Author Topic: SoftBank ชูสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ "วัดปริมาณรังสี" ได้  (Read 826 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai








     ซอฟต์แบงก์ (Softbank) โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือแดนอาทิตย์อุทัยเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่สามารถวัดปริมาณรังสีที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้นได้ หวังสร้างความมั่นใจให้ประชากรญี่ปุ่นที่หวาดหวั่นกับภัยโรงงานนิวเคลียร์ระเบิดที่ฟุกุชิมะ ในวิกฤติสึนามิและแผ่นดินไหวเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา
       
       สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตัวแรกของโลกที่สามารถวัดปริมาณรังสีได้มีชื่อรุ่นว่า Pantone 5 107SH เป็นสมาร์ทโฟนในซีรียส์ Pantone ของซอฟต์แบงก์ซึ่งฝังเซ็นเซอร์ที่ผู้ใช้จะสามารถกดปุ่มเพื่อตรวจสอบปริมาณรังสีรอบตัวได้อย่างสะดวกและง่ายดาย กำหนดการวางจำหน่ายคือเดือนกรกฎาคม
       
       ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า Pantone 5 สามารถตรวจจับรังสีในช่วง 0.05-9.99 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งจะสามารถเตือนให้ผู้ใช้สามารถหาทางป้องกันอันตรายต่อสุขภาพได้อีกทาง จุดนี้ไม่ใช้ซอฟต์แบงก์รายเดียวที่เข้าใจว่าชาวญี่ปุ่นมีความกังวลเรื่องรังสี เพราะเอ็นทีทีโดโคโม (NTT DoCoMo) โอเปอเรเตอร์เบอร์ 1 ของญี่ปุ่นก็เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจจับรังสีได้เช่นกัน
       
       อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่เอ็นทีทีโดโคโมเปิดตัวเพื่อผู้หวั่นใจเรื่องรังสีนั้นไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่เป็นเพียงหน้ากากสมาร์ทโฟนที่สามารถวัดระดับปริมาณรังสีได้ ซึ่งยังไม่มีการประกาศกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
       
       สำหรับ Pantone 5 นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.0 หน้าจอแอลซีดีขนาด 3.7 นิ้วความละเอียด 854 x 480 พิกเซล กล้องดิจิตอล 4 ล้านพิกเซล ทำงานบนหน่วยประมวล 1.4GHz พร้อมระบบทีวีจูนเนอร์ความเร็วสูง 1seg TV Tuner ตัวเครื่องสามารถกันน้ำและฝุ่นละออง บนความบางเพียง 12 มม.
       
       Company Related Link :
       Softbank

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6238 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
7877 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
7611 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5306 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6766 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
3286 Views
Last post December 02, 2011, 02:27:58 PM
by Nick
0 Replies
2732 Views
Last post December 03, 2011, 05:41:01 PM
by Nick
0 Replies
4914 Views
Last post January 18, 2012, 02:03:34 PM
by Nick
0 Replies
3034 Views
Last post January 25, 2012, 01:34:46 PM
by Nick
0 Replies
6450 Views
Last post May 15, 2012, 09:59:24 PM
by Nick