Author Topic: “ฮิวโก้” เดิมพันเพลงชุดใหม่ที่อเมริกา ถ้าไม่ทำเงินอยู่ไทยถาวร  (Read 579 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ฮิวโก้” ดีใจค่ายเพลงที่อเมริกาต่อสัญญา ลั่นเดิมพันอนาคตกับอัลบั้มชุดใหม่ ถ้าไม่ทำเงินจะกลับมาอยู่ไทยถาวร พ้ออัลบั้มแรกแม้จะประสบความสำเร็จก็ได้แต่ชื่อเสียง แต่ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย เผยชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ติดลูกมากจนตัดขาดกับสังคมภายนอก ส่วนคดีโดนฝรั่งฟ้อง 15 ล้าน ฐานใช้ชื่อ “ฮิวโก้” ซ้ำกับนักร้องในผับค่ายจัดการเคลียร์ให้แล้ว
       
       หลังจากนักร้องหนุ่ม “ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์” หายหน้าจากวงการบันเทิงไทยไปร่วมงานกับบริษัท ร็อก เนชั่น (Roc Nation) จำกัด ที่ประเทศอเมริกา และมีผลงานอัลบั้ม Old Tyme Religion ในนาม hugo (ฮิวโก้) ที่มีเพลงดังอย่าง 99 problems และยังใช้ประกอบในหนังเรื่อง No Strings Attached ตอนี้เจ้าตัวก็กลับมารับงานที่เมืองไทยประปราย แต่ล่าสุดได้รับข่าวดีหลังต้นสังกัดเดิมที่อเมริกาเรียกให้ต่อสัญญาทำอัลบั้มชุดที่2 แล้ว
       
       “ต่อไปนี้ผมคงจะหมกมุ่นกับอัลบั้มของผม เพราะเขาขอต่อสัญญากับผมอีกครั้ง เขาต่อสัญญาเราครับ คือสัญญาพวกนี้จะเซ็นฉบับเดียว ถ้าเขาไม่แจ้งภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้สัญญาเราก็จะหลุดไป เวลาของสัญญาจะสิ้นสุดนับได้หลังจากอัลบั้มชุดแรกปล่อยออกมา แต่อันนี้เขาแจ้งว่าอยากให้ทำอีกชุด ออกงบให้ผมบันทึกเสียงที่เมืองไทย แล้วเอาไปทำให้เสร็จที่โน่น เดี๋ยวบินไปอังกฤษ แล้วไปรวบรวมผลงานที่บันทึกไว้ที่เมืองไทย ไปตัดต่อร้องใหม่ เกาให้เข้าที่เข้าทางสัก 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็จะพร้อมมิกซ์ส่งให้ค่าย ร็อก เนชั่น เขาไม่กดดันอะไรเพราะค่อนข้างฟรี ไม่มีความกดดันจากตรงนั้นถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ปล่อยเมื่อนั้นครับ”
       
       “กับงานอัลบั้มใหม่ผมน่าจะพาสิ่งที่ผมทำในชุดที่แล้วไปให้ไกลกว่าเดิม ชุดแรกหลากหลาย แต่อัลบั้มใหม่จะทำให้รู้สึกว่าเราอยู่บ้านหลังเดียว แต่มีหลายห้องบรรยากาศแตกต่างกันไป แต่เจ้าของบ้านมีคนเดียว เพราะผมควบคุมใกล้ชิด คนมีส่วนร่วมก็น้อยกว่าชุดนี้ เพราะมีผมกับโปรดิวเซอร์ ชุดนี้ดึง เจ มณฑล มาช่วย เพราะเขาเป็นม้ามืดในวงการเพลง เขาเก่งจะมีลายมือเขาด้วย ช่วยการผลิตเสียงร่วมสมัย หรือเสียงแห่งอนาคต เขาเก่ง ทำงานเร็ว เป็นวิศวกรด้านเสียง ประสบการณ์เยอะ เยอะพอๆ กับใครที่ผมเจอที่เมืองนอก”
       
       “ผมสนิทกันตั้งแต่เล่นละครด้วยกัน แต่ไม่มีโอกาสทำงานด้วยกัน จนวันนึงติดต่อกันทางเฟซบุ๊กก็ไปหาที่บ้าน ก็ต้องรอว่าเขาจะวางอัลบั้มเมื่อไหร่ แต่เพลง ทางออก ที่ผมเพิ่งทำไปเป็นโครงการของเอ็มทีวีเอ็กซิท ที่ทำร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลียในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ทำเพลงพิเศษขึ้นมา เรายังพอจะระบายความเป็นเพื่อชีวิตเราในโครงการเหล่านี้โดยไม่คิดตังค์หรืออะไรเพื่อรณรงค์ครับ”
       
       ลั่นเดิมพันอนาคตกับอัลบั้มชุดใหม่ หากประสบความสำเร็จมากก็อาจจะใช้ชีวิตไปๆ มาๆ แต่ถ้าเฉยๆ หรือเสมอตัวก็จะใช้ชีวิตปักหลักอยู่ที่ประเทศไทยถาวร
       “ชีวิตในอนาคตของผมมันขึ้นอยู่กับอัลบั้มชุดนี้ ถ้าประสบความสำเร็จคุ้มพอทำอีกชุดนึง ผมคงทำต่อ แต่ถ้าปานกลางเป็นที่รู้จักแต่ไม่ทำเงิน พูดตรงๆ ผมคงไม่ทำต่อที่เมืองนอก บินไปแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายแต่ละอย่าง คนรู้จักเรามันเท่ห์ไปเล่นดนตรีเมืองนอกให้ฝรั่งฟัง แต่ฝรั่งกับคนไทยไม่มีใครดีไปกว่ากัน คนฟังจะเชื้อชาติอะไรผมไม่แคร์ เพราะในยุคอินเตอร์เน็ตจะผลิตเพลงจากมุมใดก็จำหน่ายทั่วโลกได้”
       
       “ความจำเป็นที่จะไปอาศัยอยู่ที่โน่น ถ้าไม่มีจริงๆ ก็คงไม่ไป จะทำกับค่ายก็ได้ถ้าค่ายนี้อยากให้ทำต่อ หรือถ้าค่ายไม่อยากทำด้วยเราก็ไม่หาค่ายใหม่ เพราะทำเองได้แล้ว มันคืออาชีพและเส้นทางของเรา เราทำมานานถ้าจะเปลี่ยนอาชีพตอนนี้ก็คงต้องไปฝึกฝนใหม่แล้ว แต่ทางเพลงเรายังมีวี่แววคนชวนไปทำงานเบื้องหลัง เพลงหนัง ไปคุมงานให้ศิลปินคนอื่นในเมืองไทยก็ได้”
       
       “ถามว่าแล้วตรงจุดไหนถือว่าประสบความสำเร็จมากพอ อันนี้ตอบยากนะ ถ้าเป็นชุดนี้ แต่ชุดที่แล้วก็ประสบความสำเร็จพอให้มาทำต่อชุดนี้ไง เป็นที่รู้จัก ได้ออกรายการต่างๆ ที่เมืองนอก เพลงถูกนำไปใช้ในซีรี่ย์ ละคร หนังเมืองนอก แต่กว่าจะคืนทุนก็ไม่ได้สร้างความร่ำรวย แต่ด้านชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของเราก็เพิ่มขึ้นมาบ้างหน่อย แต่ยังไงก็ตามความต้องการเราเปลี่ยนไปทุกปี เราไม่ต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ใครเห็นแล้ว แต่เมื่อก่อนเห็นว่าผมหยิ่งยโสไม่แคร์ใครนะ ตอนนี้ผมยิ่งหนักกว่านั้น เพราะเรามีลูก มีครอบครัว ไม่ต้องการให้ใครมาตบหลังแล้วบอกว่าเจ๋งว่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”
       
       เผยตั้งแต่มีลูกแล้วตัดขาดสังคม ชีวิตนอกจากงานก็มีแต่ลูกกับภรรยา แต่ยังไม่มีโครงการจะมีทายาทคนที่2 แย้มลูกชาย “ฮาร์เปอร์” ฉายแววศิลปินเหมือนพ่อ ซึ่งตนหวังให้ลูกชายเอาดีด้านอื่นมากกว่า
       
       “แฮปปี้มีความสุขครับ เป็นสิ่งเดียวที่ปกติที่ผมทำมาในชีวิตคือการมีลูก นอกเหนือจากนี้ผมฝืนธรรมชาติทุกประการ ฮาร์เปอร์ตอนนี้ก็กำลังซนมาก ส่วนมากผมอยู่เมืองไทยผมก็อยู่บ้านกับเขาทั้งวัน วาดรูป พาเดินโน่นนี่บ้าง ตอนนี้ 2 ขวบแล้ว ผมเองติดลูกพอสมควรนะ พอมีลูกผมไม่ทำอะไร ว่างก็อยู่กับเขา สังคมกับเพื่อนหายไปหมด เพื่อนเลิกตามเลย ไม่ได้อยากไปเที่ยวไหน นึกไม่ออกว่าเมื่อก่อนเคยทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เราจะรู้สึกผิดเลยนะ ถ้าไม่ได้ทำงาน แต่ไปนอกบ้านแล้วไม่เอาเขาไปด้วย ถามว่าเปลี่ยนไปแค่ไหนผมตอบไม่ได้เพราะมันค่อยๆ เปลี่ยน ลูกจะค่อยๆ มีบทบาทในชีวิตเรา แต่ก่อนชีวิตเราเฮ้วแล้วเฟี้ยวมาก แต่ทุกวันนี้เราโคตรไม่แคร์เลย ทีวีอะไร อะไรฮอต เอ้าท์อิน การเมืองเป็นยังไงผมไม่สนเลย ลูกกับงานอย่างเดียว วางจากลูกจากงานก็อยู่กับแฟน”
       
       “สำหรับโรงเรียนของเขาเราก็วางแผนไว้ให้เขาแล้ว ยังไงช่วงแรกก็อยากให้เรียนที่โรงเรียนจิตรลดาถ้าเป็นไปได้ เพราะใครๆ ก็เรียนภาษาอังกฤษได้ แต่ภาษาไทยไม่ได้เรียนตั้งแต่เด็กมันจะยาก ตอนนี้เขาก็พูดไทยโอเค มากกว่าภาษาอังกฤษ เขาเองก็มีแววศิลปินนะ ชอบดนตรี ฟังเพลง วาดรูป ตอนแรกก็หวังว่าจะเป็นนักธุรกิจ หมอ ทนาย เป็นอย่างนั้น แค่หวังไง คงต้องแนวศิลปินนี่แหละ”
       
       “แต่เราแค่แอบหวังไงเพราะเคยเห็นบิลค่าทนายที่เมืองนอก มีคดีฟ้องกันปรึกษาทนายคิดเงินเป็นนาทีเลยนะ ขนาดผมโดนฟ้องยังไม่กล้าโทร.ไปปรึกษาทนายเลย ส่วนคนที่2 ไว้ก่อนเพราะพอผมยุ่ง ฮาน่ายุ่ง ก็นึกไม่ออกถ้ามีอีกคนจะเป็นยังไง แถมเราอยู่คอนโด ไม่รู้ต้องย้ายออกหรืออะไรมั้ย อยากมีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็มีความสุขเหลือเกิน เราไม่ได้อยากผลิตลูกให้เป็นตัวแทนของแต่ละคน เราคิดแต่ว่าชีวิตเราจะทำยังไงให้ลงตัว แต่เรายินดีรับมือถ้าจะมีอีกคนจริงๆ”
       
