Author Topic: สหภาพ กสท ได้ทีไล่ส่ง'ระนองรักษ์'  (Read 857 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

"สร.กสท" เสนอเรื่องเร่งด่วนให้ รมต.ไอซีที คนใหม่หากรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ต้องการให้เร่งเครื่องปลดล็อกกฎระเบียบพัสดุการเข้าประมูลในหน่วยงานรัฐ&เปลี่ยนวิธีจ่ายสัมปทานเป็นค่าเช่าโครงข่ายแทน ชี้เมื่อพรรคการเมืองเปลี่ยนขั้วบอร์ดก็ถูกเปลี่ยน แจงการแต่งตั้งหนีไม่พ้นการเมืองเข้ามาแทรก ขณะที่ "เอไอเอส" ชี้กรณีข้อพิพาทสัญญาสัมปทานไม่มีผลกระทบ

 นายสุขม ชื่นมะนา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ สร.กสท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับกระแสข่าวที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เตรียมปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากไม่ลงคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทยหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจยุติลงซึ่งพรรคดังกล่าวมี ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี (ภรรยาของนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี กลุ่มวังพญานาค)  ซึ่งกำกับดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน),บมจ.กสท โทรคมนาคม,บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท ,กรมอุตุนิยมวิทยา และ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ว่า หากมีการปรับเปลี่ยนพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากพรรคร่วมรัฐบาลสิ่งที่ตามมาก็ คือ การเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่ฝ่ายการเมืองแต่งตั้งขึ้นมา เรื่องดังกล่าวไม่สามารถ

 อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีไอซีทีตามที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ สิ่งที่ สร.กสท จะนำเสนอต่อรัฐมนตรีไอซีทีคนใหม่ คือ เรื่องเดิมที่เคยนำเสนอต่อ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อาทิเช่น การแก้ไขกฎระเบียบพัสดุที่จำกัดไม่ให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คือ บมจ.ทีโอที,บมจ.กสท โทรคมนาคม และ ปณท เข้าร่วมประมูลในหน่วยงานของกรมการปกครอง  เพราะมีกฎระเบียบควบคุมเนื่องจากเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ดังนั้นไม่สามารถให้ทั้ง 3หน่วยงานเข้าร่วมประมูลพร้อมกันได้ ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีผลวินิจฉัยออกมาแล้วว่าให้อำนาจกระทรวงไอซีทีแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าวได้แต่เรื่องดังกล่าวผ่านมา 1 ปีกว่ารัฐมนตรีคนปัจจุบัน (ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี) ยังไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด
 นอกจากนี้แล้วกรณีรายได้ค่าสัมปทาน สร.กสท ได้เคยนำเสนอต่อร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี  ให้เอกชนปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่าสัมปทานเป็นวิธีการเช่าโครงข่ายแทน แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน

 "คนใหม่ที่จะเข้ามาเราก็ไม่รู้มาจากพรรคไหน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สร.กสท ก็จะนำเรื่องเดิม ๆ ที่เคยนำเสนอให้พิจารณาอย่างเร่งด่วน"
 นายสุขุม ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณี พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ....ทั้งสองหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงไอซีที คือ  สร.กสท และ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.ทีโอที ได้ออกมาคัดค้านเคลื่อนไหวในมาตรา 78 (วรรค3) กำหนดไว้ว่าเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาหนึ่งปี ให้รัฐวิสาหกิจนำรายได้จากผลประกอบการในส่วนการให้ใบอนุญาตสัมปทานนำส่งให้ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) สามารถยืดระยะเวลาออกไปได้เป็น 3 ปี

 "เรื่องนี้ทั้งสองสหภาพคัดค้านได้สำเร็จเพราะที่ผ่านมาได้เรียกร้องทางหน่วยงานกำกับดูแลก็ไร้ผล ทั้งสองหน่วยงานร่วมมือกันผลักดันจนสำเร็จ"
 ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หากมีการเปลี่ยนพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากรัฐบาลผลที่เกิดขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมโทรคมนาคม คือ คณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ต้องถูกปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกันเนื่องจากคณะกรรมการทั้งสองบริษัทถูกแต่งตั้งมาจากฝ่ายการเมือง หากมีการปรับเปลี่ยนพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะมีผลกระทบหรือไม่นั้นในขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะ เอไอเอส เป็นคู่สัญญากับ บมจ.ทีโอที ซึ่งสัญญาทุกอย่างบริษัทได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ

ที่มา: thannews.th.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)