังสามารถค้นหาข้อความสถานะหรือ status update รวมถึงการค้นหากลุ่มเปิด (open group) ที่จะทำให้ผู้ค้นหาได้เห็นภาพโปรไฟล์และสมาชิกทุกคนในกลุ่ม ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการค้นหา Graph Search ของเฟซบุ๊กที่สามารถค้นหาบุคคลได้โดยใช้วลีภาษาพูด เช่น "People who live in Seattle" วลีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถรู้ว่าใครอาศัยในเมืองซีแอตเทิลบ้าง
       
       เฟซบุ๊กระบุว่า ทางที่ดีที่สุดที่ชาวเฟซบุ๊กจะควบคุมว่าใครสามารถค้นหาข้อมูลใดได้บ้าง คือการเลือกว่าใครสามารถมองเห็นเรื่องหรือข้อมูลเฉพาะอย่างที่ถูกแชร์ไว้ ซึ่งจะเป็นการลดขั้นตอนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่ารอบเดียว ด้วยการตั้งค่าเฉพาะข้อมูลที่เผยแพร่ไปว่าเปิดให้ใครอ่านได้บ้าง ซึ่งเชื่อว่าจะลดความสับสน และทำให้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ทำได้ง่ายขึ้น
       
       เฟซบุ๊กย้ำว่าจะมีการเตือนผู้ใช้ให้ทราบว่าการโพสต์ข้อความที่ตั้งไว้เป็นสาธารณะ (public) จะสามารถถูกอ่านได้โดยทุกคน รวมถึงผู้ใช้รายอื่นที่ไม่รู้จักกับผู้โพสต์เป็นการส่วนตัว แต่ข้อมูลไทม์ไลน์จะสามารถถูกปิด ไม่ให้แสดงกับบุคคลที่ผู้ใช้เลือกบล็อกไว้ได้เช่นเดิม

       อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเห็นจากนักพิทักษ์สิทธิส่วนบุคคลว่าการปิดคุณสมบัตินี้จะเกิดผลเสียต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กอย่างไร แต่เบื้องต้นเฟซบุ๊กแนะนำให้คลิกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมทุกครั้งโพสต์ และการตั้งค่าอนุญาตว่าใครสามารถเปิดชมโพสต์นั้นได้ (audience of posts) เพิ่มเติม


       สามารถอ่านรายระเอียดการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของเฟซบุ๊กที่นี่

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
30672 Views
Last post June 07, 2011, 02:39:17 PM
by Nick
0 Replies
1598 Views
Last post May 03, 2012, 01:29:08 PM
by Nick
0 Replies
1758 Views
Last post February 05, 2013, 06:11:29 PM
by Nick
0 Replies
1890 Views
Last post April 05, 2013, 09:05:44 PM
by Nick
0 Replies
1698 Views
Last post April 17, 2013, 04:26:29 PM
by Nick
0 Replies
1567 Views
Last post August 01, 2013, 02:56:37 PM
by Nick
0 Replies
1302 Views
Last post January 22, 2015, 01:08:34 PM
by Nick
0 Replies
1598 Views
Last post August 07, 2015, 12:18:02 PM
by Nick
0 Replies
1277 Views
Last post October 12, 2015, 04:26:38 PM
by Nick
0 Replies
1529 Views
Last post May 10, 2016, 12:56:50 PM
by Nick