ไอเอสเอสพีชิงตัดหน้าเปิดบริการคลาวด์สาธารณะรายแรกในไทย ภายใต้บริการ “บี คลาวด์” ถือเป็นการปรับตัวของไอเอสพีในไทยที่จะต้องพัฒนาไป คาดรายได้ปีแรก 30 ล้าน แต่ภายใน 2 ปีจะกลายเป็นรายได้หลักให้บริษัท นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด หรือไอเอสเอสพี กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้เปิดบริการใหม่ คลาวด์แบบสาธารณะภายใต้ชื่อบริการ “บี คลาวด์” โดยได้ร่วมมือกับ 8 พันธมิตรชั้นนำระดับโลก ประกอบไปด้วย เอชพี อีเอ็มซี เทรนด์ไมโคร วีเอ็มแวร์ อีเอ็มซี ไมโครซอฟท์ ซีเอ เทคโนโลยี และสิงเทล ซึ่งถือเป็นการให้บริการเทคโนโลยีการจัดการบริหารในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจสำหรับองค์กร สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานด้านการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูล ลดความเสี่ยง มีความยืดหยุ่นในการใช้งานตามความต้องการของแต่ละองค์กร
“บี คลาวด์ ถือเป็นคลาวด์แบบสาธารณะเชิงพาณิชย์รายแรกของคนไทยที่เปิดตัวให้บริการอย่างเป็นทางการ”
บริการของบี คลาวด์ประกอบไปด้วย อินฟราสตรักเจอร์แอสอะเซอร์วิส (Infrastructure as a Service) เป็นการให้บริการฮาร์ดแวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยในรูปแบบเวอร์ชวลไลเซชัน (virtualization) บริการที่เรียกว่า แพลตฟอร์มแอสอะเซอร์วิส (Platform as a Service) บริการทางด้านแพลตฟอร์ม สำหรับรองรับการทำงานของแอปพลิเคชัน โดยผู้ใช้บริการสามารถปรับใช้และจัดการได้เอง โดยมีบริการตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ ระบบฐานข้อมูล และระบบมิดเดิลแวร์ และบริการซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิส (Software as a Service) เป็นโมเดลทางด้านธุรกิจที่กำลังเป็นที่นิยม โดยมีแนวความคิดพื้นฐานเป็นการเอามาแทนที่การซื้อซอฟต์แวร์แบบเก่าที่มีราคาแพง และการติดตั้งที่ยุ่งยาก โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อซอฟต์แวร์แพกเกจและเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อมาติดตั้งใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง
ฐานะที่ทางไอเอสเอสพีเป็นผู้บุกเบิกในยุคดอตคอมมาแล้ว คำถามที่พบบ่อยคือ หลังจากยุคดอตคอมแล้วจะมีอะไรที่เป็นความเปลี่ยนแปลงแบบนั้นเกิดขึ้นอีก และคลาวด์คอมพิวติ้งก็คือคำตอบของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ที่จะสร้างความแตกต่างในการให้บริการในรูปแบบเดิมๆ
นายบัณฑิตกล่าวอีกว่า ทางไอเอสเอสพีใช้เวลาในการลงทุนและออกแบบบี คลาวด์นี้มาประมาณ 8 เดือน ใช้งบลงทุนไปแล้วประมาณ 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการจนถึงสิ้นปีนี้ประมาณ 100 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการของไอเอสเอสพีอยู่แล้ว ปัจจุบันมีอยู่ 200 ราย คาดว่าจะหันมาใช้บริการบนบี คลาวด์ทั้งหมดภายในปีหน้า ตั้งเป้ารายได้สำหรับบี คลาวด์ไว้ประมาณ 30 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้ทั้งหมดของไอเอสเอสพี ซึ่งเชื่อว่าภายใน 2 ปีข้างหน้ารายได้จากบี คลาวด์จะคิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด
ส่วนบริการที่คิดว่าจะมีการใช้บริการมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของการทำสำรองข้อมูลประมาณ 50-60% ตามมาด้วยบริการทางด้านอินฟราสตรักเจอร์แอสอะเซอร์วิสประมาณ 30%
Company Related Link :
ISSP
ที่มา: manager.co.th