       “ส่วนชีวิตสามีภรรยาเราต้องหาเวลาให้กันไงครับ เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยมีสังคมนอกบ้านเท่าไหร่ ถ้าลูกนอนแล้ว ก็พาแฟนไปกินข้าวดูหนังดีกว่า ถ้าเป็นไปได้ ในการแต่งงานความสวีทก็มาเป็นฤดู มีมาแน่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ตอนนี้ฮาน่าก็ทำคลินิกความงามชื่อลาลานาด้วย นวดหน้าฉีดโน่นฉีดนี่ทำกับเพื่อสองคนน่าจะคืนทุนแล้วนะ ยังไม่ถึงปีเลย ติดกับเอเชียทีค เขาอยู่เฉยๆ เขาซน ผมชอบเขาก็ตรงนี้แหละ ช่วยกันทำมาหากินร่วมสมัยแล้วหญิงชายเท่ากัน แต่ผมไม่เคยลองไปใช้นะเพราะผมเชื่อว่าความเหี่ยวมีเสน่ห์ อยากหล่อแบบกิ้งก่าแก่ ชอบแบบ คลินต์ อีสต์วูด, ริชาร์ด เกียร์ ผมพร้อมแก่ตลอดนะ”
       
       ส่วนกรณีโดนฟ้อง 15 ล้านที่อเมริกา ฐานใช้ชื่อ “ฮิวโก้” ซ้ำกับศิลปินที่จดทะเบียนชื่อฮิวโก้เหมือนกันนั้น เจ้าตัวบอกทางค่ายเพลงเป็นคนจัดการให้น่าจะเรียบร้อยดีแล้ว
       “เรื่องนี้เกิดเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นโดนฟ้องเพราะชื่อฮิวโก้ไปซ้ำกับศิลปินคนนึง แต่การฟ้องเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าคุณไม่ถูกฟ้องที่โน่นแสดงว่ายังไม่ถึงวงการเพลงเมืองนอก(หัวเราะ) ผมไปเล่าให้แม่ฟังเรื่องนี้ แม่ผมบอกว่าดีแล้วลูก ลูกถึงแล้ว คาๆ มาประมาณ 2 ปีแล้ว ศาลยังพิจารณาอยู่ ชื่อเราไปซ้ำกับคนที่เล่นในผับเล็กๆ ที่นิวยอร์ก บอกว่าชื่อฮิวโก้นี่ เขาไปจดทะเบียนมาแล้ว ใครจะไปรู้ก็มันชื่อเราหนิ แต่เราก็ใช้ต่อเพราะเราดังกว่าไง เขาคงแค้นเรา เขาเรียกร้องเงิน 5 แสนเหรียญดอลล่าห์ หรือประมาณ 15 ล้าน”
       
       “ชีวิตยังทำเงินไม่ถึงขนาดนั้นเลย ตอนนี้ศาลบอกว่าผมสามารถใช้ชื่อฮิวโก้ต่อ แต่ศิลปินคนนั้นไม่ต้องใช้แล้ว แต่ผมต้องจ่ายค่าชื่อที่เขาจดทะเบียนมาก่อนประมาณ 15 ล้านบาท ก็ให้ค่ายออกให้ก่อน ไม่งั้นไม่ทำงานนะ(หัวเราะ) ผมไม่มีจะให้นะ ตอนแรกนึกว่าเขาเพี้ยนไม่คิดว่าจะเอาจริงก็กฎหมายเขา แต่สนุกดีครับสีสันชีวิต ตามกฎหมายเราและค่ายผิดพลาดที่ไม่เช็คว่ามีใครใช้ชื่อนี้ไหม แต่มันไม่รู้ไงว่าใครจะใช้ชื่อนี้”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)