Author Topic: คนขับรถเอกยุทธปัดไม่เกี่ยวหายตัวอ้างนายเปลี่ยนรถไปพม่า  (Read 836 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


"เดอะแจ๊ส" แถลงข่าวนำตัว "สันติภาพ" คนขับรถเอกยุทธอ้างแค่นำส่งนายต่อรถไปพม่าปัดไม่รู้เรื่องการหายตัวของนายเอกยุทธ ตร.หิ้วตัวไปสอบหาที่กล่าวอ้างทันทีขอสรุปคดี 1 -2 วันสรุปคดี ด้านภาค 9 สะพัดพบศพเอกยุทธ
       
       เวลา 11.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวควบคุมตัวนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถผู้ต้องสงสัยกรณีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายวันก่อน พร้อมของกลางที่ยึดได้ภายในโฟล์ค สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม. ประกอบด้วย เงินสด 66,300 บาท, นาฬิกาข้อมือ, รองเท้าหนังเปื้อนโคลน, บัตรประจำตัวประชาชน และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือของ นายสันติภาพ ที่อ้างว่าเป็นการเขียนแจ้งให้คนในสำนักงานทราบ 1 ฉบับ
       
       ด้าน นายสันติภาพ กล่าวว่าวันพฤหัสที่ 6 มิ.ย.ตนได้ขับรถพานายไปที่ร้านอาหารกระแตตอน 19.00 น. จากนั้นประมาณ 22.00 - 23..00 น.ก็ขึ้นทางด่วนเพื่อจะพานายเอกยุทธกลับบ้านเมื่อมาถึงที่บ้านนายเอกยุทธหากุญแจเปิดบ้านไม่เจอเลยบอกให้ตนไปหากุญแจหลังตู้เย็นมาสิ เจอกุญแจสำรอง จึงสามารถเข้าบ้านได้แต่ขณะเดียวกันนายเอกยุทธก็มีการสนทนาทางโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมกับเดินไปมาตลอดแต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร ต่อจากนั้นนายเอกยุทธได้ใช้ให้ตนไปถอดเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกมาให้ซึ่งตนก็ทำตาม นายเอกยุทธจึงได้นำขึ้นรถพร้อมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบแล้วใช้ให้ขับรถออกทันที
       
       เมื่อนายเอกยุทธขึ้นรถก็ถามว่ามีที่พักที่ไหนได้บ้างตนก็เลยแนะนำบ้านพี่สาวย่านลาดกระบังซึ่งมีแอร์ทุกห้อง โดยนายเอามือถือไปด้วยจำนวน 4 เครื่อง เมื่อถึงบ้านพี่สาวนายก็เข้าห้องไปพักผ่อนนตามปกติ
       
       ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย.นายก็โทรศัพะท์บอกให้ลูกน้องที่บ้านนำเช็คให้ พอถึงเวลา 10.00 น.ก็เลยไปจอดรอที่ช่อง 8 สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่นัดหมาย จากนั้นตนก็ได้ลงไปเอาสมุดเช็คขึ้นมาให้นายเซ็นโดยที่คนนำเช็คมาให้ไม่พบกับเอกยุทธโดยตรง เมื่อนายเอกยุทธเซ็นเสร็จจึงนำเช็คมอบให้ไปขึ้นเงินจ ากนั้นตนก็ขับรถออกไป พอถึงเวลาประมาณ 15.00 น.นายเอกยุทธก็ให้ตนขับรถพามารับเงินที่ช่อง 8 เหมือนเดิมหลังจากนั้นมีพนักงานผู้หญิงชื่อ "อิง" นำเงินสดมาให้โดยใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลใบใหญ่และใส่ถุงพลาสติกอีกชั้นโดยที่ตนไม่รู้ว่าข้างในนั้นคือเงินสด จากนั้นตนก็นำขึ้นมาวางให้นายเอกยุทธที่เบาะด้านหน้าซ้ายนายเอกยุทธ
       
       เมื่อตนขึ้นรถและขับออกจากสนามบินสุวรรณภูมิจากนั้นนายเอกยุทธก็บอกตนว่าขับลงใต้ได้ไหม ผมก็บอกว่าลงได้สบายครับบ้านผมอยู่พัทลุงอยู่แล้ว ก็เลยมีการแวะเติมน้ำมันก่อนจำนวน 2 พันบาทที่ย่านมอเตอร์เวย์ ซึ่งตนได้ยินนายเอกยุทธคุยโทรศัพท์กับปลายทางว่า "จะมารับหรือยังเดี๋ยวกูจะไปพม่า"
       
       หลังจากนั้นตนจึงขับมาตามทางจนถึงถนนบายพาสเส้นปราณบุรี นายเอกยุทธได้สั่งให้จอดรถ โดยมีรถเก๋งสองคันสีดำ จอดต่อท้ายรถตู้จนไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน จากนั้นนายเอกยุทธเอกยุทธได้ลงจากรถแล้วยื่นเงินให้ตน 1 พันบาทแล้วบอกกับตนว่าให้กลับไปพักผ่อนก่อนเดี๋ยวค่อยมาทำงานตอนผมกลับมา
       
