“อดีตพระมิตซูโอะ” ควงภรรยา “แอน” ออกรายการปฏิเสธโดนของ บอกเป็นรักแรกพบ ยันไม่บาป เพราะก่อนสึกไม่เคยทำผิดวินัยสงฆ์ แต่พอรู้ว่าตัวเองจิตใจหวั่นไหวจึงรีบสึกออกมาเพราะไม่อยากให้ความเป็นพระมัวหมอง ลั่นตนตัดสินใจถูกแล้ว วอนทุกคนยินดีกับชีวิตคู่ของตนด้วย หลังจากตกเป็นข่าวครึกโครมอยู่นาน สำหรับเรื่องราวของอดีตพระชื่อดังชาวญี่ปุ่น “มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ” ที่ตัดสินใจสึก เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา หลังบวชมานานกว่า 38 พรรษา เพื่อแต่งงานกับภรรยาสาวชาวไทย “แอน สุทธิรัตน์ มุตตามระ” กระทั่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงคู่กันมาออกรายการ “ตีสิบ” ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันอังคารที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางช่อง 3 โดยยืนยันว่าการสึกไปแต่งงานครั้งนี้ตนไม่ได้โดนของ แต่เป็นรักแรกพบ และอยากดูแลกันไปตลอดชีวิต
มิตซูโอะ : “เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะตอนเป็นพระมีแต่คนยกย่อง พอลาสิกขาไปมีแต่คนโจมตี ไม่มีใครเกรงใจเลย ทุกวันนี้มีเวลามากขึ้นเพราะตอนเป็นพระมีกิจกรรมตลอดไม่ค่อยมีเวลา แม้ว่าจะลาสิขามาแล้วก็ยังปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิอยู่ แล้วก็มากขึ้นกว่าตอนเป็นพระด้วยซ้ำ และที่ออกมาพูดวันนี้คิดว่าคนเข้าใจดีขึ้น เพราะวันนี้เพิ่งออกมาพูดครั้งแรกพูดอย่างมีสติ ว่าที่สึกไม่ได้โดนของ”
ด้านภรรยา “แอน” ได้เล่าย้อนจุดเริ่มต้นที่ทำให้พบรักกันให้ฟังว่า…
แอน: “รู้จักเพราะเคยเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย 30 ปี และเขามีชื่อเสียง ตอนนั้นธุรกิจที่ภูเก็ตไฟไหม้ เครียดมากก็เลยปรึกษากับพี่สาวของอดีตสามี แล้วเขาพาไปหาพระอาจารย์มิตซูโอะจะได้สบายใจ ซึ่งวันที่ไปนั้นตรงกับวันที่ 14 กุมภาฯ ท่านก็ได้ให้ธรรมะก็สบายใจ อยู่ต่อเป็นเดือนๆ แต่ท่านก็ไปๆ มาๆ ไม่ค่อยได้พบกัน แล้วตอนนั้นก็รู้ว่าท่านเป็นโรคเบาหวานก็เลยหมั่นเอาอาหารเสริมวิตามินไปถวาย”
“จากนั้นท่านก็รู้ว่าเราทำคลินิก เขาก็เลยสนใจ ตอนนั้นก็เลยให้อดีตสามีเทคแคร์ดูแลที่กรุงเทพฯ แล้วเราก็อยู่วัด ตอนช่วงสงกรานต์ท่านต้องไปเอาผลเลือดแอนก็เลยนิมนต์พาไป เพราะจะเข้ากรุงเทพฯพอดี ระหว่างขับรถก็ได้การซักถามให้ช่วยเรื่องงานให้ช่วยดูแลเฟซบุ๊กตอบคำถามธรรมมะ ก็เลยเป็นเลขาส่วนตัวและก็ดูแลสุขภาพทำให้เกิดความสนิทสนม”
เผยสุดเครียดถูกซัดมอมยาฝ่ายชายถ่ายรูปโป๊และจับสึก
แอน : “ตอนแรกอ่านงานทุกวันเครียดมากเพราะมีข่าวว่าจับท่านสึก มอมยาให้ท่านถ่ายรูปโป๊ ก็ปฏิเสธเลยว่าข่าวที่ออกมานั้นไม่เป็นความจริง เพราะว่าก่อนสึกวันสุดท้ายไปเทศน์มา 3 แห่งทั้งวัน แปลว่าก็ต้องมีสติตลอดจะถูกมอมยาได้ยังไง ก็เลยโพสต์ชี้แจงความจริงในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกวันรุ่งขึ้นก็เลยเป็นข่าวใหญ่โต”
