Author Topic: ปู่ "จัสติน บีเบอร์" พ้อทั้งป่วยทั้งจนแต่หลานไม่เหลียวแล ด้านหลานกำลังซ่าสักเพิ่มเต็ม  (Read 687 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




"จอร์จ บีเบอร์" ปู่แท้ๆของ"จัสติน บีเบอร์"นักร้องหนุ่มชื่อดังตัดพ้ออย่างหนักว่าตอนนี้ตนเองทั้งป่วยทั้งจนแต่หลานนักร้องผู้ร่ำรวยกลับไม่เคยเหลียวแลและยื่นมือเข้าช่วยเหลือเลย
       
       โดยจอร์จ บีเบอร์ พ่อแท้ๆของ เจเรมี บีเบอร์ และเป็นปู่ของ จัสติน บีเบอร์ ระบุด้วยว่าเขาป่วยมานานแต่หลานชายกลับไม่เคยมาเยี่ยมเขานานหลายปีแล้วและไม่เคยยื่นมือเข้าช่วยเรื่องเงินๆทองๆด้วย "เหมือนกับว่าตอนนี้เราใช้ชีวิตอยู่กันคนละโลก เขาไม่เคยโทรมาหาผมเลย และตอนนี้บางครังผมก็คิดได้ว่าเขาไม่ได้แคร์อะไรผมเลย"
       
       "ผมไม่ได้ทำงานเลยเพราะอาการป่วย ดังนั้นเลยไม่มีรายได้เข้าบ้าน ย่าของเขาก็หลังไม่ค่อยดีเลย แต่ก็ต้องทำงานหนักเยี่ยงสุนัข ต้องคอยลากถุงสีฝุ่น40ชั่วโมงต่อสัปดาห์"
       
       โดยคุณปู่วัย 71 ปีระบุด้วยว่าเขารู้ดีว่าจัสติน บีเบอร์ รู้เรื่องอาการป่วยของเขาและมีเงินมากกว่า100ล้านเหรียญ แต่หลานชายกลับไม่เคยย่นมือเข้าช่วยเหลือเขาเลย
       
       จอร์จระบุว่าทั้งหมดที่เขาเคยได้รับจากจัสตินคือทีวีเครื่องใหม่และเงินคริสต์มาสอีกเล็กๆน้อยๆ "ยากที่จะจินตนาการถึงเงินที่จัสตินมี มันไกลเกินกว่าที่ชีวิตเราจะหามาได้"
       
       นอกจากนั้นปู่จอร์จยังพูดถึงหลานชายที่มีแต่ข่าวดีแตกในช่วงหลังๆด้วยว่าถึงจะแย่อย่างไรเขาก็ยังคงมีฐานะเป็นหลานปู่เสมอ "ตอนนี้จัสตินโตขึ้นมากเลย พอผมได้ยินเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในช่วงหลังๆผมก็แค่สงสัยว่าใครกันนะที่ทำหน้าที่ดูแลเขา เชื่อผมสิ นี่ไม่ใช่หลานชายตัวน้อยน่ารักที่ผมเคยรู้จักเลย"
       
       "แต่เขาจะยังเป็นหลานชายของผมเสมอ และจะเป็นแบบนั้นตลอดไป ผมภูมิใจในตัวเขานะ มันแค่รู้สึกเศร้าที่เขาไม่ใช่ส่วนสำคัญหลักๆในชีวิตของพวกเรา"
       
       ทางฟากหลานชายที่กำลังเป็นหนุ่มเต็มตัว เวลานี้เจ้าตัวกำลังสนุกสนานกับการสลัดภาพหนุ่มน้อยวัยใสทิ้งและทำให้ตนเองดูเป็นแมนด้วยการเพิ่มรอยสักเต็มตัว โดยล่าสุดนักร้องหนุ่มเพิ่งไปสักรูปเสือและนางฟ้าที่บริเวณแขนซ้าย
       
       ซึ่งหลังจากที่เขาเดินทางไปสวีเดนเพื่อเปิดคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์ จัสตินได้เรียกช่างสักชื่อดังของที่นั่นมาเพิ่มรอยสักใหม่ให้เขา ทำให้บริเวณแขนซ้ายของเขามีทั้งเสือ, นางฟ้า, ปลาคาร์ฟ และนกฮูก รวมถึงเครื่องหมายกากบาทที่เป็นสัญลักษณ์แทนคำว่า Chi ในตัวอักษรกรีก ที่มีความหมายถึงศาสนาคริสต์ ซึ่งเขาสักไว้ตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมา นอกจากนั้นบริเวณแขนซ้ายด้านในของเขายังมีข้อความว่า Believe ซึ่งเป็นตัวแทนของชื่ออัลบั้มผลงานเพลงของเขาด้วย
       
       เมื่อเดือนม.ค. เขาก็ได้สักรูปหน้าอินเดียนแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีมไอซ์ฮอกกี้ในStratford Cullitons ที่บริเวณหัวไหล่ด้านซ้าย โดยเขาโพสท์รูปดังกล่าวในอินสตาแกรมพร้อมข้อความว่า "คุณตาผมมักพาผมไปที่สตาร์ทฟอร์ด คัลลิตันทุกๆคืนวันศุกร์นี่สำหรับคุณตาครับ"
       
       จัสติน เริ่มสักครั้งแรก้ป็นรูปนกนางนวลที่บริเวณสะโพกด้านซ้ายเพื่อฉลองอายุครบ 16 ปี และในปี 2011 เขาและเจเรมีผู้เป็นพ่อยังสักรูปที่เหมือนกันบริเวณด้านข้างลำตัวคือคำว่า Yeshua ในภาษาฮิบรู ซึ่งเชื่อว่ามีความหมายถึงพระเยซูซึ่งเป็นชื่อพระองค์ในภาษาฮิบรูหรือภาษาอราเมอิก
       
       นอกจากนั้นเขายังแสดงออกถึงความเชื่อทางศาสนาของตนเองด้วยการสักรูปหน้าพระเยซูคริสต์ที่บริเวณขาซ้ายเมื่อเดือน ม.ค. ปีที่แล้ว และในเดือน ก.ค. ปี 2012 เขาก็เปิดตัวรอยสักตัวคันจิที่บริเวณแขนซ้าย ก่อนที่สองเดือนต่อมาจะปรากฏภาพมงกุฏบริเวณอกด้านขวาชองเขา
       
       นอกจากนั้นยังมีรอยสักเป็นเลข 4,1,75 ซึ่งเป็นวันเกิดของแพตตี แม่ของเขาอยู่ที่บริเวณข้างลำตัวด้วย ซึ่งเขาได้เปิดเผยถึงรอยสักของตนเองด้วยว่า "ผมชอบรอยสักที่ค่อนข้างคลาสสิกๆครับ ผมชอบรายละเอียดต่างๆบนรอยสักมากจริงๆ อย่างเช่นบนตัวนกฮูกเนี่ย และช่างสักก็เจ๋งมากจริงๆครับ"

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6248 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
7883 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
5319 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6771 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
4918 Views
Last post January 18, 2012, 02:03:34 PM
by Nick
0 Replies
6463 Views
Last post May 15, 2012, 09:59:24 PM
by Nick
0 Replies
4114 Views
Last post July 13, 2012, 05:12:23 PM
by Nick
0 Replies
5100 Views
Last post December 02, 2012, 04:31:30 PM
by Nick
0 Replies
3565 Views
Last post February 27, 2013, 05:49:40 PM
by Nick
0 Replies
3712 Views
Last post March 26, 2013, 04:01:43 PM
by Nick