“หนิง” ยันสลิมอัพจะฟ้อง 10 ล้าน เป็นเรื่องเข้าใจผิด ด้าน “จิน” เผยภาพกินข้าวกับ “น้ำหวาน” รูปเก่า ท้าใครเห็นไปไหนด้วยกันให้เข้ามาด่าหน้าตัวเมีย และถ่ายรูปได้เลย แต่หนิงไม่มั่นใจว่ารูปเก่าหรือรูปใหม่ เผยรู้ตัวคนปล่อยรูปแล้วแต่ไม่บอกว่าเป็นใคร ยันตนอยากจบเรื่องนี้แล้วแต่มีคนที่ไม่อยากจบ และถ้าไม่จบก็มีทีเด็ดออกมาแฉเหมือนกัน ขอนักข่าวจะเขียนถึงน้ำหวานอย่าเอ่ยชื่อตนพ่วง อยากรู้ว่าคนจะอ่านข่าวหรือไม่ หลังจากที่มีมือดีส่งฟอร์เวิร์ดเมลภาพ “น้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” นั่งกินข้าวกับ “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามี “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” และเขียนข้อความกำกับขอนุเคราะห์ลงข่าวเรื่องนี้ไม่จบแน่ จนน้ำหวานออกมาปฏิเสธว่าเป็นภาพเก่า ต่อมาก็มีข่าวตามมาว่า หนิงโดยสลิมอัพฟ้อง เพราะตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์แต่ทำผิดสัญญา กลายเป็นกระแสฮือฮาอยู่ไม่กี่วัน จู่ๆ ฝ่ายประชาสัมพันธ์สลิมอัพก็ร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนไปร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ Slim Mom Secrets by Slim up ซึ่งก็คือหนิงนั่นเอง กลายเป็นการสร้างกระแสโปรโมตสลิมอัพหรือเปล่า นับว่าปีนี้เจอข่าวซ้ำซ้อนซะจริงๆ
พอเดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าว หนิงก็ได้กล่าวว่าเป็นการเข้าใจผิด โดยในวันนี้หนิงไม่ได้มาคนเดียว หากแต่มีสามีมาร่วมให้กำลังใจด้วย รวมไปถึง “ชาย อานันท์ทวีป ชยางกูร ณ อยุธยา” คู่กรณีของสองพี่น้อง “น้ำหวาน วรพรรณ - แชมป์ จิรัฐฎ์ พันธุ์คงชื่น” มาด้วย แต่งานนี้ชายไม่ขอให้สัมภาษณ์ อ้างรอแถลงข่าว ส่วนหนิงกับจินนั้นเปิดให้สัมภาษณ์ร่วมกัน
หนิง : “ตามข่าวที่เป็นข่าวกันอยู่จริงๆ มันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกันก็คิดว่าน่าจะเคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มีการเปิดตัววันนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันเพราะว่าในตัวสัญญาหนิงจะเริ่มทำงานในวันนี้ แต่บังเอิญมันมีแบรนด์เก่าอยู่ที่หนิงเคยทำอยู่แล้ว เขาก็เอารูปหนิงไปใช้ซึ่งสัญญาเก่าเขาก็หมดแล้วเหมือนกัน แล้วตัวหนิงเองก็ไม่ได้ดูตรงนั้นจนมันเป็นเรื่องขึ้นมาค่ะ ถามว่าหนิงจะฟ้องทางนั้นไหมก็ไม่ฟ้องค่ะ เพราะว่าเขาก็ไม่รู้ว่าเรามาเซ็นต่ออันนี้แล้ว ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่มีเรื่องส่วนตัวกันอยู่ หนิงเลยไม่ได้ติดต่อไม่ได้สนใจอะไรกับเขาเลย แล้วตัวเขาเองก็คิดว่าเขาจะต่อสัญญากับเรา ตอนนี้เคลียร์ค่ะตอนนี้เคลียร์หมดแล้วค่ะ”
จิน : “ก็ให้กำลังใจหนิงเขาทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยไม่มาไม่ได้ครับ หุ่นหนิงก็เหมือนเดิมแล้วครับ แต่รักรักเหมือนเดิมอยู่แล้วครับ”
