Author Topic: “ปุ๊กลุก” ประจันหน้า “แตงโม” ออกงาน ปากบอกไม่เกาเหลาแต่แยกห้องกันอยู่แถมไม่สัมภาษณ์คู่?!  (Read 1433 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai








       “แตงโม” โชว์สปิริตออกงานคู่ “ปุ๊กลุก” ปัดไม่รู้อีกฝ่ายลงทุนแต่งหน้ามาเองเพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอกัน อีกทั้งยังขอแยกห้องซ้อมเดินแบบ ยันไม่ซีเรียสหากทำแบบนี้แล้วสบายใจ บอกตนเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ด้านปุ๊กลุกแจงที่กลับลำยอมรับงานคู่แตงโมเพราะอยากให้ทุกอย่างจบ ปัดเรื่องเยอะขอแยกห้องแต่งตัวและห้องซ้อม ลั่นที่แต่งหน้ามาเองเป็นเรื่องปกติของตนอยู่แล้ว ส่วนที่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์คู่เพราะไม่อยากให้รื้อฟื้นอดีต
       
       ควงคู่กันออกงาน CPN SUMMER 2012 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด สำหรับสองดาราสาวที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเกาเหลา สำหรับสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” และ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” โดยยังไม่ทันจะได้เริ่มงานก็มีประเด็นให้เม้าท์กันแล้วว่า งานนี้ปุ๊กลุกขอแยกห้องซ้อม และลงทุนแต่งหน้ามาเองเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอกัน ซึ่งครั้งนี้แม้จะทั้งคู่จะยอมออกงานคู่กันแต่ก็ไม่ยอมสัมภาษณ์ด้วยกัน โดยเป็นทางสาวแตงโมที่ออกมาเปิดใจก่อนว่า...
       
       “สำหรับงานในวันนี้พอดีเคยร่วมงานกับพี่ก้อง ปิยะ(ออร์แกไนซ์) มาหลายงานแล้ว ก็ถ้าโมว่างก็จะรับงานของพี่เขาตลอด ไม่เคยปฏิเสธสักครั้งถ้าคิวว่าง ถามว่ารู้หรือเปล่าต้องมาร่วมงานกับปุ๊กลุก ปกติหนูไม่เคยถามเลยว่าต้องร่วมงานกับใครบ้าง แต่พี่เขาก็ถามว่าสามารถทำงานร่วมกับน้องเขาได้หรือเปล่า หนูก็บอกเลยว่าหนูสามารถทำงานกับใครก็ได้บนโลกใบนี้”
       
       “หนูอยู่ในห้องแต่งหน้าที่เขาจัดไว้ให้ แต่ไม่รู้น้องอยู่ไหน ถามว่าขอแยกห้องแต่งหน้าหรือเปล่า หนูไม่ได้ขอแยกห้องเลยค่ะ หนูบอกแล้วว่าหนูอยู่ที่ไหนตรงไหนก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องที่แยกกันซ้อมอันนี้ก็ต้องถามน้องค่ะ เขาเรียกให้หนูแต่งหน้าก็ไปแต่งหน้า เรียกไปทำผมก็ทำผม เรียกไปซ้อมก็ไป ส่วนคนอื่นจะอยู่ตรงไหนกันก็ไม่ได้ถาม เราเอาเรื่องงานเป็นหลัก เราไม่ได้อะไรเลยยังไงก็ได้”
       
       “ถามว่ามันจะตอกย้ำข่าวเกาเหลาหรือเปล่า คือจริงๆ นะ จะให้หนูทำอะไรก็ได้ จะให้สัมภาษณ์คู่กันก็ได้ สั่งอะไรมาหนูก็ทำหมด มันคือการทำงาน หนูสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ หนูโปรเฟสชั่นแนล (ปุ๊กลุกยอมแต่งหน้ามาเลยเพื่อไม่ต้องมาเจอกัน?) คือโมจะบอกว่าโมไม่รู้เลยนะว่าเขาอยู่ตรงไหน ไม่รู้เขาอยู่ที่ไหน (พองานเริ่มปุ๊กลุกค่อยจะออกมา?) อุ๊ย จริงหรอค่ะ ทำไมเขาทำอย่างนั้นล่ะ แล้วแต่เลยค่ะ ถ้าคนที่ร่วมงานด้วยเขาสบายใจอยู่ตรงไหนก็ไม่เป็นไร โมไม่ได้มีปัญหาเลย โมอยู่ตามธรรมชาติค่ะ หนูไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่ถ้าเขาทำอะไรแล้วสบายใจก็แล้วแต่เขา หนูสบายมากเลย เราถ่ายละครด้วยกันมาตั้ง9เดือน จะให้ไปออกงานด้วยกันอีกหนูก็ทำได้เพราะเป็นการทำงาน ใครก็ได้ค่ะ”
       
       “หนูไม่เคยมีปัญหาอะไรกับน้องเขา เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ไม่ได้ดีขึ้นหรือลดลง หนูยังรักและหวังดีกับน้องในฐานะรุ่นพี่ในวงการบันเทิง ผ่านเรื่องราวต่างๆ ในวงการมาเยอะเราเคยเป็นมายังไง เคยให้คำปรึกษายังไงโมก็ยังอยู่ที่เดิม เคยเคลียร์กันนอกรอบไหม ก็เคยมีค่ะ ตอนถ่ายละครด้วยกัน”
       
