Author Topic: “โรเบิร์ต” ให้อภัย “คริสเตน” แล้วบอกขาดกันไม่ได้  (Read 640 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักคนดัง “โรเบิร์ต แพตตินสัน” และ “คริสเตน สจ๊วร์ต” ดูท่าว่าจะจบลงด้วยดีแล้ว หลังมีรายงานว่า “โรเบิร์ต” ให้อภัยกับความผิดของ “คริสเตน” เพราะขาดกันไม่ได้ หลังมีโอกาสคุยกับฝ่ายหญิงที่สารภาพผิดทั้งน้ำตา
       
       “โรเบิร์ต แพตตินสัน” และ “คริสเตน สจ๊วร์ต” คู่รัก-คู่ร้างวัยทีนชื่อดัง กลับมาคืนดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังร้องไห้คุยกันแบบเปิดใจ ซึ่งน้ำตาของฝ่ายหญิงที่นอกใจไปมีสัมพันธ์ลับๆกับ รูเพิร์ต แซนเดอร์ ผู้กำกับคนดัง ก็ทำเอาโรเบิร์ต ใจอ่อนให้อภัยโดยระบุว่าเป็นการทำผิดพลาดแบบงี่เง่า
       
          แหล่งข่าวกล่าวกับเดอะซัน ของอังกฤษ ว่า “พวกเขาตัดสินใจได้ว่าพวกเขาอยู่โดยขาดกันและกันไม่ได้ คริสเตนเปิดใจกับโรเบิร์ต และบอกเขาว่า มันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวและเป็นความผิดพลาด”
       
          ในรายงานระบุด้วยว่า ทั้งคู่ได้ย้ายเข้าไปเก็บตัวอยู่ในบ้านที่ลอสแองเจลิส และหวังที่จะสร้างสัมพันธ์รักขึ้นมาใหม่ให้ได้อีกครั้ง...“ร็อบเข้าใจแล้วว่ามันเป็นเพียงความผิดพลาดแสนงี่เง่าของคริสเตน หลังจากที่ได้คุยกันเปิดใจพร้อมน้ำตา พวกเขาสะสางเรื่องที่คาใจกันจนหมด”
       
          “ร็อบได้เห็นว่าคริสเตนรู้สึกเสียใจต่อเขามากขนาดไหน และเขาก็ยินดียกโษให้อภัยเธอทุกอย่าง พวกเขาต่างก็รักกันมาก”
       
          นับได้ว่า คริสเตน ที่เล่นบทนอกใจก่อนค่อนข้างมั่นใจอย่างมากทีเดียวที่จะชนะใจโรเบิร์ตได้อีกครั้ง โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เธอก็เคยบอกกับนักข่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ด้วยว่า “พวกเราสบายดีไม่เป็นไร”
       
          โดยคาดกันว่า ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ทไวไลท์ Breaking Dawn Part 2 ในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ อาจมีโอกาสได้เห็นออกงานโปรโมทภาพยนตร์ร่วมกันเป็นครั้งแรกหลังเกิดข่าวฉาวเมื่อเดือน ก.ค.ที่คริสเตนถูกจับภาพอยู่ในอ้อมแขนของ รูเพิร์ต แซนเดอร์ ผู้กำกับคุณพ่อลูกสอง ที่งานนี้ทำเอาทั้ง ลิเบอร์ตี รอสส์ ภรรยาของรูเพิร์ต และ โรเบิร์ต แพตตินสัน ต่างช้ำใจไปตามๆ กัน รวมถึงแฟนคลับทไวไลท์ทั่วโลกด้วย

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)