Author Topic: “โอปราห์” หวัง “อาร์มสตรอง” ช่วยแจ้งเกิดสถานี OWN  (Read 662 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


"โอปราห์ วินฟรีย์" ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางไปช่วยสร้างสถาบันการศึกษาสำหรับสตรีที่แอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2012/AFP


"แลนซ์ อาร์สตรอง" อดีตฮีโร่ของชาวสหรัฐฯ ระหว่างการแข่งขันในสเตจที่ 5 เมื่อ Tour de France ครั้งที่ 91 ในวันที่ 8 ก.ค. 2004/AFP

เอเอฟพี - การสัมภาษณ์ “แลนซ์ อาร์มสตรอง” ของ “โอปราห์ วินฟรีย์” เรื่องการใช้สารกระตุ้น ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องใหญ่ของวงการกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญของพิธีกรหญิงคนดังระดับประเทศ ในการยกระดับสถานี OWN ของเธอให้ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย หลังเปิดตัวมาพักใหญ่แต่ยังมียอดผู้ชมไม่สูงนัก
       
       โอปราห์ วินฟรีย์ วัย 58 ปี สามารถครอบครองอาณาจักรรายการโทรทัศน์ภาคกลางวันตลอดปี 1986 – 2011 อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ด้วยการนำเสนอรายการแนวทอล์กโชว์ในแบบของตัวเอง จนทำให้ชื่อของเธอเข้าไปครองใจคนทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา
       
       แต่หลังการยุติการออกอากาศของรายการ The Oprah Winfrey Show โอปราห์ กลับต้องพบกับความยากลำบากในการบริหาร และนำเสนอสถานี OWN ที่ออกอากาศทางเคเบิล และทีวีดาวเทียมให้กับผู้ชม ด้วยการเปิดตัวมีเรตติ้งที่ไม่ค่อยสูงนัก และถึงตอนนี้สถานการณ์ก็ยังไม่ค่อยดีด้วยเหตุนี้การสัมภาษณ์ แลนซ์ อาร์มสตรอง ที่จะออกอากาศทั้งทาง OWN และเว็บไซต์ Oprah.com จึงถูกคาดหวังว่าอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับยุคใหม่ของ โอปราห์
       
       คิตตี้ เคลลีย์ ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติ Oprah: A Biography ให้ความเห็นกับเอเอฟพี ว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้ OWN ได้เข้าไปอยู่ในกระแสความสนใจของสื่อกระแสหลัก ส่วน แลร์รี เจอร์แบรนท์ แห่ง Media Valuation Partners ก็มองว่า “เรื่องนี้ใหญ่มากสำหรับ OWN อาจเป็นครั้งแรกที่มีคนมากมายกดไปดูช่องนี้กัน”
       
       สำหรับตัวของ วินฟรีย์ เองเรียกการให้สัมภาษณ์เปิดใจของนักกีฬาจักรยานผู้โด่งดังว่า “หากมองในประเด็นการเปิดโปงความจริง นี่คือการสัมภาษณ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำมา”
       
       ก่อนหน้านี้ โอปราห์ เคยสัมภาษณ์บุคคลที่โด่งดังมากแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากแวดวงการเมืองอย่าง ประธานาธิบดี บารัค โอบามา, ป๊อปสตาร์ ไมเคิล แจ็คสัน, หรือนักแสดงคนดัง ทอม ครูซ ที่ไปสร้างเรื่องฮือฮาเต้นแร้งเต้นกาในรายการของเธอจนเป็นข่าวใหญ่
       
       “วิสัยทัศน์ของ โอปราห์ ก็คือการใช้รายการทีวีของเธอในการสร้างแสงไฟเล็ก ๆ ในใจให้กับผู้ชม” เชอรี ซาลาต้า ประธานของ OWN กล่าวหลังรายการแนวสร้างแรงบันดาลใจในชีวิต Super Soul Sunday ที่ โอปราห์ ดำเนินรายการเองได้รางวัลแกรมมี
       
       โอปราห์ วินฟรีย์ เปลี่ยนตัวเองจากหญิงชนชั้นกลางธรรมดา ๆ เป็นมหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักรสื่อที่นิตยสาร Forbes บอกว่ามีทรัพย์สินรวม 2,700 ล้านเหรียญฯ เคยทำรายการที่มีคนดูมากที่สุดในประเทศ เฉพาะ The Oprah Winfrey Show ตอนสุดท้ายก็มียอดผู้ชมสูงถึง 16.4 ล้านคน แต่สำหรับสถานี OWN ที่มียักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรทัศน์ Discovery Channel เป็นผู้สนับสนุน กลับมียอดผู้ชมที่น้อยมาก โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ กับจำนวนตัวเลขคนดูเพียง 300,000 คนเท่านั้น
       
