“ณวัฒน์” ยันไม่คิดแข่ง “คุณแดง” บอกไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าฉะนั้นอีกฝ่ายควรให้โอกาสเด็กบ้าง ลั่นไม่รู้จะทำยังไงหลังอยู่ๆ อีกฝ่ายเลื่อนจัดงานรอบโชว์ชุดว่ายน้ำของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มาชนงานแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสู่รอบตัดสินของเวทีตนเอาดื้อๆ ขีดเส้นตาย 3 ปีจะดันมิสแกรนด์ฯสู่เวทีระดับโลก ไม่สนถูกมองสาวงามด้อยกว่าเวทีอื่นๆ หลังจากที่บอสใหญ่กองประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2013 (Miss Grand Thailand 2013) “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ได้จัดงานแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสู่รอบตัดสิน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 ที่เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ไปแล้วเรียบร้อย โดยเจ้าตัวได้เผยว่าในรอบตัดสินดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป ทางช่อง 7 อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Let Viet เวียดนาม และสถานีโทรทัศน์อารีดัง เกาหลีใต้ และช่องแฟชั่นทีวี FTV (fasion tv) ร่วมถ่ายทอด Miss Grand Thailand ไปยังประเทศของตน
ทั้งนี้ ณวัฒน์ ยังได้บอกด้วยว่า ในส่วนของเวทีมิสแกรนด์ฯได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม โดยจะมีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้นคือ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2013 และรางวัลรองอันดับหนึ่ง แต่ได้เพิ่มตำแหน่งเพื่อเป็นตัวแทนของผู้หญิงไทย สู่การประกวดเวทีระดับนานาชาติอีก 3 เวที ได้แก่ MISS SUPRANATIONAL THAILAND 2013 (มิสซูปราเนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2013) , MISS INTERCONTINENTAL THAILAND 2013 (มิสอินเตอร์คอนติเนนตัล ไทยแลนด์ 2013) , MISS GROVES INTERNATIONNAL THAILAND 2013 (มิสโกรฟส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2013) พร้อมกันนี้บอสณวัฒน์ยังได้เปิดใจถึงประเด็นที่ในวันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสู่รอบตัดสินที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วปรากฏว่าทางฟากของเวทีคู่แข่ง “แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ได้เลื่อนตารางจัดรอบโชว์ชุดว่ายน้ำมาชนกับงานแถลงข่าวของตนจนดูเป็นศึกเวทีขาอ่อนนั้น เจ้าตัวโอดก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
“ในตารางการทำงานเราวางไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งทีมงานของเราก็เช็คอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าไม่ตรงกัน เราก็ตัดสินใจจัดวันที่ 29 เมษาฯ ก็เพิ่งทราบเหมือนกันหลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศวันศุกร์ที่ผ่านมา ทีมพีอาร์ก็ส่งอีเมลมาบอกว่าเขาเลื่อนมาจัดตรงกัน เราก็ไม่ทำไงหรอกครับ มันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่เราไม่อยากให้ตรงกันเลย ทุกเวที ทุกกิจกรรมควรจะทำให้คนดูสนุกไปกับเวที ก็เลยคิดว่าถ้าจะชนกันก็ไม่เป็นไร เราทำทุกอย่างมาล่วงหน้าแล้ว”
ปัดแก้แค้นด้วยการปาดหน้าดึง “มิสซูปราเนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2013” จาก “คุณแดง” ซะเลย