หนิง : “พอหุ่นเหมือนเดิมแล้ว สบายใจมากเลยค่ะมั่นใจเหมือนเดิม เพราะว่าเห็นหุ่นตัวเองตอนท้องก็ไม่ไหวเหมือนกันตอนนี้แต่งตัวอะไรก็มั่นใจ แต่ถามว่ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ไหมก็ยังค่ะ ยังขาดอีก 3-4 กิโลกรัมค่ะ”
ส่วนกรณีที่ “หนิง” บอกว่า ไม่กินน้ำหวาน เจ้าตัวยันไม่ได้แขวะคู่กรณี
หนิง : “คือตรงนี้อยากจะบอกว่าอย่าไปคิดอะไรมันมาก คือทุกคนจะถามหนิงหมดว่า หนิงผอมเพราะอะไร หนิงก็บอกว่าหนิงผอมเพราะหนิงเข้าสลิมอัพแล้วเรื่องอาหารการกินก็ต้องระวังเพราะว่าเราก็ยังให้นมลูกอยู่ มันจะไปอดอาหารเลยก็ไม่ได้ แต่อาหารที่มันไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็คือ ของมัน ของทอด ของหวานทั้งหลายก็แค่นั้นเอง มันไม่ได้มีประเด็นอะไรเลยจริงๆ ก็คือมันไม่ได้เป็นของอะไรที่มีประโชยน์จริงๆ แต่ถามว่ากินได้ไหมคนเราก็ต้องกินแต่ก็กินได้แค่เป็นครั้งคราวไม่ใช่กินตลอดเวลา สุดท้ายมันก็ทำให้ร่างกายเรามันอ้วนเพราะว่ามันไม่มีประโยชน์”
“แต่ถ้าคนมองว่าไปแขวะกับคนนั้นหรือเปล่าก็ไม่ได้ไปแขวะเลย เพราะว่าส่วนใหญ่ต้องบอกว่าคนเราต้องลดน้ำหนักก็เป็นสูตรอยู่แล้ว งดแป้ง งดของหวาน งดน้ำมันมันก็ปกติธรรมดา ทำไมต้องคิดว่าหนิงไปแขวะใคร หนิงไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ถ้าใครจะเอาไปคิดหนิงต้องบอกเลยค่ะว่าไปถามเลยถ้าต้องการลดความอ้วนในการลดความอ้วนต้องทำอย่างไรบ้าง ทุกคนก็จะตอบแบบหนิงหมดค่ะ”
“จิน” ยืนยันฟอร์เวิร์ดรูปภาพกินข้าวกับ “น้ำหวาน” ที่ส่งหานักข่าวทุกสำนักนั้นเป็นรูปเก่า
จิน: "จริงๆ มันเป็นรูปเก่ามากนะครับ ตั้งแต่แรกๆ เลยแล้วก็เป็นคนอื่นถ่ายผมไม่ได้ถ่าย คือแอบถ่ายบอกได้เลยครับว่ามันเป็นภาพนานมากแล้ว ก็อยากจะบอกว่าหลังจากที่ผมแถลงข่าวได้ขอโทษภรรยา ขอโทษลูกเมียผม ขอโทษครอบครัวเรา ใครก็ตามผมไม่เคยติดต่อสื่อสารอะไรกับคู่กรณีอีกเลย แล้วก็ไม่เคยคิดจะเจอกัน”
“ถ้าเกิดว่าเห็นผมไปกินที่ไหนกับเขาจริงเดินมาหน้าด่าผมได้เลยว่าผมเป็นหน้าตัวเมียนะครับ แล้วก็ถ่ายรูปผมไปให้นักข่าวได้เลยถ้าเกิดเห็นจริง เพราะผมยืนยันว่า ครอบครัวผมกลับมาอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขมาก พาไปต่างจังหวัดตลอดไปเที่ยวด้วยกันตลอด คืออย่าสร้างเรื่องอะไรที่ทำให้ครอบครัวผมต้องแตกแยกกันอีกเลยเพราะว่ามันบาปกรรม คนประสงค์ไม่ดีหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่ามันเป็นรูปเก่าซึ่งเขาคงไม่ประสงค์ดี หลังจากผมออกมาพูดมันไม่มีอะไรเลยผมไม่กลัวจะมีภาพอะไรหลุดมา”
