Author Topic: “ณัฏฐ์” ย้ำไม่เห็นด้วย “รถคันแรก” อยากให้คนตาสว่าง ก่อนยกคำพูด “นก สินจัย” อย่ากลัวจะทำคว  (Read 539 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




       “ณัฏฐ์” ย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยนโยบาย “รถคันแรก” แจกแจงแทนที่จะนำเงินที่คืนภาษีรถคันแรกไปใช้ในส่วนอื่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่กู้เงินมาเพื่อเอามาให้ประชาชน เพราะเท่ากับเป็นการไปสร้างหนี้ให้รัฐเข้าไปอีก รับหลังโพสต์แสดงความเห็นเรื่องนี้ก็มีทั้งคนชอบและด่า แต่ไม่คิดลบข้อความนั้น เพราะอยากให้คนตาสว่าง เผย หวั่นโดนรัฐบาลโจมตี แต่ไม่ได้กลัว ก่อนยกคำพูด “นก สินจัย” อย่ากลัวที่จะทำความดี โดนสุดๆ
       
       หลังจากที่ดารานักแสดงชื่อดัง “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของตนเองเป็นภาษาอังกฤษ ว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรก นโยบายประชานิยมของรัฐบาล “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ทำเอาคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุนความคิดเห็นของหนุ่มณัฏฐ์กันเป็นแถว ทำให้เกิดกระแสต่างๆ ตามมามากมาย ซึ่งก็มีทั้งโต้แย้งและเห็นด้วย โดยข้อความที่หนุ่มณัฏฐ์ โพสต์มีใจความสำคัญที่น่าสนใจว่า...
       
       “ในประเทศที่พัฒนาแล้ว นโยบายของรัฐบาลจะมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพชีวิตประชากรภายในประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษา, การสาธารณสุข และระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบการคมนาคมสาธารณะ แต่ในประเทศกำลังพัฒนา รัฐบาลกลับมุ่งเน้นนโยบายในเรื่องของการยกระดับคุณภาพชีวิตส่วนบุคคล และธุรกิจของตนเอง ประชาชนยังคงไร้การศึกษา, มัวเมา และยังคงถูกลวงหลอกกับสิ่งที่ดูเหมือนและฟังเหมือนจะเป็นนโยบายเพื่อประชาชน...เช่นเดียวกับการยกเว้นภาษีให้กับรถคันแรก...และก็มีเพียงประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่ออกนโยบายบนความเชื่อผิดๆ นี้... ขอพระเจ้าโปรดคุ้มครองเราทุกคนด้วย!!! ... ตื่นได้แล้วประเทศไทย!!!”
       
       ซึ่งนับตั้งแต่ออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว เจ้าตัวก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ กระทั่งล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่มณัฏฐ์ เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยยืนยันในสิ่งที่ตนเองได้โพสต์ลงไป
       
       “ผมก็พูดชัดเจนไปแล้วในข้อความ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเพิ่ม ผมเองพูดในฐานะประชาชนคนนึง นโยบายของรัฐบาลแน่นอนมันก็ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องปกติ ผมก็เป็นประชาชนคนนึงก็พูดในสิทธิ์ที่ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย”
       
       “เรื่องผลกระทบกับผมก็เข้าใจนะครับ เพราะผมเองก็ค่อนข้างระวังเหมือนกัน แต่เราก็ชัดเจนในสิ่งที่เราต้องการออกความเห็นที่เขียนไปแล้ว ก็มีทั้งคนที่เข้ามาด่าและให้กำลังใจ ก็เข้าใจครับ ว่าก็ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็เหมือนกับนโยบายของรัฐบาล เราในฐานะประชาชนคนนึงเราก็แค่แสดงความคิดเห็น ว่าเราไม่เห็นด้วยก็เท่านั้นเอง”
       