       "เห็นว่านายถือกระเป๋าไปหนึ่งใบลงไปขึ้นรถเก๋งไป จากนั้นตนก็คิดว่าเป็นวันหยุดตนเองเลยคิดว่าขับรถกลับบ้านที่จ.พัทลุงเพื่อจะโชว์ญาติ เมื่อกลับไปถึงไม่เจอใครอยู่จึงขับรถกลับมากรุงเทพฯ ซึ่งระหว่างกลับมาระหว่างทางก่อนถึงมหาชัย ยางรถเกิดแตกจึงแวะปั๊มน้ำมันที่อยู่ก่อน จ.สมุทรสงคราม 5 ก.ม.เพื่อจะปะยางเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวานนี้ (10 มิ.ย.) แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ซึ่งตนตกใจมากก่อนถูกนำตัวมาสอบสวนโดยที่ตนไม่ทราบว่านายเอกยุทธหายไปไหนจริงๆ"นายสันติภาพระบุ
       
       นอกจากนี้ตนยังได้เขียนบันทึกที่จะเตรียมมาแปะไว้ที่ออฟฟิตว่า "ถึงบริษัทเน็ตอีสท์ ผมไม่ได้หนีไปไหนแต่นายสั่งให้ผมหลบไปสักพักแล้วค่อยกลับมา ผมไปส่งนายที่ที่นายสั่งว่าห้ามบอกใคร และให้ผมย้อนกลับมาเมื่อนายกลับมา ลงชื่อ BALL"
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมมีการเขียนจดหมายแจ้งไว้ นายบอลกล่าวว่าตนกะเอามาติดไว้ที่พวงมาลัยเวลานำรถมาจอดไว้ที่บริษัทเพื่อคนอื่นจะได้ไม่ต้องถามหรือเป็นกังวล
       
       พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่่ปักเชื่อในคำให้การของนายสันติภาพแต่จากกการตรวจสอบพยานเป็นไปตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ตอนนี้ขอเวลาใให้ตำรวจชุดสืบสวนประมาณ 1- 2 วันในการติดตามพยานหลักฐานว่ามีความคืบหน้าอย่าง เพราะอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายอย่างตามมา เช่นเงินสด 5 ล้านประกอบกับมีคนมารับนายเอกยุทธไปด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องใช้เวลาสืบสวนก่อนจะสรุปได้
       
       พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้กล่าวอีกว่าหลังจากนี้ตนได้มอบหมายให้พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น.เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดี
       
       ทางด้านนางสุภากร แหวนหล่อ อายุ 56 ปี พี่สาวนายเอกยุทธเปิดเผยว่าโดยส่วนตัวตนเป็นคนไม่ชอบการเมืองเกลียดไม่ยุ่งแต่น้องชายชอบเรื่องการเมืองซึ่งก็เป็นเรื่องของเขา
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อหรือไม่ว่านายเอกยุทธถูกอุ้ม นางสุภากร กล่าวว่ายังไม่รู้เหมือนกัน 50-50 รู้แต่ว่ารู้ว่าน้องชายหายไปกับนายสันติภาพแล้วหายตัวไป แล้วจะให้คิดอย่างไรต้องโมโหเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาถ้าจะไปไหนมาไหนก็จะบอกถ้าจะเดินทางไปไหนไกล ๆ ก็จะบอกแม้จะไม่บอกล่วงหน้าก็ตาม ที่ผ่านถ้าเดินทางไกล ๆ จะไม่ไปรถยนต์แน่นอนเพราะน้องชายไม่ค่อยนั่งรถและคิดว่าเสียเวลาเขาเป็นนักธุรกิจ เวลาเป็นเงินเป็นทอง
       
       เมื่อถามว่าไปพม่าบ่อยไหม นางสุภากรกล่าวว่าเขาไปมาทั่วโลกแล้ว ด้วยวิสัยแล้วไม่มีการนั่งรถยนต์แน่นอน ที่ผ่านมาถ้าหากไม่รับโทรศัพท์นายเอกยุทธก็จะติดต่อกลับภายใน 5 นาที ซึ่งขณะนี้แม่ที่มีอายุ 80 ปีแล้วเครียดมากเพราะลูกชายหายไปทั้งคน ส่วนตนมีหน้าที่ติดตามน้องที่หายไปซึ่งตนเป็นคนแจ้งความเอง
       
       เมื่อถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการอุ้มตนเองหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้เพราะตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ภาพวงจรปิดสถานที่ต่าง ๆ ตรงกับคำกล่าวอ้างของนายสันติภาพ อย่างไรก็ตามต้องพบเจอนายเอกยุทธเสียก่อนขณะนี้ญาติก็ไม่ทราบ จึงอยากให้ทางญาติรีบแจ้งให้ทราบทันทีหากนายเอกยุทธติดต่อกลับมาเพื่อความจริงจะได้คลี่คลายโดยเร็ว
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวนายสันติภาพไปชี้จุดเกิดสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทันที
       ขณะเดียวกันเวลา 13.00 น.รายงานข่าวจากตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่า พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พร้อมกำลังตำรวจพัทลุง และเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ และแพทย์ ไปตรวจสอบศพชายต้องสงสัยในพื้นที่จ.พัทลุง เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ที่หายตัวไปอย่างลึกลับนานกว่า 5 วันแล้ว ซึ่งต้องรอผลการตรวจทางนิติเวชก่อนว่าจะใช่นายเอกยุทธหรือไม่

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)