Author Topic: ทวิตเตอร์ ลุย SME  (Read 848 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ทวิตเตอร์ ลุย SME
« on: February 20, 2012, 01:52:00 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ดิค คอสโตโล (Dick Costolo)

      ทวิตเตอร์ (Twitter) เครือข่ายสังคมชื่อดังประกาศแคมเปญบริการโฆษณาออนไลน์ครั้งใหม่หวังรุกเอสเอ็มอีหรือผู้ประกอบการรายย่อย ประเดิมจับมือกับบัตรเครดิตชื่อดัง "อเมริกันเอ็กซ์เพรส (American Express)" เพื่อเปิดทางให้เอสเอ็มอีทั่วโลกสามารถลงโฆษณาด้วยตัวเอง มั่นใจแคมเปญรุ่งเพราะเอสเอ็มอีสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่จมอยู่กับคนกลางหรือบริษัทประสานงานรายอื่นไปได้ คาดส่งให้ทวิตเตอร์มีกำไรมากกว่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีนี้
       
       ดิค คอสโตโล (Dick Costolo) ซีอีโอทวิตเตอร์ให้สัมภาษณ์ระหว่างการแถลงรายละเอียดแคมเปญโฆษณาออนไลน์ใหม่ล่าสุดของบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าจุดประสงค์ของการสร้างสรรค์แคมเปญนี้คือการขยายรากฐานความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว ไม่เกี่ยวข้องกับการเร่งเครื่องในวันที่คู่แข่งอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) กำลังจะเข้าตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการ
       
       ด้วยความร่วมมือกับอเมริกันเอ็กซ์เพรส ทวิตเตอร์จะเปิดให้ผู้ค้าหรือองค์กรขนาดเล็กซึ่งเป็นสมาชิกบัตร AmEx สามารถซื้อโฆษณากับทวิตเตอร์ได้อย่างง่ายดาย โดยโฆษณาจะไปปรากฏเป็นข้อความทวีตซึ่งทวิตเตอร์ให้ชื่อเรียกว่า promoted tweet ซึ่งจะถูกแสดงบนหน้ารับข่าวสารของผู้ใช้ทวิตเตอร์
       
       แคมเปญที่เกิดขึ้นถือเป็นก้าวใหม่ในการทดสอบบริการโฆษณาด้วยตัวเองหรือ self-service ad ของทวิตเตอร์ โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทวิตเตอร์เคยเปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการทดสอบระบบกับนักการตลาดมากกว่า 100 บริษัท ซึ่งจะเพิ่มจำนวนเป็นหลักหมื่นในไม่ช้า
       
       ความพิเศษของแคมเปญระหว่างทวิตเตอร์และอเมริกันเอ็กซ์เพรส ยังอยู่ที่การแถมเครดิตโฆษณาฟรี 100 เหรียญสหรัฐ (ราว 3,000 บาท) ให้กับ 1 หมื่นบริษัทแรกที่ลงทะเบียนสมัครเปิดบัญชีผู้ลงโฆษณาหรือ promoted account กับทวิตเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
       
       แคมเปญทั้งหมดแสดงว่าทวิตเตอร์ต้องการสาธิตระบบโฆษณาด้วยตัวเองให้บริษัทขนาดกลางและเล็กเห็นถึงความง่ายและประหยัดของแพลตฟอร์มโฆษณาดังกล่าว
       
       ความเคลื่อนไหวของทวิตเตอร์ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในวงการโฆษณาออนไลน์ที่ดุเดือดกว่าเดิม ที่ผ่านมา บริษัทออนไลน์รายใหญ่อย่างกูเกิล (Google) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ล้วนนำเสนอแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่เน้นความง่าย ประหยัด และเหมาะกับกลุ่มเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นสำนักข่าว Ad Age คาดว่าทวิตเตอร์สามารถครองใจลูกค้านักการตลาดมากกว่า 3,000 บริษัท ซึ่งเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นหากความร่วมมือกับอเมริกันเอ็กซ์เพรสนั้นเป็นไปได้ด้วยดี
       
       ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัยตลาดอีมาร์เก็ตเตอร์ (Emarketer) ชี้ว่ารายได้จากธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของทวิตเตอร์นั้นมีมูลค่าราว 139.5 ล้านเหรียญในปี 2011 คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 259.9 ล้านเหรียญในปี 2012 นี้
       
       อย่างไรก็ตาม รายได้ของทวิตเตอร์นั้นถือเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับ 3.65 หมื่นล้านเหรียญของกูเกิล หรือ 3.2 พันล้านเหรียญของเฟซบุ๊ก
       
       ข้อความโฆษณาของ 10,000 บริษัทแรกจากแคมเปญร่วมกับอเมริกันเอ็กซ์เพรสจะเริ่มปรากฏโฉมบนทวิตเตอร์ในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป โดยหากความร่วมมือเอ็กซ์คลูซีฟกับอเมริกันเอ็กซ์เพรสหมดเวลาลง แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเปิดให้ใช้งานได้ในวงกว้าง
       
       นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของทวิตเตอร์หลังจากการปรับหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการทั่วโลก โดยดีไซน์ใหม่จัดการแบ่งกลุ่มข้อความทวีตออกเป็นประเภทเพื่อให้ผู้ใช้ไม่พลาดทวีตข่าวสารข้อความสำคัญ พร้อมกับเพิ่มคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียบนข้อความทวีตตามที่ทวิตเตอร์เคยแถลงรายละเอียดไปอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
       
       ทวิตเตอร์นั้นเป็นบริการส่งข้อความสั้นเพื่อตะโกนบอกคนบนโลกออนไลน์ว่ากำลังทำอะไรหรือคิดอะไรในขณะนั้น ความเร็วในการสื่อสารจากคน 1 คนสู่คนหมู่มากทำให้ทวิตเตอร์ถูกนำไปใช้เป็นช่องทางรายงานข่าวสารยุคใหม่ ทั้งในมุมของสำนักข่าวทั่วโลกและบุคคลหรือกลุ่มสังคมที่มีชื่อเสียงทุกเพศทุกวัย รวมถึงนักการตลาดที่ต้องการประชาสัมพันธ์บริการของตัวเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยชาวออนไลน์สามารถสมัครรับข่าวสารจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่น และส่งต่อข่าวสารต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปได้แบบไม่รู้จบ
       
       Company Related Link :
       Twitter

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)