“ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” ถึงกับควันออกหูเลยทีเดียว หลังโดนอ้างชื่อจองโรงแรมหรู สั่งดอกกุหลาบ 3 หมื่นบาท ไวน์ที่แพงที่สุด เซอร์วิสระดับเมเนเจอร์ ฉลองวาเลนไทน์ ยันตนเองไม่ได้เป็นคนโทรสั่งการเพราะไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น วอนผู้ประกอบการตรวจสอบความจริงก่อน ถึงกับควันออกหูเลยทีเดียวสำหรับ “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” หลังจากไปรับประทานอาหารกับแฟนหนุ่ม “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ที่โรงแรมเรเนซองค์แล้วพนักงานเล่าให้ฟังว่า มีคนสั่งจองโต๊ะในนามชมพู่เพื่อจะมาฉลองวันวาเลนไทน์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยสั่งให้ทางโรงแรมเตรียมดอกกุหลาบขาวไว้ 40 ดอก เลือกโต๊ะที่เป็นมุมส่วนตัวที่สุด ไวน์ราคาแพงที่สุด เซอร์วิสระดับเมเนเจอร์ ทำให้คนที่โรงแรมเข้าใจว่าน็อตจะมาเซอร์ไพร์สขอชมพู่แต่งงานในวันนั้น แต่จนแล้วจนรอดน็อตกับชมพู่ก็ไม่มา งานนี้ชมพู่ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งจองโต๊ะและบริการดังกล่าวแต่อย่างใดเพราะตนไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น วอนผู้ประกอบการตรวจสอบก่อน
“คือว่าอันนี้เป็นเรื่องที่มึนและก็งงมาก คือเมื่อวันที่ 15 หนึ่งวันหลังจากวันวาเลนไทน์ พอดีว่าชมเสร็จงานแล้วชมก็มีไปคุยงานต่อก็เสร็จประมาณ 3 ทุ่ม ก็ถามคุณน็อตว่าเจอกันหน่อยมั้ย พอดีคุณน็อตเขาไปงานแต่งงานเพื่อนที่โรงแรมเรเนซองส์ ชมก็เออ...แวะไปหาหน่อยแล้วกันแต่ชมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปงานแต่งเพราะวันนั้นก็ใส่ชุดธรรมดาที่คาดผมกล้วย ก็ไปเจอแกในงานเขาก็บอกว่าทานข้าวกันหน่อยมั้ย ก็เลยไปทานข้าวที่โรงแรมเดียวกันเป็นอาหารจีน เสร็จปุ๊บก็สั่งอาหารแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำเสร็จเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับพนักงานที่โรงแรม แล้วก็บอกว่าเนี่ยชมมีอะไรจะเล่าให้ฟัง”
“พนักงานเขาก็เล่าให้ฟังว่า วันที่ 13 ประมาณบ่าย 3 มีคนโทรมาเขาก็บอกชื่อคนที่โทรมา และก็บอกว่าจองโต๊ะให้คุณน็อตแล้วก็ชม เพราะชมกับคุณน็อตจะมาทานข้าวด้วยกันที่นี่ ขอเป็นมุมส่วนตัวแล้วก็ต้องการดอกกุหลาบขาว 40 ดอกให้ทางโรงแรมเตรียมให้ แล้วก็ให้เตรียมเมนูอาหารเป็นปลาเพราะว่าชมไม่ทานเนื้อ ทั้งที่จริงๆ ชมทานนะแล้วก็ขอเป็นเซอร์วิสแบบดีที่สุด แล้วก็ต้องมีพนักงานระดับเมเนเจอร์คอยเทคแคร์ตลอดเวลา แล้วชมก็ไม่พูดภาษาไทย ชมพูดแต่ภาษาอังกฤษ แล้วก็ให้เตรียมไวน์ขวดที่แพงที่สุดในร้าน คือแบบดูชมกับคุณน็อตเรื่องมาก แล้วทางโน้นเขาก็ไม่รู้จะเช็คยังไงมั้ง ชมก็คุยกับเขาว่า เฮ้ย...ทำไมคุณเชื่อเขาล่ะ เขาก็บอกว่าเขาเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ถ้าสมมติชมเฟิร์มจริง แล้วไม่ได้มีสิ่งที่เขาออร์เดอร์ไว้ เขาก็เสียชื่อ เขาก็มีสิทธิ์ถูกไล่ออก” “เราก็เข้าใจแต่คือวันที่ 14 ก็ไม่ได้มีชมกับคุณน็อตไป ก็เท่ากับว่าเขาจองค่าดอกไม้ไป 40 ดอกเกือบ 3 หมื่นบาท แล้วบังเอิญมากว่าวันที่ 15 หนึ่งวันหลังจากนั้นชมไปที่นั่น ทางนั้นเขาก็ตื่นเต้นมากนึกว่าพี่น็อตจะมาขอชมแต่งงานที่ร้าน ก็เลยเตรียมอะไรกันชุดใหญ่แต่ก็ไม่มา เขาก็บอกว่าเสียความรู้สึกที่เราออเดอร์ๆ ไว้แล้วก็ไม่มา เขาก็มาเล่าให้เราฟังเราก็บอกว่าไม่ใช่เราจริงๆ ข้อมูลทุกอย่างมันก็ผิด แล้วถ้าเราจะทานเราก็ไม่ต้องให้ใครจองให้ก็ได้มั้ง แล้วเราก็ไม่ได้เรื่องมากขนาดนั้น มันตลกอ่ะ”
“ซึ่งเขาก็เชื่อแหละเพราะว่าเราก็เหวอ แต่เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาก็แค่นอยด์ๆ ว่าเขาไปสั่งดอกไม้แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยกับชม แต่ตอนนี้ชมก็สงสัยว่าเขาโทรไปกี่โรงแรมอาจจะไม่ใช่ที่นี่ที่เดียวก็ได้ ก็อยากจะบอกว่า มันมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นถ้ามีใครที่โทรไปอาจจะไม่ใช่แค่กรณีของชมนะคะ แต่รวมไปถึงของคนอื่นที่มีการแอบอ้างก็ให้เช็คให้ดีแล้วกัน ก็ไม่ทราบเลยว่าทำไปเผื่อจุดประสงค์อะไรเพราะว่ามันตลกมาก ก็ฝากเตือนผู้ประกอบการแล้วกันว่าให้เช็คดีๆ อันนี้เราก็เข้าใจว่าเขาไม่ผิดแล้วเขาก็เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ก็โอเคว่าต้องมีแขกที่เป็นที่รู้จักแบบนี้ เขาก็ต้องแบบจัดเตรียมตัวให้ดีไม่งั้นเขาก็จะเสียชื่อได้”
ลั่นเรื่องแต่งานยังไม่คิดรอให้ฝ่ายชายบวชก่อนโดยแพลนไว้ว่าจะบวชภายในปีนี้
“เรื่องแต่งงานยัง เรายังไม่ได้คิดเรื่องนี้กันเลย อีกอย่างต้องรอให้เขาบวชก่อน ก็แพลนไว้ว่าจะบวชปีนี้ก็ยังไม่มีกำหนดการเลยค่ะ ความตั้งใจจะเป็นปีนี้แต่ถ้าเขายังเคลียร์งานไม่ได้ยังมีห่วงบวชไปก็ไม่มีประโยชน์ต้องให้จิตใจเขานิ่งจริงๆ”
ที่มา: manager.co.th
