Author Topic: ถึงที 'iPhone5' ขายกระจาย !!!  (Read 1358 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

ถึงที 'iPhone5' ขายกระจาย !!!
« on: September 14, 2012, 11:55:45 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นักวิเคราะห์มั่นใจ ไตรมาส 4 ปี 2012 จะเป็นไตรมาสที่ยอดขายไอโฟน พุ่งกระฉูดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์แอปเปิล เชื่อหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและความสามารถในการรองรับ LTE หรือ 4G ในไอโฟน 5 จะเป็นจุดแข็งสำคัญ ทั้งหมดสะท้อนแนวโน้มตลาดสมาร์ทโฟนโลกตื่นตัวสุดขีด แม้จะมีความกังวลว่าแอปเปิลอาจจะไม่สามารถสู้ศึกกับคู่แข่งได้ดีเท่าที่ควรเพราะยังไม่มีการเปิดตัวนวัตกรรมที่น่าตื่นใจ
       
       บริษัทวิจัยไอเอชเอสไอซับพลาย (IHS iSuppli) เปิดเผยบทวิเคราะห์หลังจากแอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ก.ย.โดยเชื่อว่าไอโฟน 5 จะดันยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของแอปเปิลให้แตะระดับที่ 149 ล้านเครื่องในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปี 2011 ที่มียอดจัดส่ง 93 ล้านเครื่อง
       
       ไอซัปพลายยังวิเคราะห์ว่ายอดจำหน่ายไอโฟน 5 จะแสดงอิทธิพลอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากกำหนดการเริ่มวางจำหน่าย 21 ก.ย.นั้นมีเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะหมดไตรมาส 3 ของปี ดังนั้นยอดจำหน่ายไอโฟน 5 ย่อมมีผลต่อสถิติงบการเงินของแอปเปิลเต็มตัวในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่แอปเปิลเริ่มจำหน่ายไอโฟนปี 2007
       
       ไอซัปพลายอธิบายว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายไอโฟนไตรมาส 4 ปีนี้เติบโตก้าวกระโดดคือการอั้นซื้อของผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากข่าวลือหนาหูทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสมาร์ทโฟนในช่วงก่อนหน้านี้เพื่อรอให้แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งส่งให้ยอดจำหน่ายไอโฟนช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ทรงตัวเล็กน้อย
       
       ***ไอโฟน 5 จอใหญ่-ทำงานเร็วขึ้น
       
       ไอโฟน 5 ใช้วัสดุประเภทกระจกและอะลูมิเนียมประกอบกัน จุดต่างกับไอโฟนรุ่นก่อนคือความบางเครื่อง 7.6 มิลลิเมตร (บางกว่า 4S 20%) น้ำหนักเครื่องเบาลงอยู่ที่ 112 กรัม หน้าจอขนาด 4 นิ้ว อัตราส่วน Widescreen 16:9 ความละเอียด 1136x640 พิกเซล ซึ่งแอปเปิลระบุว่าขนาดหน้าจอที่ใหญ่จะทำให้มีพื้นที่ในการแสดงแอปพลิเคชันเพิ่มมากขึ้น และแอปดั้งเดิมที่ยังไม่ได้ปรับขนาดให้รองรับไอโฟน 5 ก็จะสามารถแสดงผลได้โดยมีขอบสีดำปรากฏด้านบนและล่างหน้าจอ
       
       แอปเปิลการันตีว่าไอโฟน 5 สามารถแสดงสีสันได้ชัดเจนขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน 44% บนชิปประมวลผล A6 ที่เร็วกว่าเดิมทั้งกราฟิกและการประมวลผลประมาณ 2 เท่าตัว
       
       จุดเด่นของไอโฟน 5 ยังอยู่ที่การรองรับ LTE รวมถึงสัญญาณ HSPA+ และ DC-HSDPA ซึ่งทำให้ไอโฟน 5 สามารถขยายตลาดไปยังหลายประเทศทั่วโลกยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ แอปเปิลการันตีอายุการใช้งานแบตเตอรีสำหรับการสนทนา 3G ต่อเนื่องที่ 8 ชั่วโมง โดยผู้ใช้จะสามารถท่องเว็บไซต์ผ่าน 3G ได้นาน 8 ชั่วโมง WiFi 10 ชั่วโมง วิดีโอ 10 ชั่วโมง เพลง 40 ชั่วโมง และเปิดเครื่องทิ้งไว้ 225 ชั่วโมง
       
       กล้องของไอโฟน 5 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลซึ่งนำความสามารถของชิป A6 มาช่วยประมวลผลภาพตั้งแต่เรื่องชัตเตอร์กล้องที่เร็วขึ้น 40% จากรุ่นก่อน ยังมีระบบการจัดการสัญญาณรบกวนหรือ Noise ในสภาพแสงน้อยที่ดีกว่าเดิม พร้อมความสามารถในการถ่ายภาพพาโนรามาได้ที่ความละเอียดสูงถึง 28 ล้านพิกเซล
       
       ที่สำคัญ ผู้ใช้ไอโฟน 5 สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง Full HD 1080p บนระบบกันภาพสั่นที่ปรับปรุงใหม่ โดยไอโฟน 5 จะสามารถใช้ระบบตรวจจับใบหน้าหรือ Face detection รวมถึงจับภาพนิ่งระหว่างบันทึกวิดีโอได้
       
       คุณสมบัติเหล่านี้ตรงกับข่าวลือบนโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้หลายจุด ที่น่าสนใจคือสายชาร์จที่ปรับเปลี่ยนใหม่ในชื่อ "Lightning" บนขนาดเล็กกว่าเดิม 80% จุดนี้แอปเปิลเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อตัวแปลงให้สายชาร์จเดิมขนาด 30 เข็ม (pin) นำมาใช้กับพอร์ต Lightning ได้
       
       แอปเปิลเปิดราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ในสหรัฐฯ (พร้อมสัญญา 2 ปี) ที่ 199 เหรียญ (16GB) 299 เหรียญ (32GB) และ 399 เหรียญ (64GB) โดยปรับลดราคาไอโฟน 4S ปัจจุบันลงเหลือ 99 เหรียญ เริ่มเปิดจองวันที่ 14 ก.ย.และจะทยอยวางจำหน่าย 9 ประเทศในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ซึ่งสิงคโปร์ติดกลุ่ม 9 ประเทศนี้ด้วย
       
       คาดว่าไทยอาจอยู่ในกลุ่ม 100 ประเทศที่แอปเปิลจะวางจำหน่ายภายในเดือนธ.ค.นี้ โดยจะเป็นการจำหน่ายผ่าน 240 โอเปอเรเตอร์ ซึ่งผู้สนใจซื้อไอโฟน 5 จะต้องซื้อหาซิมที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครซิมในไอโฟน 4S ถึง 40% ชื่อว่า "นาโนซิม (Nano-Sim)" ซิมขนาดจิ๋วขนาดเพียง 1 ตารางเซ็นติเมตรนี้เองที่จะสามารถใส่ในไอโฟน 5 และเบื้องต้นมีรายงานจาก"ดีแทค"แล้วว่า จะพร้อมให้บริการนาโนซิมแก่คนไทยตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.นี้
       
       ทั้งหมดนี้ ไอซัปพลายเชื่อว่าการเปิดตัวไอโฟน 5 นั้นจะมีอิทธิพลมากกว่าการเปิดตัวไอโฟน 4S เมื่อปี 2011 เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากไอโฟนรุ่นก่อนหน้า แถมยังเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลรองรับการเชื่อมต่อ 4G (LTE) รวมถึงความเร็วในการประมวลผลที่เหนือกว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นแรงผลักดันยอดจำหน่ายไอโฟน 5 แน่นอน
       
       นอกจากไอซัปพลาย สำนักวิจัยเอ็นพีดี (NPD) ยังเชื่อว่าไอโฟน 5 จะเป็นแรงสำคัญในการดันยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนโลกให้ทะลุหลัก 1 พันล้านเครื่องในปีนี้ โดยตั้งแต่ปี 2010 และ 2011 แอปเปิลสามารถจัดส่งไอโฟนได้มากกว่า 140 ล้านเครื่อง ทำให้เชื่อว่ายอดจำหน่ายไอโฟนจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นแน่นอน

***หวั่นคู่แข่งแย่งยอดขาย
       
       แม้จะเชื่อว่าไอโฟนรุ่นใหม่จะขายได้ดี แต่บริษัทวิจัยอย่างโอวั่ม (Ovum) กลับเตือนว่าแอปเปิลยังต้องพัฒนาตัวเองให้มากกว่าการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ตัวเครื่องที่เพิ่งเปิดตัวออกมา จึงจะสามารถเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนได้ในอนาคต
       
       รายงานของโอวั่มชี้ว่าแอปเปิลกำลังเสี่ยงตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับที่โนเกีย และแบล็กเบอรี่ เป็นอยู่ในขณะนี้ หากไม่มีการพลิกโฉมประสบการณ์ผู้ใช้ iOS และยังติดกับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์เดิมต่อไปอีก 2 ปี แอปเปิลก็อาจจะพบว่าตัวเองกลายเป็นสมาร์ทโฟนตกกระแสที่ไม่สามารถต้านทานคลื่นลูกใหม่ได้
       
       วันนี้แอปเปิลยังต้องเล่นเกมวิ่งไล่จับเพื่อไล่ตามคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟน ทั้งเรื่องเทคโนโลยี NFC ซึ่งให้ผู้ใช้แตะเครื่องเพื่อทำธุรกรรมการเงินหรือรับบริการอื่นๆได้ รวมถึงเรื่องหน้าจอสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ และการรองรับการเชื่อมต่อ 4G ทั้งหมดนี้มีครบเครื่องทั้งหมดในสมาร์ทโฟนของซัมซุง ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของแอปเปิล รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์รายอื่นๆ และปรากฏว่าไอโฟนรุ่นใหม่ก็ยังด้อยกว่าคู่แข่งในเทคโนโลยีเหล่านี้
       
       “ไอโฟนให้คำนิยามสมาร์ทโฟนประเภทใหม่ในปี 2007 แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าไอโฟนจะสามารถนำหน้าคู่แข่งได้ตลอดไปในอนาคต หากไม่มีการพัฒนานวัตกรรม แอปเปิลก็จะสูญเสียความเชื่อมั่นและแรงดึงดูดใจผู้บริโภค”
       
       Company Related Link :
       Apple

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1478 Views
Last post May 09, 2012, 08:48:37 PM
by Nick
0 Replies
1496 Views
Last post June 05, 2012, 09:11:58 PM
by Nick
0 Replies
1581 Views
Last post September 13, 2012, 08:03:13 PM
by Nick
0 Replies
1296 Views
Last post September 20, 2012, 12:41:47 AM
by Nick
0 Replies
1333 Views
Last post October 03, 2012, 01:13:09 PM
by Nick
0 Replies
1764 Views
Last post October 11, 2012, 02:06:24 PM
by Nick
0 Replies
1583 Views
Last post October 11, 2012, 06:01:54 PM
by Nick
0 Replies
2903 Views
Last post March 23, 2014, 07:20:43 PM
by Nick
3 Replies
2358 Views
Last post February 12, 2015, 05:21:33 PM
by methelie