หนิง : “แต่ถ้าถามหนิงนะเท่าที่หนิงคุยกับหลายๆ ฝ่ายหลายๆ คน วันนี้หนิงพอจะรู้ว่าใครเป็นคนทำแต่ว่าไม่ขอเอ่ยดีกว่าเรื่องมันจะได้จบไป เอาเป็นว่าวันนี้หนิงวอน และหนิงขอพี่ๆ นักข่าวทุกคน ณ ตรงนี้เลยกับคนที่มาหรือไม่มาก็แล้วแต่ หนิงขอว่าถ้าหลังจากวันนี้จะเขียนข่าวถึงผู้หญิงคนนั้นก็กรุณาเขียนถึงแค่ชื่อผู้หญิงคนนั้นอย่างเดียว กรุณาเลยค่ะอย่ามาเขียนถึงว่าเป็นกิ๊กกับคุณจิน ธรรมวัฒนะ หรือต้องมีชื่อหนิงเข้าไปเอี่ยวอีก”
“คุณจะไปสัมภาษณ์หน้าปกหนังสืออะไรก็แล้วแต่ ก็ขอว่าสัมภาษณ์แล้วก็เขียนชื่อเขา ถ้าเขาอยากจะสัมภาษณ์อยากจะเป็นข่าวก็เขียนแต่ชื่อเขาออกมาอย่าเอาชื่อหนิงไปด้วย เพราะว่าขอร้องว่ามันจบไปแล้ว คือลูกหนิงต้องโตนะ ลูกหนิงจะต้องมานั่งอ่านข่าวว่าจะสัมภาษณ์ถึงผู้หญิงคนนั้นเมื่อไหร่ก็ต้องมีชื่อพ่อชื่อแม่เข้าไปพ่วงด้วย หรือแม้แต่กระทั่งเขาเองไม่ว่าเขาจะสัมภาษณ์อะไรก็แล้วแต่ กรุณาอย่ามาพูดถึงหนิง หรือพูดถึงน้องณิริน หรือพูดถึงคุณจินอะไรเด็ดขาดเลย ก็จะได้รู้ว่าคนเขาจะอ่านไหมถ้าไม่มีชื่อเรา”
“หนิง” เผยตนไม่ได้เป็นคนที่ไม่อยากจบ
หนิง : “หนิงก็ไม่รู้ว่ามันไม่จบ มันไม่จบเพราะอะไร มันไม่ใช่ว่าไม่จบเพราะหนิงไม่จบ มันไม่จบเพราะมันมีสิ่งที่ใครบางคนต้องการจะทำเพื่อต้องการอะไรบางอย่าง ซึ่งตรงนี้ขอเถอะชีวิตครอบครัวเรากำลังจะดีแล้วไอ้คำพูดว่าจบไม่จบ คนพูดว่าจะจบมันพยายามสร้างเรื่องให้ไม่จบมันก็ไม่รู้จะพูดยังไง แล้วทำไปมันก็บาป ไอ้ที่ทำไปทำมาบางเรื่องมันก็บาปพออยู่แล้วอย่าทำบาปเพิ่ขึ้นอีกเลย สมมติว่าถ้าหนิงพูดไปเรื่องรูปมันไม่ได้ทำให้หนิงหวั่นไหว หนิงก็ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันเป็นรูปเก่า แต่ก็ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันเป็นรูปใหม่ แต่วันนี้หนิงมั่นใจว่าสิ่งที่กำลังจะกลับมาเราพยายามทำให้มันดีอยู่ค่ะ”
“ถามว่ารู้ตัวคนทำจะเอาผิดไหม ก็เอาแบบนี้ดีกว่า ถ้าสมมติว่ามันยังอยู่ในขอบเขต คือคนเรามันจะทำอะไรก็แล้วแต่มันมีขอบเขตความอดทน ถ้าเรายังอยู่ในขอบเขตของความอดทนเราก็ยังอดทนได้อยู่ คือถ้าหนิงไม่อยากจบหนิงคงจะทำอะไรตอบออกมาได้อีก แต่วันนี้หนิงบอกแล้วไงว่ามันยังอยู่ในขอบเขตที่หนิงยังไม่อยากให้มันมีปัญหา แต่ถ้ามันไม่จบแล้วมีปัญหาจริงๆ มันก็ต้องมีอะไรเด็ดๆ ออกมาจากทางหนิงอีกเหมือนกัน”
ไม่ขอพูดว่า “น้ำหวาน” ปล่อยรูปเองหรือไม่
“อันนี้หนิงไม่ขอพูดถึงใครใดๆ ทั้งสิ้นเอาเป็นว่าหนิงรู้ว่าใครทำ เพราะว่าเรามีหลักฐานว่าใครเป็นคนทำ แต่หนิงไม่ขอพูดว่าใครเป็นคนทำแล้วกัน เอาเป็นว่าวันนี้หนิงวานหนิงไหว้หนิงขอจริงๆ ว่าถ้าจะเขียนข่าวถึงคนคนนั้นกรุณาอย่าเอาชื่อปณิตา ชื่อคุณจิน หรือเอาใครเข้าไปเกี่ยวข้องเลย สิ่งที่คุณจินทำไปมันผิดไปแล้วมันพลาดไปแล้ว ขอโทษต่อหน้าทุกคนก็ขอให้มันจบไปวันนี้ครอบครัวเราดีก็พอแล้ว อโหสิกรรมหรือเปล่า คำว่าอโหสิหนิงอโหสิไปนานแล้วค่ะแล้วก็่ไม่ได้คิดอะไรมานานแล้วด้วย”
ที่มา: manager.co.th