เผยเป็นรักแรกพบ ยันไม่บาป
มิตซูโอะ : “รักตั้งแต่เจอครั้งแรกเหมือนรู้จักมานาน เหมือนคุ้นเคย ถูกชะตา แล้วแอนทำอะไรถูกใจหลายอย่าง แต่ตอนนั้นไม่รู้สึกผิดเพราะห้ามได้ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว ก็เลยคิดจะลาสิกขาไปแต่งงานประมาน 2 เดือนหลังจากทำงานด้วยกัน เพราะว่าเหมือนเป็นเนื้อคู่กันมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ถ้าเกิดร่วมกันเผยแพร่ศาสนามาช่วยกันก็น่าจะดี ก็เลยขอดูแลกันตลอดชีวิต”
“ไม่บาปเพราะเต็มใจลาสิกขา เพราะเป็นพระมา 38 ปี รู้สึกว่าอิ่มตัวแล้ว อยากมีครอบครัว แล้วก็ในความรู้สึกที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ศาสนามัวหมอง ก่อนที่จะสึกนั้นก็ไม่ได้ทำผิดวินัยสงฆ์แต่ประการใดเพราะลาสิกขาแล้วถึงใช้ชีวิตตามคนปกติ เพราะที่ผ่านมานั้นเป็นพระที่ดี พอรู้ว่าตัวเองจิตใจหวั่นไหวก็เลยรีบสึกออก ไม่อยากให้ความเป็นพระมัวหมอง แต่หลายคนมองตรงกันข้ามว่าทำไมตัดสินใจเร็ว แต่หลังสึกก็เสียใจเหมือนกันว่าสิ่งที่เคยเขียนสอนเอาไว้ถูกมูลนิธิปิดกั้นหมด ไม่ให้เข้าวัด”
ส่วนที่มีคนจับผิดว่ามือดำเพราะโดนของนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นพระวัดป่ามีกฎว่าวันสึกต้องทำความสะอาดกุฏิ ตนเผาขยะมือเลยดำ ไม่ใช่โดนของอย่างแน่นอน
มิตซูโอะ : “พระวัดป่ามีกฎว่าจะลาสิกขานั้นต้องทำความสะอาดกุฎิ แล้วต้องทำเองทุกอย่าง ต้องเก็บของเผาขยะเอง เพราะว่าเรื่องสึกเป็นความลับ วันนั้นมือก็เลยดำ ชาวบ้านเลยบอกว่าเราโดนของ แล้วก็เจ็บมือเจ็บขาด้วยเพราะว่าต้องเดินทั้งวันทำให้เดินผิดปกติ ที่ไม่อยากบอกตอนนั้นก็เพราะกลัววุ่นวาย เพราะว่าสึกลำบากมาก มีคนห้ามไม่ให้ลาสิกขา ต้องวิ่งหาวัดสึกให้เพราะจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่น แอนเลยรีบหาวัดให้สึก แต่ก็ไม่มีใครสึกให้ ไม่มีวัดไหนสึกให้เพราะว่าไม่กล้า เพราะบวช 38 พรรษา กลัวสังคมประณาม สุดท้ายไปวัดชนะสงคราม เป็นวัดที่มีพระอาจารย์แอนรู้จักอายุประมาน70 เป็นคนสึกให้”
มีข่าวว่า “แอน” มีหนี้พันห้าร้อยล้าน?
แอน : “เพราะทำธุรกิจแล้วต้องมีหลักทรัพย์เป็นหนี้ธรรมดา ก็ยืนยันได้เลยว่าไม่ได้แต่งงานกับท่านเพราะเกาะท่าน เพราะท่านเป็นพระวัดป่าไม่มีเงิน ที่เห็นว่ามีคนเอาเงินมาบริจาคนั้นเอาเข้าวัดกับมูลนิธิหมดเลย แม้ว่าคนให้ส่วนตัวก็ไม่เอา”
ลั่นตัดสินใจถูกที่ลาสิกขา
มิตซูโอะ : “ถูก ไม่มีอะไรผิด แต่ว่ามีอุปสรรคมากมายเพราะตอนเป็นพระสบายใจไม่มีปัญหา แต่ว่าตอนนี้ก็มีความสุขที่มีครอบครัว เพราะว่าจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว ขอให้ทุกคนยินดีกับเรา”
ที่มา: manager.co.th