       “อย่างที่บอกเวลาทำงาน โมไม่ได้เข้ามาหาผลประโยชน์อะไรที่มันนอกเหนือจากการทำงาน เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ที่กองถ่ายก็ไม่รู้สึกว่าตัวเราจะเป็นคนที่ทำให้ทีมงานหนักใจ เพราะฉะนั้นในเมื่อฝ่ายอื่นไม่เริ่มโมจะเป็นคนที่ขอเริ่มที่จะเคลียร์ก่อนในฐานะที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยากจะทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีมีสังคมในการทำงานที่สบายใจกันทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรถึงโมจะเป็นผู้ใหญ่กว่าก็ตามโมยอมที่จะเปิดใจก่อน แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว จริงๆ จะให้พูดกี่ที่ก็ยังเหมือนเดิม เพราะเราเกรงใจผู้ใหญ่ทางช่อง คนที่เชิญเรามาร่วมงานไม่มีใครอยากเห็นเรามีปัญหากัน แล้วตัวโมไม่มีปัญหากับใครเพราะฉะนั้นก็จุดไหนที่พัฒนาได้ก็พัฒนา”
       
       ด้าน “ปุ๊กลุก” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเดินแฟชั่นโชว์เสร็จ โดยออกตัวว่าที่รับงานคู่กันครั้งนี้ก็เพราะอยากให้ทุกอย่างจบ ต่อไปจะได้ต่างคนต่างทำงานไม่ต้องค้างคาประเด็นนี้อีก ทั้งนี้เป็นที่สังเหตุว่าตอนที่ทั้งคู่เดินแฟชั่นโชว์บนเวที ทางฝ่ายของสาวแตงโมนั้นสามารถทำตัวได้ปกติอย่างมืออาชีพอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ แต่กลับเป็นทางสาวปุ๊กลุกที่ดูจะเกร็งๆ และระมัดระวังตัวผิดปกติ แถมยังทำหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัด
       
       “ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าไม่อยากรับงานร่วมกันเพราะไม่อยากเป็นกระแส แต่ที่รับงานในครั้งนี้เพราะมันกลายเป็นว่ามีประเด็นเพิ่มและประเด็นเก่าก็ไม่จบ หาว่าหนูเลือกรับงาน หนูไม่เคยคิดว่าตัวเองดังระดับซูเปอร์สตาร์ที่จะเลือกรับงานกับใคร คือการรับงานครั้งนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ไปเลยว่าเราคงจบเรื่องเกาเหลาหรือเลือกรับงาน”
       
       “อย่างเมื่อกี้ก็มีถ่ายรูปด้วยกันด้วย ส่วนเรื่องสัมภาษณ์คู่กันนั้น หนูจะบอกว่าการที่เราสัมภาษณ์คู่มันก็คงเป็นการตอบคำถามเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งตัวเราเองก็อยากให้มันจบ เราอยากก้าวไปข้างหน้ามันเลยไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะรื้อฟื้นอดีตขึ้นมา ให้เรื่องมันจบไปแล้วมันผ่านไป งานครั้งนี้อยากให้ทุกอย่างมันจบ การที่เรารับงานและเราถ่ายรูปได้มันดีและเราสองคนก็ทำอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ”
       
       “ถามว่าเจอกันและทักทายกันบ้างหรือยัง เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่คนจัดงานบอก (ได้ขอแยกห้องแต่งตัวและห้องซ้อม?) ตัวหนูเองไม่ได้รีเควสอะไรทุกๆ อย่างเลย ทำงานตามที่ออร์แกไนซ์บอกหนูไม่ได้เยอะอะไรเลย รวมห้องก็ได้ถ้าตัดสินใจรับงานไปแล้ว เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอยู่แล้ว (ออร์แกไนซ์แยกห้องให้เอง?) หนูก็ไม่รู้ว่าทางออร์แกไนซ์ได้งบประมาณมา 2 ห้องหรือเปล่า อันนี้ต้องไปถาม แต่หนูเองไม่มีอะไร แต่หนูตัดสินใจรับงานแล้วก็ทำให้เต็มที่ ซึ่งตัวหนูเองทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องมาร่วมงานกับพี่เขา”
       
       “ส่วนเรื่องแต่งหน้ามาเองนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติของหนูที่จะทารองพื้นมาอยู่แล้ว จะติดขนตามาล่วงหน้ามาอยู่แล้วค่ะ หนูไปกองถ่ายก็แต่งหน้าเองนะ ถามว่าขออัพค่าตัวหรือเปล่า คืองานนี้หนูไม่ได้ตัดสินใจรับงานเอง ไปแอบสืบเอานะหนูก็ไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่ เราอยากให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี (กลัวคนมองว่าเรื่องเยอะหรือเปล่า?) อะไรเยอะละคะ ไม่เยอะนะ ครั้งนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าเราสามารถร่วมงานกันได้กับหลายๆ คน ส่วนงานบนเวทีก็ทำตามหน้าที่หนูไม่รู้สึกอะไร ต่อจากนี้หนูกับพี่แตงโม ก็ไม่มีอะไรหนูทำงานได้ทุกอย่างตามที่ผู้ใหญ่สั่ง ถ้ามีโอกาสร่วมงานกันอีกค่ะ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)