“ซูปราฯนี่ไม่ได้ดึงนะครับ มันเป็นเรื่องของทางเจ้าของลิขสิทธิ์ที่คุยกัน ถ้าดูจากข่าวที่เขาแจ้งมาตั้งแต่แรกๆ ก็สรุปว่าเขาไม่ได้เข้าร่วม เราก็ฟังแล้วเราก็ขอดูจากเอกสารว่าจริงรึเปล่า เราเองก็ต้องเชื่อตามข่าวว่าอีกเวทีคงแถลงไป แต่เมื่อเขามีลายลักษณ์อักษรให้ดู เราก็เริ่มจะฟังเขามากขึ้น เราก็เปิดรับเงื่อนไขที่เขาต้องการว่าเขาอยากจะมาอยู่กับเราเพราะอะไร ก็เพิ่งจะตัดสินใจกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรกันเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง เพราะผมจะทำงานชนิดที่ว่าต้องมีเปเปอร์เป็นหลัก ต้องมีการเซท จะต้องมีคนรับผิดชอบหากว่ามันไม่เป็นความจริง”
ยืนยันว่าทาง “มิสซูปราเนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2013” เป็นคนติดต่อมาเอง ตนไม่ได้ไปเสนอ
“ก็มีตัวแทนของเขามาคุย ทั้ง 3 เวทีอินเตอร์ของเราก็อยู่ในคอนเซ็ปต์เดียวกัน อยู่ในสัญญา และเงื่อนไขเดียวกัน ทีนี้ทำอะไรเรามีมาตรฐาน สิ่งที่เขาอยากจะได้ เราทำอะไรให้เขาได้บ้าง เราชัดเจน มีมงกุฏเพชรพร้อมสายสะพาย เงินสด ของรางวัลต่างๆ เบ็ดเสร็จตำแหน่งละไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ซึ่งเราเองคงไม่หยุดอยู่แค่ 3 เวทีอินเตอร์นี้ แต่ปีนี้พอแค่นี้ก่อน ปีหน้าว่ากันใหม่ครับ”
“ผมหวังจะให้เวทีมิสแกรนด์ฯขึ้นไปเป็นเวทีใหญ่ที่ใครๆ ก็พูดถึง น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ส่วนสาวงามจากประเทศต่างๆ จะมาประกวดที่ไทยนั้น ตอนนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ประเทศ ที่จะเข้ามาประกวดในนามมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เราจัดแน่นอนตุลาคมครับคอนเฟิร์ม แต่ละประเทศก็จะคัดหาสาวงามกันเอง ถ้าหาไม่ทันก็สรรหากันมา ใครที่ซื้อลิขสิทธิ์ของเราไป จะใช้คำว่ามิสแกรนด์นำหน้า เช่น มิสแกรนด์เวียดนาม มิสแกรนด์มาเลเซีย ลิขสิทธิ์ช่วงแรกๆ ไม่แพงครับ เพราะเราหวังให้เขามาร่วมกิจกรรมถ่ายทอดไปทั่วโลก และจะทำให้เวทีของเราใหญ่โตขึ้น”
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่คนส่วนใหญ่มองว่าเวทีมิสแกรนด์ฯมีสาวงามที่ดูด้อยกว่าเวทีอื่นๆ เจ้าตัวก็บอกว่า…
“ก็แล้วแต่คนมองแล้วกันครับ แล้วแต่ใครชอบแบบไหน 37 คน ของผมมันไม่ได้หมายความว่าจะต้องเพอร์เฟกต์ทุกคน การประกวดเดี๋ยวนี้ถ้าเอาสวยอย่างเดียวผมว่ามันหาไม่ยากหรอก เราก็นั่งดูแต่ความสวยอย่างเดียว แล้วใครล่ะที่จะใช้ชีวิตกับเราได้ เราไม่ได้ทำตามลำพัง เรามีสถานีคอยช่วยกำกับ เราก็ต้องดูด้วยว่าความเหมาะสมเราจะเจอกันตรงกลางได้อย่างไร อยากจะให้ดูตอนที่เราทำเสร็จก่อน”
“ซึ่งถ้าจะติเราตอนนี้เราเองก็ยินดีน้อมรับ จะได้ทำให้วันประกวดจริงนั้นดีกว่าเดิม เราก็ยังมีเวลาแก้ไขในสิ่งที่เขาติ เราก็มาดูกันว่าไฟล์นอลแล้วใครได้เรตติ้งเท่าไหร่ ก็ค่อยมาว่ากัน เราอยากจะทำให้ดีที่สุด เราหวังว่าเรตติ้งที่เราจะได้นั้น ผู้ชมทางบ้านถือเป็นตัวชี้วัดดัชนีตรงนี้ ความนิยมทางโทรทัศน์ก็วัดจากเอซีนีลเส็น ก็ค่อยดูตอนจบทุกเวทีแล้วกันครับว่าใครจะเยอะที่สุด นั่นคงเป็นสากลที่สุด เราให้ความสากลเป็นตัวตอบคำถามดีกว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานมากกว่าครับ”
กลัวไหมเพราะ “คุณแดง” ซึ่งเป็นเวทีคู่แข่งค่อนข้างมีอิทธิพลในการจัดการประกวดปีนี้?
