Author Topic: แถลงการณ์ แอปเปิล แจง ประเด็นกล้องดิจิตอล “flare สีม่วง” ใน iPhone 5  (Read 983 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


flare สีม่วงไม่พึงประสงค์ในภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลของไอโฟนรุ่นล่าสุด


ภาพถ่ายมุมเดียวกันของไอโฟน 4


flare สีม่วงเกิดขึ้นในภาพถ่ายมากมาย

หลังจากส่งจดหมายแจ้งผู้ใช้ไอโฟน 5 (iPhone 5) ที่ร้องเรียนปัญหา “รัศมีสีม่วง” หรือวงแสงสีม่วงไม่พึงประสงค์ในภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลของไอโฟนรุ่นล่าสุด โดยโยนว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิธีการถือเครื่องเพื่อถ่ายภาพของผู้ใช้เอง ไม่ใช่ปัญหาด้านเทคนิคของไอโฟน 5 ล่าสุดแอปเปิลตอกย้ำคำตอบนี้ด้วยการออกแถลงการณ์แนะนำผู้ใช้ไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการ รวมถึงวิธีควรปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด flare หรือวงแสงในภาพจากไอโฟน 5
       
       flare คือแถบหรือแนวจุดสว่างที่ปรากฏบนภาพถ่าย สาเหตุการเกิด flare คือแสงจากแหล่งกำเนิด เช่น ดวงอาทิตย์หรือหลอดไฟฟ้า ส่องกระทบเข้าหน้าเลนส์ในมุมที่เหมาะสม แล้วสะท้อนกับผิวแก้วชิ้นเลนส์หรือวัตถุอื่นๆ ที่อยู่ในเลนส์ ไปตกลงบนอุปกรณ์รับภาพ เรื่องนี้ตากล้องมืออาชีพทั่วโลกรู้กันดีว่า flare สามารถบรรเทาได้ด้วยการสวมหน้ากากกันแสงหน้าเลนส์หรือฮูด (hood) ให้กล้อง ซึ่งขณะนี้ชาวออนไลน์กำลังล้อเลียนว่าผู้ใช้ iPhone 5 อาจต้องใช้ฮูดหากต้องการถ่ายภาพ
       
       ปัญหา flare สีม่วงในภาพจากกล้องไอโฟน 5 นั้นแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากไอโฟน 5 เริ่มจำหน่ายช่วงเดือนกันยายน เจ้าของเครื่องหลายรายพร้อมใจร้องเรียนว่าพบ Flare สีม่วงเกิดขึ้นในภาพถ่ายมากมาย มีการนำภาพถ่ายมุมเดียวกันของไอโฟน 4S มาเปรียบเทียบก็พบว่าไม่เป็นปัญหาใด

เรื่องนี้ตัวแทน AppleCare ศูนย์ดูแลลูกค้าหลังการขายของแอปเปิลส่งอีเมลชี้แจงผู้ใช้ที่ร้องเรียนต่อแอปเปิลเป็นลายลักษณ์อักษรว่า flare สีม่วงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติของกล้องดิจิตอลในอุปกรณ์ใดๆ โดยอ้างข้อมูลจากทีมวิศวกรแอปเปิล แนะนำให้ผู้ใช้ถือไอโฟน 5 โดยหันกล้องออกจากแหล่งกำเนิดแสงขณะถ่ายภาพ
       
       ขณะนี้แอปเปิลตอกย้ำคำตอบเดิมด้วยการออกแถลงการณ์แนะนำผู้ใช้ไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าการหันกล้องออกจากแหล่งกำเนิดแสงนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ไอโฟนทุกรุ่น รวมถึงผู้ใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งกล้องดิจิตอลขนาดเล็กควรทำ
       
       “กล้องดิจิตอลขนาดเล็กส่วนใหญ่ซึ่งติดตั้งในไอโฟนทุกรุ่นนั้นมีโอกาสเกิด flare เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพใกล้แหล่งกำเนิดแสง การเปลี่ยนตำแหน่งกล้องเพื่อให้องศาของแสงเปลี่ยนมุมไป จะช่วยลดหรือกำจัดปัญหา flare ได้”
       