       “หลายๆ คนอาจจะชอบนโยบายนี้ มันก็ไม่ผิดอะไร เขาชอบเขาก็สนับสนุน ส่วนผมในฐานะที่เป็นคนไทยคนนึง เรารู้สึกว่ามันไม่ควรจะมีนโยบายอย่างนี้ น่าจะนำเงินภาษีที่เอามาใช้ตรงนี้มาใช้ในส่วนอื่นมากกว่า ไม่ใช่ไปกู้เงินมาเพื่อเอามาให้ประชาชน มันกลายเป็นว่าไปสร้างหนี้ให้รัฐเข้าไปอีก”
       
       “ครอบครัวผมเขาก็มีเตือนบ้างนิดนึง แต่เราก็บอกว่าเรามีสิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทยคนนึง เขาก็บอกว่าเราพูดแค่นี้ เราใช้สิทธิ์แค่นี้ไม่ต้องไปต่อความยาวสาวความยืดแล้วนะ แล้วก็มีคนรอบข้างทั้งในวงการ และนอกวงการมาถามกันเยอะเลย แต่ทุกคนเขาก็รู้ว่าทุกอย่างที่ผมเขียนไปมันชัดเจนมาก แล้วผมก็ไม่ได้ลบข้อความนั้นทิ้งด้วย คอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ก็ยังอยู่ ไปดูได้ สามารถไปตามอ่านได้”
       
       “ผมไม่ได้ต้องการจะทำให้มันมีประเด็นอะไรออกมา แต่เราก็อยากจะแสดงความเห็นเท่านั้นเอง เราเป็นประชาชนในสังคมประชาธิปไตยเราก็แค่ใช้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง แล้วเราก็แสดงความคิดเห็นที่อยู่ในกรอบ ซึ่งมันจะมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ เราแค่ต้องการอยากให้คนหลายๆ คนได้คิด เข้าใจบางอย่างที่อาจจะเข้าใจผิดไป แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะผมก็ได้พูดไปอย่างชัดเจนแล้ว”
       
       ยอมรับรู้สึกกังวลว่าจะกลายเป็นเป้าให้รัฐบาลหรือคนที่คิดไม่เหมือนตนโจมตี
       
       “ก็มีกังวลนิดนึง แต่เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร เราก็แค่ออกความคิดเห็นอย่างสุภาพ เราไม่ได้ใช้คำหยาบ เราพูดกันอย่างปัญญาชน ผมเรียนมาทางด้านเศรษฐกิจ ด้านธุรกิจซึ่งเราเข้าใจกลไกการตลาดของอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ได้บอกว่าผมฉลาดนะ เพียงแต่ผมเข้าใจและผมคิดอย่างนี้เท่านั้นเอง ไม่ได้บอกเลยว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นถูกหรือไม่ถูก คนที่อ่านถ้าคิดตามเห็นด้วยก็คือเห็นด้วย ถ้าเห็นต่างมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ได้บังคับว่าเขาจะต้องมาเห็นด้วยตามเรา”
       
       “กับคอมเมนต์ต่างๆ ก็ซีเรียสครับ คนเห็นด้วยนี่ไม่ซีเรียส รู้สึกดีใจที่มีคนเข้าใจในสิ่งที่เราพูด ส่วนคนที่ไม่เข้าใจมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ถามว่าเราอยู่ตรงนี้ด้วยเราเองก็กังวลเหมือนกัน แต่ก็ทำไปแล้ว ออกความเห็นไปแล้ว ก็ต้องรับความจริงก็เท่านั้นเอง ทำไงได้ แต่ก็ไม่ได้กังวลจนรู้สึกกลัวขนาดนั้น”
       
       “ผมรู้สึกว่าผมเป็นประชาชนคนนึงเหมือนกัน ก็มีสิทธิ์มีเสียง ฉะนั้น ผมก็สามารถพูดได้เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่าคนก็จ้องมองอยู่มันก็ต้องระวังเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้เลย อยากจะหยิบยกคำพูดนึงของพี่นก สินจัย ที่ว่าอย่ากลัวที่จะทำความดี มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วผมก็ชอบมากเลย เพราะทำไมเราต้องกลัวที่จะคิดดีทำความดีด้วย ถ้าเรากลัวแล้วใครจะสนับสนุนคนดีจริงไหมครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)