       เหตุผลหนึ่งก็คือตัวของ โอปราห์ เองที่ไม่ได้จัดรายการในทุก ๆ วันเหมือนที่เธอเคยทำมาตลอด 25 ปี แต่รายการใหม่ Oprah's Next Chapter มีกำหนดออกอากาศเพียง 3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
       
       เมื่อสิ้นปี 2012 ยอดผู้ชมของ OWN มีอยู่ประมาณ 326,000 คน โดยปีที่ผ่านมามีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การสัมภาษณ์คนดังอย่าง รีฮันนา, ปารีส ลูกสาวของ ไมเคิล แจ็คสัน และ บ็อบบี คริสตินา ลูกสาวของ วิตนีย์ ฮุสตัน ส่วนรายการเรียลลิตี้ที่ โอปราห์ ไม่มีส่วนร่วมใด ๆ อย่าง Welcome to Sweetie Pie's ที่ติดตามชีวิตของครอบครัวอดีตนักร้องคนหนึ่ง กับการเปิดร้านอาหารที่ชื่อ Sweetie Pie's และรายการ Six Little McGhees ที่นำเสนอภาพของครอบครัวซึ่งมีลูก ๆ 6 คน ก็พอจะมีแฟนประจำติดตามอยู่บ้าง

โดยทาง Discovery Communications หวังว่า OWN น่าจะเริ่มทำเงินได้มากขึ้นในกลางปี 2013 ซึ่งจะมีการออกอากาศรายการใหม่ ๆ รวมถึงผลงานของ ไทเลอร์ เพอร์รี ผู้โด่งดังมาจากวงการภาพยนตร์ ซึ่งน่าจะดึงฐานกลุ่มคนดูผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันได้
       
       อีริค เดกเกนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทีวี และสื่อจาก Tampa Bay Times ในฟลอริด้าบอกว่าการสัมภาษณ์ อาร์มสตรอง น่าจะทำให้หลายคนที่ไม่เคยดู OWN เปลี่ยนมาดูกันเป็นครั้งแรก และทำให้สถานีโทรทัศน์ของ โอปราห์ ซึ่งตามปกติมียอดคนดูไม่ค่อยสูงนักได้รับความสนใจมากขึ้น “คนดังคนต่อไปที่อยากจะพูดเกี่ยวกับบาดแผลในชีวิต ก็จะรู้ทันทีว่าควรไปหา โอปราห์ พวกเขาจะได้สิ่งที่ต้องการจะได้ทันที”
       
       ก่อนหน้านี้ทาง CBS เคยพยายามผลักดันให้ 60 Minutes รายการข่าวระดับเรือธงของสถานีได้สัมภาษณ์ อาร์มสตรอง หลังรายการเคยสัมภาษณ์ผู้คนรายล้อม และสืบสวนเรื่องราวที่ว่าด้วยข้อกล่าวหาการใช้สารกระตุ้นของอดีตแชมป์ Tour de France 7 สมัยมาพักใหญ่ ๆ แล้ว
       
       “เราอยากได้ แลนซ์ อาร์มสตรอง มาสัมภาษณ์ในรายการใจจะขาด แต่สุดท้ายเขาก็เลือก โอปราห์” เจฟ เฟคเกอร์ โปรดิวเซอร์ ของ 60 Minutes กล่าวกับ Hollywood Reporter
       
       สุดท้ายแม้ CBS จะไม่ได้สัมภาษณ์ อาร์มสตรอง แต่ก็ได้สัมภาษณ์ โอปราห์ ที่บอกกับรายการ This Morning ว่าเธอเป็นคนส่งอีเมล์ไปหา อาร์มสตรอง เมื่อซัก 2 เดือนก่อนเอง หวังว่าจะได้เป็นคนสัมภาษณ์เขา ฝ่าย อาร์มสตรอง ก็ตอบกลับด้วยการชวนไปทานอาหารกลางวันกันซักมื้อ แต่ด้วยตารางการทำงานที่ค่อนข้างแน่น มื้ออาหารดังกล่าวจึงไม่ได้เกิดขึ้น
       
       สุดท้ายทั้งสองจึงได้พบกันที่บ้านพักของ โอปราห์ ในฮาวายเมื่อช่วงคริสมาสต์ และตามมาด้วยการให้สัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่บันทึกเทปกันในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ออสติน

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)