Author Topic: F1 รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ทำเงินน้อยกว่าทำลายโบราณสถาน  (Read 960 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เสียงคัดค้านดังกระหึ่มทั่วทั้งแผ่นดินเลยทีเดียวสำหรับโครงการของ “การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)” โดย “กนกพันธุ์ จุลเกษม” ผู้ว่าการฯ ที่เกิดความคิดอันบรรเจิดด้วยการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถสูตร 1 ชิงแชมป์โลก “ฟอร์มูล่า-วัน(F1)” ในปี ค.ศ.2015 หรือปี 2558 บนเกาะรัตนโกสินทร์
       
       เหตุที่เสียงคัดค้านดังกระหึ่มมิใช่เพราะผู้คัดค้านรังเกียจการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกอันจะนำมาซึ่งชื่อเสียงและรายได้ก้อนมหึมาให้ประเทศไทย แต่ค้านเส้นทางการแข่งขันดังกล่าวซึ่งมีระยะทาง 5.995 กิโลเมตรนั้น ได้ผ่านสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์และเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และของกรุงเทพมหานคร
       
       ทั้งนี้ เส้นทางการแข่งขันที่กำหนดเอาไว้ เป็นที่แน่ชัดว่าจะเริ่มต้นที่กรมอู่ทหารเรือ ท่าราชวรดิษฐ ผ่านถนนมหาราช เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลาน เลี้ยวเข้าถนนหน้าพระธาตุลอดใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเข้าสู่ถนนจักรพงษ์ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำเนิน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินใน ผ่านถนนมหาชัย เลี้ยวขวาเข้าถนนท้ายวัง ก่อนเข้าเส้นชัยที่บริเวณกรมอู่ทหารเรือ
       
       นั่นหมายความว่า เส้นทางการแข่งขันรถสูตร 1 ครั้งนี้จะผ่านพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ป้อมพระสุเมรุ วัดพระเชตุพนฯ หรือวัดโพธิ์ เป็นต้น
       
       กนกพันธุ์ให้เหตุผลเอาไว้ว่า “โครงการนี้เป็นการสนองนโยบายของรัฐ โดยจัดกีฬานานาชาติเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติและโปรโมตการท่องเที่ยว หากไทยได้รับสิทธิก็จะเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ไทยเคยเป็นเจ้าภาพมาและจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุดคือเครดิตความเชื่อมั่นของประเทศไทยที่จะปรากฏในเวทีโลกในการจัดงานใหญ่และยากระดับนี้ได้ ขณะนี้กระบวนการต่างๆ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นก็จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ซึ่งการเจรจาก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของ F1 ได้เตรียมบรรจุให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันของฤดูกาล 2015 ด้วย”
       
       คำถามที่เกิดขึ้นจากเหตุผลของผู้ว่าฯกนกพันธุ์มีอยู่ว่า เหมาะสมหรือไม่กับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่า รถสูตร 1 อาจก่อให้เกิดผลกระทบกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมิอาจประเมินค่าความสูญเสียได้ โดยเฉพาะอย่างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตศาสดาราม ไม่ว่าจะจัดแข่งขันตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีบทพิสูจน์ชัดแจ้งว่า ความดังและความสั่นสะเทือนของรถสูตร 1 นั้นสาหัสสากรรจ์เพียงใด
       
       นี่ไม่รวมถึงความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในการแข่งรถประเภทนี้ จากการแหกโค้งซึ่งจะทำให้อาคารสิ่งปลูกสร้างในแนวถนนตลอดระยะทางของการจัดแข่งอาจได้รับความเสียหาย เพราะทุกตารางเมตรของพื้นที่จัดแข่งรถล้วนเป็นพื้นที่ทางโบราณสถาน ทางประวัติศาสตร์ของเกาะรัตนโกสินทร์และของชาติ
       
       นิรมล มณีคำ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ สำนักจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ระบุว่า ความสำคัญของพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ประมาณ 5.8 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน รอบล้อมแม่น้ำเจ้าพระยาและคูคลองเมืองเดิมนั้น มี โบราณสถานสำคัญ อาทิ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระมหาปราสาท วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นต้น ซึ่งมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ทำให้มีความเสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือนสูงมาก
       
       “ที่ผ่านมาภาครัฐยังพยายามลดแรงสั่นสะเทือนด้วยการลดความแออัดของการจราจร รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่อย่างเข้มงวดไม่ให้มีอาคารสูง และป้ายโฆษณาทุกชนิด เพื่อลดผลกระทบกับอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงมีคำถามว่าควรหรือไม่ที่จะปล่อยให้เกิดกิจกรรมแข่งรถขึ้นในพื้นที่นี้”
       
       เช่นเดียวกับ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อการแข่งขัน แต่หากเสนอเข้ามาก็รู้สึกเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยในการใช้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์แข่งขัน เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อโบราณสถาน เนื่องจากจะมีปัญหาในเรื่องเสียงและความสั่นสะเทือนต่อโบราณสถานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์มีจำนวนมาก
       
       “ผมรู้สึกกังวล เพราะห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน เพราะปัญหาเสียง จึงต้องศึกษาผลกระทบจากเส้นทางก่อนว่าจะเกิดกับโบราณสถานหรือไม่” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
       
       ด้าน “นายศรีสุวรรณ จรรยา” นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ประกาศชัดแจ้งว่า การแข่งขันดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดพ.ร.บ.จราจร พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 พรบ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 2504 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2535 และขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 74 มาตรา 290 ประกอบมาตรา 57 มาตรา 58 และมาตรา 67
       
       “การที่กกท.และกทม. จะใช้อำนาจโดยพละการ นำไปสู่การเห็นชอบให้ผู้ประกอบการเอกชนนำรถฟอร์มูล่า-วันมาแข่งขันเพื่อโปรโมทแบรนด์สินค้าของเอกชน โดยสมอ้างว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นทางสมาคมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติการดำเนินการดังกล่าว หากยังดื้อดึงก็จำเป็นที่สมาคมและชาวชุมชนเกาะรัตนโกสินทร์ที่หวงแหนโบราณสถานและทรัพย์สมบัติของชาติ จะนำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อระงับเพิกถอนโครงการทันที”นายศรีสุวรรณประกาศกร้าว
       
       ทั้งนี้ หากถอดรหัสคำกล่าวของนายศรีสุวรรณก็ทำให้เห็นความจริงอีกประการหนึ่งว่า เบื้องหลังการแข่งขันรถสูตร 1 ในครั้งนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะคำว่า “ผู้ประกอบการเอกชน” เพราะทุกคนรู้ดีว่า “ผู้ประกอบการเอกชน” ที่มีบทบาทให้การสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 นั้น เป็นใคร
       
       อย่างไรก็ดี ก็ได้แต่หวังว่า สุดท้ายแล้ว “ผู้ประกอบการเอกชนรายนั้น” จะรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการและประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 รอบเกาะรัตนโกสินทร์
       
       เพราะในความ เป็นจริงแล้ว ทุกคนเห็นดีเห็นงามกับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยทั้งสิ้น แต่คัดค้านก็เพราะเป็นการจัดในพื้นที่ที่ไม่สมควรเป็นสนามแข่งขันรถ
       

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)