Author Topic: "เทคโนโลยี TETRA" ... กับภารกิจกู้วิกฤต  (Read 1669 times)

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

เมื่อวันที่ 25-27 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน "TETRA World Congress 2010" ณ ประเทศสิงคโปร์ ภายในงานเป็นการแสดง นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเทตรา (TETRA : TErrestrial Trunked Radio) ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบวิทยุสื่อสารแบบทรังก์ดิจิทัล (หรือที่บ้านเรา เรียกว่า วอล์กกี้ทอล์กกี้) ซึ่งถูกกำหนดขึ้นโดยสถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมแห่งสหภาพยุโรป (European Telecommunications Standardisation Institute : ETSI)



"เพ เต็ก โม" รองประธานบริษัท โมโตโรล่า เอ็นเตอร์ไพรส์ โมบิลิตี้ โซลูชั่น เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ระบบเทตราได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด 75 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งในระบบการป้องกันภัยสาธารณะของประเทศ ระบบการขนส่งสาธารณะ ธุรกิจการบิน น้ำมัน หรืออสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งต้องการระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรสูงทั้งในยามปกติและภาวะฉุกเฉิน

อย่างโมโตโรล่า เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้ มียอดขายจากผลิตภัณฑ์ภายใต้ระบบเทตราสูงถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในจำนวนนี้ 30% มาจากการติดตั้งระบบเทตราในระบบรถไฟฟ้าของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และในปัจจุบันมีการติดตั้งระบบเทตราไปแล้วกว่า 1.2 ล้านสถานีฐานทั่วโลก อาทิ หน่วยงานตำรวจและระบบรถไฟฟ้าใต้ดินในฮ่องกง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ ระบบสื่อสารภายในสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอินซอนของเกาหลีใต้ หรือแม้แต่ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่ง คอมมอนเวลเกม 2010 ที่นิวเดลี รวมถึงเซี่ยงไฮ้ เวิลด์เอ็กซ์โป 2010

และยังมีบทบาทสำคัญในการกู้ภัย พิบัติหลาย ๆ ครั้ง ผ่านการทำงานของ นักผจญเพลิง หน่วยกู้ภัยและหน่วยงานกาชาดในประเทศต่าง ๆ อาทิ แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน เมื่อ 12 พ.ค. 2551 ซึ่งทีมงานของโมโตโรล่าได้ร่วมกับรัฐบาล นครเฉิงตู และสภากาชาดจีน นำระบบเทตราไปใช้หลังจากระบบสื่อสารปกติได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับที่สนามบินสุวรรณภูมิประสบปัญหาโครงข่ายโทรศัพท์ล่มทั้งหมดในวันเปิดทำการวันแรก แต่โชคดีที่มีการติดตั้งระบบเทตราไว้ พนักงานทั้งหมดจึงสามารถติดต่อสื่อสารภายในสนามบินได้อย่างราบรื่น

"ระบบเทตราในปัจจุบัน พัฒนาจากเครื่องมือสื่อสารแบบ push-to-talk ในสมัยสงครามโลก ที่ส่งผ่านแค่เสียงจากคนหนึ่งไปถึงยังอีกคนหนึ่ง แต่สามารถส่งผ่านทั้งเสียง ข้อความสั้น ภาพนิ่ง วิดีโอคลิปความละเอียดสูง แผนที่ รวมถึงการบอกพิกัดที่อยู่ด้วยเทคโนโลยี GIS (ภูมิสารสนเทศ) ให้ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้พร้อม ๆ กันแบบเรียลไทม์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในระบบ

ตัวเครื่องวิทยุสื่อสารอย่าง "MTM 5400" ที่ได้เปิดตัวในงานนี้จึงได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนทั่วไป เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการรักษาความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันระบบเทตรารุ่นใหม่ยังรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ และพร้อมเชื่อมต่อได้ทั้งในรูปแบบของบรอดแบนด์ บลูทูท WiFi WiMax 3G 4G และ LTE หากได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลระบบให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในเครือข่าย ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้จะช่วยลดข้อจำกัดในการใช้งานระบบ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้วิทยุสื่อสารติดตัวอยู่ตลอดเวลาก็สามารถรับหรือส่งข้อมูล อาทิ ภาพเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือภาพคนร้ายที่บังเอิญได้พบเห็นหลังจากออกเวรแล้ว เข้าสู่ระบบเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที

ขณะที่ตัวสถานีฐานที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบทั้งหมดก็ได้พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงและสามารถติดตั้งให้พร้อมใช้งานได้เร็วขึ้น เช่น "MTS1" ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 20.5 กิโลกรัม เหมาะกับการเคลื่อนย้ายไปพร้อมโมบายยูนิต และองค์กรธุรกิจขนาดกลางถึงเล็กที่ต้องการระบบการสื่อสารเพื่อการดูแลรักษาความปลอดภัยในระดับสูง อาทิ กาสิโน รีสอร์ต ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่

"ทอม เควิร์ก" ผู้จัดการอาวุโสเอ็นเตอร์ไพรส์ โมบิลิตี้ โซลูชั่นเวิลด์ไวด์ บริษัท โมโตโรล่า อิงค์ กล่าวว่า ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในระบบเทตราจะต้องคำนึงถึงปฏิกิริยาของมนุษย์ภายใต้ภาวะวิกฤต ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ อาทิ การลดประสิทธิภาพลงของการมองเห็น การได้ยินและการตัดสินใจ ขณะที่ข้อมูลสถานการณ์แบบเรียลไทม์จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขสถานการณ์ ช่วยเหลือชีวิตของผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้นการออกแบบอุปกรณ์จึงต้องทดสอบแล้วว่า ใช้งานได้ง่ายที่สุด และคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ความร้อนความชื้นความเย็น

และเนื่องจากระบบเทตราสามารถทำงานได้บนทุกโครงข่าย แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ประชาชนมักจะตื่นตระหนกจนทำให้ระบบสื่อสารสาธารณะถูกใช้งานอย่างหนักจนทำให้ระบบล่มในที่สุด ซึ่งหากนำระบบเทตราไปผูกไว้กับโครงข่ายสื่อสารสาธารณะก็จะใช้งานได้เฉพาะการส่งข้อมูลผ่านทางเสียงบนย่านความถี่ 350-380 MHz ที่รัฐบาลส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้เพื่อป้องกันภัยสาธารณะ ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้เต็มประสิทธิภาพเพราะเป็น ย่านความถี่ที่ไม่รองรับการสื่อสารแบบ มัลติมีเดียความเร็วสูง

เวลานี้ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปบางประเทศอย่างเยอรมนี จึงได้จัดสรรคลื่นความถี่ 3G และวางแผนจะจัดสรรคลื่นความถี่ 4G, LTE ที่ใช้งานเฉพาะหน่วยงานรัฐ แยกต่างหากจากความถี่ที่เปิดใช้เชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นเครื่องรับประกันว่า หากเกิดภัยพิบัติขึ้นก็ยังมีโครงข่ายคุณภาพสูงสำหรับกู้วิกฤต

นี่คือไอเดียของประเทศที่เจริญแล้ว ไม่รู้ว่าประเทศที่เคยเกิดสึนามิ มีแผ่นดินไหว น้ำท่วมบ่อย ๆ นึกถึงจุดนี้หรือยัง

ที่มา: prachachat.net


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7441 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
6163 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
2754 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2668 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter
0 Replies
2394 Views
Last post April 29, 2009, 11:26:27 AM
by Reporter
0 Replies
5079 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
2733 Views
Last post June 03, 2009, 01:07:14 PM
by IT
0 Replies
3859 Views
Last post August 28, 2009, 09:43:46 AM
by IT
0 Replies
4592 Views
Last post February 24, 2010, 08:43:26 AM
by Nick
0 Replies
2938 Views
Last post June 02, 2010, 02:52:50 PM
by Nick