ยอมรับผิด JYJ แถลงขออภัย, แจงอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะ "ซาแซง"

[Nick]

      JYJ ได้จัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตที่อเมริกาใต้ โดยในช่วงหนึ่งของการแถลงครั้งนี้ ไอดอลหนุ่มคนดังได้กล่าวขออภัยต่อเรื่องอื้อฉาวการกระทบกระทั่งกับกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตลอดช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา - Allkpop
       
       นอกจากประเด็นการเปิดคอนเสิร์ตในต่างแดนแล้ว ในการเปิดแถลงเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา สมาชิก 3 คนของ JYJ ยังได้กล่าวถึงประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นจากคลิปเสียงที่อัดเอาไว้ในปี 2009 เป็นหลักฐานที่สมาชิกของวงได้ใช้ถ้อยคำรุนแรงหยาบคาย และถึงขั้นลงไม้ลงมือกับเหล่าแฟนคลับที่เรียกกันว่า "ซาแซง"
       
       โดยสมาชิกของ JYJ มีทีท่าสลดอย่างชัดเจน พวกเขายอมรับว่าการเป็นไอดอลเป็นขวัญใจของคนหนุ่มคนสาวมากมาย ได้สร้างความกดดันให้กับตนเองอย่างมหาศาลจนถึงขั้นกระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมขึ้นมา ... "ตั้งแต่เปิดตัวเป็นศิลปินเมื่อปี 2004 เราต้องทนทุกข์อยู่กับ ซาแซง อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันมาถึง 8 ปีแล้วครับ" สมาชิกคนหนึ่งของวงกล่าว
       
       ฝ่ายหนุ่ม ยูชอน ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "การมีใครบางคนคอยเฝ้ามองผมอยู่ทุกวินาที ติดตามผมไปทุกแห่ง อยากจะแบ่งปันทุกสิ่งในชีวิตของผม มันเหมือนกับการติดคุกโดยไม่มีลูกกรงก็ว่าได้ครับ"
       
       "เบอร์โทรศัพท์มือถือทั้งหมดของเราถูกเปิดเผย รถยนต์ของเราถูกติดตามด้วยจีพีเอส มีคนคอยสะกดรอยตาม บางครั้งถึงกับบุกรุกที่อยู่อาศัย และถ่ายภาพของใช้ส่วนตัวของผม บางครั้งพยายามจะจูบตอนที่ผมกำลังหลับ ครั้งหนึ่งทำให้เด็กคนนึงบาดเจ็บระหว่างที่พวกเขาใช้แทกซีไล่ตามรถของผม ต้องตกอยู่ในความหวาดระแวงอยู่ทุกวัน ผมเองก็แค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างปกติ แม้จะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานซึ่งไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดเหล่านี้ได้เท่านั้น" ฝ่ายหนุ่ม จุนซู พูดถึงความอึดอัดกับการมี "ซาแซง" ชื่นชอบมากมาย
       
       โดย JYJ ได้ขออภัยแฟนคลับอย่างเป็นทางการถึงการกระทำในอดีต ที่ทำให้แฟน ๆ ต้องเป็นห่วง และก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงขึ้นมา แจจุง กล่าวแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เขาทำไปว่า แม้ว่าจะถูกล้ำเส้นมากเพียงใด แต่พฤติกรรมต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นเพราะความรักในตัวพวกเขานั่นเอง
       
       "ผมเสียใจกับสิ่งผิดพลาดในอดีตครับ ... เสียใจที่ทำให้แฟน ๆ ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ นับแต่นี้ไปไม่ว่าสถานการณ์จะไปไกลเพียงใด หรือพวกเราต้องเผชิญหน้ากับสิ่งหนักหนาสาหัสทางจิตใจเพียงใด เราจะคิดเสียว่าคนทั้งหมดเหล่านี้คือคนที่รักเรา และเพื่อพวกเขา เราจะไม่ลังเลอะไรอีกแล้ว แต่จะรับผิดชอบในฐานะบุคคลสาธารณะให้เต็มที่ให้ได้" แจจุง กล่าว

ที่มา: manager.co.th