“ผมเองไม่รู้จะโฟกัสใครเลยนะ(หัวเราะ) เอาเป็นว่าที่ผ่านไปแล้วไม่นับ นับสิ่งที่จะมาถึงใกล้ๆ ไม่กลัวนะครับ เนื่องจากเราทำงานของเรา ถ้าใครจะมาแพลนตามด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ก็แล้วแต่ จะเป็นตามข่าวลือรึเปล่า บอกเลยว่าผมไม่อยากจะรู้ ผมเชื่อว่าท่านก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ท่านก็น่าจะให้โอกาสเด็กๆ บ้าง เด็กก็คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ผมเองก็ยังถือว่าเป็นเด็กในวงการนางงาม”
“ผมว่าไม่มีใครที่จะอยู่ได้ตลอดไป แม้แต่ตัวผมเอง ถ้าผมโตแล้ว 60-70 ปีแล้ว ผมก็คงอยากจะปั้นเด็กๆ หรือปล่อยให้คนที่เขาตั้งใจจริงๆ มาทำ เรายิ่งดีที่จะให้คำแนะนำสนับสนุน เราจะไม่ปิดทาง หรือแข่งขันเขา ไม่อยากให้คิดว่าไม่อยากให้มีคลื่นลูกใหม่มาแย่งหรืออะไร เพราะสุดท้ายไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า รวมถึงตัวผมด้วยครับ”
พร้อมเผยถึงการถ่ายทอดที่เกาหลีและเวียดนาม
“วันโชว์การประกวดเราเองก็ได้วงเกาหลีมาร่วมในงานด้วย จะวงอะไรอุบไว้ก่อน ก็เป็นอะไรที่ภูมิใจครับ และภูมิใจที่สถานีโทรทัศน์ของประเทศเราได้ถ่ายทอดไปยังประเทศเกาหลีและเวียดนามด้วย เขาจะได้ดูพร้อมๆ กันกับพวกเรา เขาเองก็ยอมรับในโปรดักชั่นของเรา ยอมรับในเครดิตช่อง และเวทีการประกวดมิสแกรนด์ฯของเรา เราก็เข้าไปติดต่อกับทางเขา ซึ่งทางช่องสถานีเขาก็เป็นช่องที่ฉายผลงานของคนไทยอยู่แล้ว”
“เราขอย้ำว่าเราไม่ได้ทำแข่งกับใคร เราอยากให้สังคมโลกรู้ว่าเราทำได้ดี เราอยากได้อีก เราอยากไปฉายที่ประเทศเวเนซุเอลา
ได้ บราซิล อยากได้ช่องซีซีทีวีของประเทศจีน ซึ่งเป็นความฝันของผมมาก คิดว่าปีหน้าต้องทำให้ได้ครับ คงได้เห็นกันแน่นอน เราอยากให้ชาวโลกยอมรับคนไทย ผมไม่คิดเลยเรื่องจะมาจัดชนไม่จัดชน ผมขอไม่แข่งขันกับใคร แต่ผมขอแข่งขันกับตัวเองครับ”
ที่มา: manager.co.th
