Author Topic: ไมโครซอฟท์ โชว์สถิติ Azure ปีนี้ทดลองสำเร็จเพิ่มอีก 100 ราย  (Read 760 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ผู้บริหารของบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด นายเอกราช คงสว่างวงศา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ซ้าย) และนายภฤศดา โกมุทบุตร Platform Strategy Manager (ขวา) พร้อมด้วย นายณัฐเศรษฐ์ ศิรินันท์ธนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Semantic Touch (กลาง) สตาร์ทอัพดาวรุ่งของไทย ผู้ให้บริการ BentoWeb

      ไมโครซอฟต์เตรียมเพิ่มการใช้งานคลาวด์ด้วยวินโดวส์ อาชัวร์ พร้อมจับมือพันธมิตรจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการพัฒนาธุรกิจผ่านคลาดว์ให้ประสบความสำเร็จ เผยมีผู้ทดลองใช้งานแล้ว 300 รายและประสบความสำเร็จแล้ว 20 รายและเตรียมเพิ่มเป็น 100 รายในปีนี้ ยกกรณีตัวอย่าง BentoWeb หลังขึ้นมาโฮสติ้งบน วินโดวส์ อาชัวร์ สามารถขยายธุรกิจได้สำเร็จ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการซื้อหลักล้านเหลือแค่ค่าบริการไม่กี่พันบาท
       
       นายเอกราช คงสว่างวงศา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เตรียมขยายการใช้งานระบบคลาวด์ด้วย วินโดวส์ อาชัวร์ (Windows Azure) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้ได้เข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยไมโครซอฟท์จะนำเสนอโซลูชั่นนี้ผ่านงานสัมมนาและร่วมกับพันธมิตรที่ทำเกี่ยวกับสตาร์ทอัพ และนำบริษัทสตารท์อัพที่ประสบความสำเร็จตลอดจนกรณีตัวอย่างจากต่างประเทศขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการเห็นว่าสามารถนำระบบคลาวด์จากไมโครซอฟต์ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ซึ่งขณะนี้มีผู้ทดลองใช้งานแล้วทั้งสิ้น 300 ราย และในจำนวนนี้มี 20 ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
       
       วินโดวส์ อาชัวร์ (Windows Azure) เป็นระบบคลาวด์จากไมโครซอฟท์ที่เป็นระบบเปิดและมีความยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาและบริหารจัดการแอพพลิเคชันบนศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์ที่มีอยู่ทั่วโลกได้ ซึ่งนักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยภาษา เครื่องมือในการพัฒนา ในรูปแบบใดก็ได้ โดยนักพัฒนาสามารถใช้งานแอพพลิเคชันที่อยู่บนคลาวด์แบบสาธารณะร่วมกับระบบไอทีของตนที่มีอยู่แล้วได้เช่นกัน โดยขณะนี้เปิดให้ใช้ฟรี 3 เดือน
       
       “ตัวอย่างของธุรกิจสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ผู้ประสบความสำเร็จในการนำ วินโดวส์ อาชัวร์ มาใช้งานคือการนำ BentoWeb ขึ้นมาโฮสติ้งบน วินโดวส์ อาชัวร์ ช่วยให้สามารถต่อยอดทางธุรกิจได้ รวมไปถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ใช้งานโซลูชันอีคอมเมิรซ์ที่เชื่อถือได้ ทำให้สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ไมโครซอฟท์จะขยายผู้ที่ใช้งานวินโดวส์ อาชัวร์ ให้ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเป็น 100 รายในปีนี้”
       
       นายเอกราช กล่าวว่า วินโดวส์ อาชัวร์ เป็นหนึ่งในโซลูชันภายใต้วิสัยทัศน์ “We Make 70 Million Lives Better” ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ที่จะเข้าไปสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพและนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ผ่านการสนับสนุนสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีจากไมโครซอฟต์ และล่าสุดไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังได้จับมือกับ Thumbs Up ออนไลน์คอมมูนิตี้ เพื่อสนับสนุนและให้ความรู้กับสตาร์ทอัพในประเทศไทย ผ่านการจัดการ Start It Up, Power It Up เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้และแง่มุมในด้านการพัฒนาและการลงทุน ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ สำนักงานไมโครซอฟท์
       
       นายณัฐเศรษฐ์ ศิรินันท์ธนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Semantic Touch เจ้าของธุรกิจ BentoWeb ผู้ให้บริการเปิดร้านขายของบนเฟซบุ๊ก กล่าวว่า BentoWeb คือ ระบบ E-Commerce หรือเว็บไซต์สำเร็จรูปที่พร้อมใช้ในการสร้างและจัดการร้านค้าบน Facebook สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยลูกค้าเพียงแค่สมัครเปิดร้าน ตั้งรูปแบบการจัดส่งและรูปแบบการรับชำระเงิน ใส่รายละเอียดของสินค้าก็สามารถเปิดร้านและให้บริการทันที โดยหลังจากเปิดให้บริการมาประมาณ 5 เดือน ธุรกิจมีการขยายตัวขึ้นจึงจำเป็นต้องมองหาโครงสร้างพื้นฐานที่จะสามารถรองรับความต้องการการใช้งาน
       
       Semantic Touch จึงได้ตัดสินใจเลือก วินโดวส์ อาชัวร์ จากไมโครซอฟท์เนื่องจากมองเห็นเป็นระบบที่เชื่อถือได้ รองรับได้หลายแพลตฟอร์ม สามารถพัฒนาต่อยอดในการให้บริการได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ไม่ต้องเสี่ยงในการบริหารการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้วยตนเอง และลดค่าใช้จ่ายในการวางระบบซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นในหลัก 1 ล้านบาทขึ้นไปเหลือเพียงหลักพันบาทเท่านั้น นอกจากนี้การนำ BentoWeb ไปติดตั้งบน วินโดวส์ อาชัวร์ ของไมโครซอฟท์ ยังทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเข้ามาใช้บริการได้อย่างมั่นใจอีกด้วย
       
       ปัจจุบัน BentoWeb เปิดให้บริการมาแล้ว 8 เดือน มีเอสเอ็มอีมาใช้บริการกว่า 8,000 ราย และมีการทำธุรกรรมมาแล้วกว่า 60,000 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง โดยในปีนี้ Bentoweb มีเอสเอ็มอีมาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 20,000 ราย และมีแผนในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยจะขยายไปยังประเทศสิงคโปร์ก่อนเป็นประเทศแรก และจะเพิ่มบริการบนมือถือในระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์โฟนเพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีจากโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ขณะนี้ได้ให้บริการแล้วในระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอย์และไอโอเอส
       
       Company Related Link :
       Microsoft

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics