“เก๋ ชลลดา” เป็นแกนนำระดมเพื่อนคนรักสัตว์กว่า 100 คน บุกสภา และเข้ายื่นหนังสือให้ประชาธิปัตย์ช่วยตรวจสอบรัฐบาล กรณีไม่รับพิจารณา พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ หลังติดต่อผ่านนายกฯ “ยิ่งลักษณ์” แต่ไม่มีความคืบหน้า เผยมี “อั้ม พัชราภา” และเพื่อนดาราเป็นแรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ออกมาเคลื่อนไหวเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับสาวเก่ง “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” ที่ก่อนหน้านี้สร้างความฮือฮา โดยการรวมพลดาราผู้รักสัตว์ไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลออก พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา กระทั่งเป็นหัวหอกในการก่อตั้งโครงการ THE VOICE เสียงจากเรา และเตรียมจะจัดตั้งเป็นมูลนิธิเร็วๆ นี้ แต่ผ่านไปกว่า 3 เดือนก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.ของวันนี้ (19 มิ.ย.) เก๋ได้ร่วมกับกลุ่มคนรักสัตว์ มูลนิธิอนุรักษ์ช้าง, มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า, บ้านรักสัตว์, Thailand Petrescue, AAA (Animal Activist Alliance) Thai Bangkaew & Nobody Project WFFT ฯลฯ กว่า 100 คน โดยมีเพื่อนดารา “โบว์ เบญจศิริ วัฒนา” รวมตัวกันไปรัฐสภา และเข้ายื่นหนังสือให้ “กรณ์ จาติกวณิช” ที่พรรคประชาธิปัตย์ช่วย เพื่อเรียกร้องให้ช่วยตรวจสอบรัฐบาล กรณีไม่รับพิจารณา พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ก่อนแจงการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ตนไม่ได้เลือกสี และไม่เกี่ยวการเมือง แต่ตนทำไปเพราะอยากช่วยสัตว์จริงๆ
“เรามาเพื่อหมาแมว ถ้าผู้ใหญ่ท่านไหนเมตตา เก๋ก็ยินดี จริงๆ ที่ผ่านมา เราติดต่อผ่านทางท่านนายกฯ แล้วเวลาก็ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ก็ยังไร้วี่แว่ว ซึ่งจริงๆ เรารอกฎหมายนี้มานานกว่า 7 ปีแล้วค่ะ ในเมื่อผู้ใหญ่ทางฝั่งประชาธิปัตย์ติดต่อให้ความช่วยเหลือมา เก๋ก็ยินดี”
“เก๋ไม่ได้เลือกสีหรือว่าอะไรกับการเมืองเลย เราไม่ได้เลือกฝักเลือกฝ่าย เพียงแค่เราพร้อมที่จะสนับสนุนท่านที่ช่วยเหลือเรา เราแค่มาทวงถามญัตติกฎหมายที่ยังไม่เกิดขึ้นเสียทีก็เท่านั้น เพราะมันยังไม่มีความคืบหน้า เราทำตามกฎหมาย ก็เข้าไปทางพรรคฝ่ายค้านให้ช่วยตรวจสอบรัฐบาลที ว่า ทำไมยังไม่ได้รับการพิจารณาเสียที”
“แต่ที่มายืนร้องเรียนแบบนี้ มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ มาจนตอนนี้เขาปิดสภาแล้วกฎหมายนี้ก็ยังไม่ได้ถูกยื่นขึ้นไปและพิจารณาเป็นญัตติเสียที เราอยู่ในลำดับที่ 17 ก็ยังอยู่เท่าเดิม เราเลยมาทวงถาม เรามาชุมนุมกันอย่างสันตินะคะ วันนี้ก็มากันกว่า100 คน มาในฐานะที่ท่านรับปากเราจะทำเรื่องนี้”
“เก๋ว่าเรื่องนี้มันควรจะเกิดขึ้นเสียที ในการเปิดสภาครั้งหน้า สิงหาคมก็อยากจะให้ท่านนำเรื่องของเรามาเปิดเป็นประเด็นแรกๆ เก๋เข้าใจว่า บ้านเมืองเรามีเรื่องของปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่เรื่องของการคุ้มครองสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชนน่าจะได้รับการสนับสนุนได้รับการคุ้มครอง เพื่อคนที่เราทำผิดจะได้เกรงกลัวความผิดลหุโทษ”
“ปกติคนที่ขารักสัตว์ เขาก็อยากจะปกป้องสัตว์กันอยู่แล้ว แต่ในเมื่อไม่มีกฎหมายมาคุ้มครอง พวกเขาก็ไม่มีคนเอาผิดกับคนที่ทำผิดได้ ฉะนั้นคนที่ทำผิดเขาก็จะได้ใจ ไม่เกรงกลัวความผิด กฎหมายที่เขียนขึ้นนั้นกล่าวถึงการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งในญัตติของกฤษฎีกานี่เขียนยังไม่ชัด ว่าการทารุณกรรมสัตว์มันเป็นยังไงบ้าง เมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธ กาทารุณกรรมสัตว์ควรน่าจะครอบคลุมทุกอย่าง ไม่จำเป็นว่าต้องถึงชีวิต แค่ลวกน้ำร้อน ตี เฆี่ยน แม้กระทั่งทำร้ายโดยการเชือดเขาเป็นๆ สิ่งเหล่านี้ควรจะบรรจุลงในกฎหมายด้วย”
บอกคาดหวังว่าการเคลื่อไหวในครั้งนี้จะประสบสำเร็จ
“เราคาดหวังค่ะ เรามีใจเมตตากับสัตว์ อยากจะให้เกิด พ.ร.บ.ขึ้น พวกเรารวมกลุ่มกันในนามเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก เก๋ว่ามันควรจะเกิดขึ้นได้แล้ว และเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ให้ต่างชาติเขามองเราในอีกด้านนึง เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ เป็นเมืองแห่งความเมตตา ที่ผ่านมา เราช่วยตัวเองกันมาตลอด แต่ที่มานี่ เราต้องการความช่วยเหลือจากภาพรวม ภาพใหญ่ๆ โดยจุดมุ่งหมายของเรา คือ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เพื่อคนที่กระทำผิดจะได้เกิดความเกรงกลัวบ้านเมือง”
เมื่อถามว่า การที่เป็นคนดังคิดว่าจะสามารถเป็นกระบอกเสียงที่ดังขึ้นมั้ย? เจ้าตัวก็บอกว่า...
“ก็คงเป็นโชคดี แต่เก๋เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ที่อาจจะมาแทนเสียงของเพื่อนๆ ในวงการทุกคนอยากจะมาร่วมกันนะคะ แต่ภารกิจหลายอย่างทำให้เขามาได้ ไม่สะดวก เก๋เลยมาเป็นเสียงแทนให้ ก็ถือว่าเป็นเทียนเล่มเล็กๆ ค่ะ แต่เทียนเล่มนึงก็สามารถเป็นกำลังต่อไฟไปได้อีกเรื่อยๆ”
“อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เองก็รักสุนัข มีฝากอะไรมาบ้างมั้ย?
“ไม่ใช่แค่อั้ม เก๋ไม่อย่ากจะเอ่ยชื่อเจาะจงว่ามีเพื่อนคนไหนบ้าง แต่ทุกๆ คนน่ารักมากเลยค่ะ อย่างเมื่อเช้า (ตอง ภัครมัย โปรตระนันท์) ก็เขียนเฟซบุ๊กมาให้กำลังใจ และเพื่อนๆ อีกหลายคน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงเขาจะไม่ได้มาปรากฏตัวในวันนี้ แต่เก๋เชื่อว่าทุกคนส่งใจมาช่วยเก๋หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมเงินช่วยเหลือ ลงกำลังแรงบ้าง ถ้าต้องล่ารายชื่ออีก ทุกคนก็เต็มใจช่วยกันเต็มที่ บอกต้องการกำลังคนเมื่อไหร่บอกนะ เราจะเป็นกำลังสำคัญช่วยเต็มที่”
ที่มา: manager.co.th