       การตอบปัญหาลักษณะนี้ถือเป็นแนวทางเดียวกับหลายปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ไอโฟน ก่อนหน้านี้ ฟิล สคิลเลอร์ (Phil Schiller) รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของแอปเปิลเคยเป็นข่าวเมื่อครั้งส่งอีเมลตอบปัญหาไอโฟน 5 มีรอยขูดขีดและถลอกง่าย

ผู้ใช้ไอโฟน 5 สีดำหลายรายระบุว่าพบปัญหาสีดำที่เคลือบบนฝาอะลูมิเนียมของไอโฟน 5 หลุดถลอกออกจนเห็นสีเงินตามแนวขูดขีด ผู้บริหารแอปเปิลรายนี้ได้ชี้แจงว่าสินค้าอะลูมิเนียมทุกชนิดล้วนมีโอกาสเกิดรอยถลอกจนเห็นผิวสีเงินของอะลูมิเนียมเนื้อใน ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติของการใช้งาน
       
       อย่างไรก็ตาม คำตอบลักษณะนี้กลับทำให้รอยบาปของแอปเปิลกรณีปัญหาเสาสัญญาณในไอโฟน 4 ถูกนำมาวิจารณ์อีกครั้ง เพราะครั้งนั้นแอปเปิลยืนยันว่าผู้ใช้ถือจับเครื่องอย่างผิดวิธีเอง โดยโยนบาปว่าผู้ใช้ไม่ควรถือจับโทรศัพท์โดยนำอุ้งมือไปปิดบังบริเวณมุมขวาของเครื่อง ซึ่งจะทำให้เสาสัญญาณที่ติดตั้งในบริเวณนั้นไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร
       
       คำตอบในครั้งนั้นถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนแอปเปิลต้องออกแถลงการณ์รับผิดและยอมเปลี่ยนแปลงตำแหน่งติดตั้งเสาสัญญาณในเครื่องใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่ถนัดทั้งซ้ายและขวาสามารถถือจับเครื่องได้ตามถนัด
       
       สำหรับความคืบหน้าของไอโฟน 5 ในช่วงก่อนหน้านี้ คือคู่แข่งสัญชาติเกาหลีอย่างซัมซุง (Samsung) แสดงท่าทีพร้อมโจมตีไอโฟน 5 โดยลงมือเพิ่มชื่อไอโฟนรุ่นล่าสุดลงในสำนวนฟ้องคดีสิทธิบัตรซึ่งซัมซุงยังมีคดีความค้างกับแอปเปิลในชั้นศาลหลายประเทศ ทั้งหมดนี้ซัมซุงระบุว่าเป็นการตัดสินใจเพื่อปกป้องนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ซึ่งคาดว่าซัมซุงอาจฟ้องร้องว่าไอโฟน 5 ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเครือข่าย LTE
       
       Company Related Link :
       Apple

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1647 Views
Last post June 25, 2009, 06:26:43 PM
by Reporter
0 Replies
2030 Views
Last post June 30, 2009, 01:10:16 AM
by IT
0 Replies
3611 Views
Last post July 01, 2009, 08:16:13 AM
by Reporter
0 Replies
1840 Views
Last post July 03, 2009, 10:00:42 AM
by IT
0 Replies
1691 Views
Last post January 08, 2012, 11:51:35 AM
by Nick
0 Replies
2260 Views
Last post January 31, 2012, 02:09:08 PM
by Nick
0 Replies
1491 Views
Last post March 09, 2012, 04:59:06 PM
by Nick
0 Replies
1968 Views
Last post March 28, 2012, 05:00:35 PM
by Nick
0 Replies
2802 Views
Last post April 05, 2012, 04:49:28 PM
by Nick
0 Replies
1052 Views
Last post November 06, 2013, 08:47:05 PM
by Nick