ประชุม กมธ.การเมือง-สื่อ สภาฯ ถกเรื่องอีเอชไอเอเขื่อนแม่วงก์ “ศศิน” มาเอง ครม.อนุมัติทั้งที่รายงานไม่สมบูรณ์ ตอกย้ำถ้าสร้างที่เขาชนกันรับน้ำได้เยอะกว่า แต่สร้างพื้นที่ปัจจุบัน กักน้ำน้อย กระทบแหล่งเสือโคร่ง ลั่นไม่ถอดใจแต่ห่วงพวกเอาเขื่อนบิดเบือน ด้าน “ปลอด” ปอดแหกส่ง “สุพจน์” รับรายงานไม่สมบูรณ์ อ้างแค่กรมชลฯ เสนอ ยังไม่ได้รับฟังความเห็น วันนี้ (2 ต.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานธรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมมีการพิจารณาศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนและกระบวนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจให้ก่อผลกระทบต่อชุมชุนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (อีเอชไอเอ) กรณีโครงการเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ โดยเชิญนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มาให้ข้อมูล แต่นายปลอดประสพมอบให้นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนบริการจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) มาให้ข้อมูลแทน
โดยนายศศินชี้แจงว่า โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์เป็นของกรมชลประทานที่มีการศึกษามาตั้งแต่ก่อนเหตุน้ำท่วมปี 2554 ต่อมาโครงการนี้ได้เข้าไปอยู่ใน สบอช. และประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ต่อมาวันที่ 10 เม.ย. 2555 ครม.อนุมัติการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ทั้งที่อีเอชไอเอยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งรายงานของอีเอชไอเอ ปี 2540 ที่สนับสนุนให้มีการสร้างเขื่อนบริเวณพื้นที่เขาชนกัน แทนพื้นที่ปัจจุบัน เพราะหากไปสร้างที่เขาชนกันจะช่วยรองรับน้ำได้ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 500 ล้านลูกบาศ์กเมตร
แต่หากก่อสร้างในพื้นที่ปัจจุบันจะรับน้ำได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หรือ 200 ล้านลูกบาศ์กเมตร ซึ่งการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะกระทบระบบนิเวศน์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งจำนวนมากเป็นอันดับสองของโลก แม้จะเป็นพื้นที่แค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็น 1 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องรักษาไว้ในเรื่องระบบนิเวศ ทั้งนี้ ประโยชน์ที่จะได้รับจากเขื่อนแม่วงก์ในการกักเก็บน้ำมีเพียง 100,000 ไร่ไม่ใช่ 300,000 ไร่ตามที่เข้าใจกัน อีกทั้งพื้นที่รองรับน้ำท่วมบริเวณที่จะก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ก็ไม่ใช่พื้นที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ เพราะจุดประสงค์เดิมของเขื่อนแม่วงก์สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ไม่ใช่แก้ปัญหาน้ำท่วม
ด้านนายสุพจน์ชี้แจงว่า ยืนยันว่าเขื่อนแม่วงก์สามารถลดผลกระทบปัญหาน้ำท่วมได้ โดยลดอัตราการไหลสูงสุดของน้ำจาก 1,000 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที เหลือ 490 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ถือว่าลดปัญหาได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ รายงานอีเอชไอเอที่ระบุว่ายังไม่สมบูรณ์นั้น นายกรัฐมนตรีและนายปลอดประสพให้นโยบายว่าพร้อมจะเชิญนายศศินและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ สื่อมวลชนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ หากมีข้อมูลใหม่ก็พร้อมนำไปพิจารณาเพิ่มเติม
จากนั้นกรรมาธิการฯ ได้ซักถามถึงกรณีการระงับการออกกาศรายการคนค้นฅน ทางช่อง 9 เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายศศินชี้แจงว่า ไม่ทราบถึงเหตุผลการไม่ได้ออกอากาศ เพราะเป็นเรื่องของบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กับช่อง 9 ทราบเพียงว่าเหตุที่ไม่ได้ออกอากาศเพราะเสนอเนื้อหาเพียงแค่ด้านเดียว แต่ก่อนออกอากาศก็มีการตรวจสอบเนื้อหารายการ 2 ครั้ง ขณะที่นายศุภชัยได้สอบถามว่า การที่ ครม.อนุมัติโครงการเขื่อนแม่วงก์ได้มีการเสนอรายงานอีเอชไอเอที่สมบูรณ์ต่อ ครม. หรือไม่ นายสุพจน์ชี้แจงว่า รายงานของอีเอชไอเอที่เสนอให้ ครม.รับทราบนั้น เป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ของกรมชลประทานเท่านั้นที่เสนอมายัง สบอช. แต่ยังไม่มีการสรุปรับฟังความเห็นจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการฯ ได้แสดงความห่วงใยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจทำให้นายศศินถอดใจเหมือนกรณีนายสืบ นาคะเสถียร ซึ่งนายศศินยืนยันว่าไม่ถอดใจ เพราะวันนี้มีคนลุกขึ้นมาร่วมอนุรักษ์ป่าเป็นจำนวนมาก ไม่ได้ถูกทิ้งให้สู้แบบโดดเดี่ยวเหมือนสมัยนายสืบ แต่สิ่งที่กังวลคือการขึ้นเวทีต่างๆ แล้วมีการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายที่สนับสนุนให้สร้างเขื่อน ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ครม.อนุมัติการสร้างเขื่อนแม่วงก์ได้อย่างไร ในเมื่อรายงานอีเอชไอเอที่เสนอให้ ครม.พิจารณานั้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงไม่น่าจะถูกต้องในแง่ของหลักการ
ที่มา: manager.co.th
