Author Topic: “ลิฟท์ สุพจน์” เผยไม่อยากให้ลูกเป็นดารา  (Read 2136 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






“ลิฟท์” เตรียมปั้มทายาทคนที่สอง แต่ไม่เร่งรีบว่าต้องมีให้ทันปีนี้ อยากปล่อยตามธรรมชาติมากกว่า บอกคนสองจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ไม่เกี่ยง เจ้าตัวสุดปลื้มที่ “น้องพราว” มีพัฒนาการที่ดี พร้อมเผยโตขึ้นไม่อยากให้ลูกเป็นดารา
       
       เวลานี้ “น้องพราว” ลูกสาวสุดรักสุดหวง ของนักแสดงและอดีตนักร้อง “ลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ” กับสาว “หญิง นราวัลย์” ใกล้จะสองขวบแล้ว งานนี้หนุ่มลิฟท์เผยว่า อยากจะมีน้องให้น้องพราวแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนักอยากปล่อยตามธรรมชาติ ส่วนคนสองจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวก็ได้หมด
       
       “ตอนนี้น้องพราวอายุขวบกับเก้าเดือนแล้วครับ เป็นช่วงที่กำลังซนมากเลยทีเดียว กำลังเริ่มเรียนรู้และเริ่มมีพัฒนาการ เริ่มพูดบ้างแล้ว และตอนนี้เขาหัดร้องเพลงแล้วครับ คือเขาเป็นคนจดจำเร็ว ผมสอนเขาร้องเพลง เขาก็ร้องเพลงช้าง แล้วเราก็เอาไปลงในเฟซบุ๊กให้คนดูทายว่าน้องร้องเพลงอะไร เขาก็มีเต้นๆ บ้าง สนุกสนาน ตามสเต็ปของเด็กครับ”
       
       “ส่วนคนต่อไป (หัวเราะ) จริงๆ ก็อยากมีน้องให้น้องพราวเหมือนกัน แต่ที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ว่า อยากให้น้องพราวเข้าเรียนอนุบาลก่อน แล้วถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที และผมก็มีคุยกับหญิงถึงเรื่องนี้บ้าง แต่ก็ยังไม่สรุปว่าเราจะมีคนเดียวหรือว่าจะมีอีกคนหนึ่ง ต้องรอดูอนาคต”
       
       “ถามว่าอยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วแต่ ผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็ได้หมดครับ แค่อยากจะให้เขาโตขึ้นมาเป็นคนดีก็โอเคแล้ว แต่จะมีปีนี้เลยไหมนั้น ตัวผมยังไม่ได้คิดขนาดนั้นว่าจะเมื่อไหร่ ปล่อยตามธรรมชาติ แล้วแต่ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”
       
       “น้องพราวเขาก็ยังไม่มีบ่นว่าอยากมีน้อง ผมเคยถามน้องพราวว่าอยากได้น้องไหม เขาก็ส่ายหัว ก็ถามว่าไม่เหงาเหรอ อยู่คนเดียวได้ เขาก็พยักหน้าว่าค่ะ เขาก็เริ่มรู้เรื่องมากขึ้น”
       
       ปลื้มที่เห็นลูกมีพัฒนาการ
       
       “คงไม่เรียกว่าฉายแวว คงเรียกว่าเป็นการพัฒนาการของเด็กมากกว่า จริงๆ แล้วผมก็อยากให้เขาโตตามวัยมากกว่า อยากให้เขามีพื้นฐานการเรียนให้เต็มที่ แล้วพอเรียนจบมาแล้ว เขาอยากจะเป็นอะไรก็แล้วแต่เขาเลย บางคนอาจอยากจะดันลูกเข้าวงการ แต่สำหรับผมคงไม่ ผมอยากให้ลูกทำอาชีพอื่นมากกว่า คือในความรู้สึกเราอยากให้เขาเรียน”
       
       “แต่ถ้าเกิดเขาชอบงานในวงการเราก็ส่งเสริม เกิดถ้าเขาไม่ชอบ แล้วชอบอย่างอื่น ชอบเรียน เราก็ส่งเสริมด้านการเรียนครับ กับงานโฆษณาก็ยังไม่มีสินค้าอะไรติดต่อให้น้องเป็นพรีเซ็นเตอร์เลยครับ เราก็อยากมีบ้างนะ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)