Author Topic: ฮือฮา “อ.ยิ่งศักดิ์” เปิดตัวเมียชาวสิงคโปร์ เผยสามีเป็นแบบนี้ตั้งแต่คบกัน ยอมรับได้  (Read 5119 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“อ.ยิ่งศักดิ์” เปิดตัวเมียชาวสิงคโปร์ ควงร่วมงานรับปริญญาลูกสาว เจ้าตัวเผยสามีเป็นแบบนี้ตั้งแต่คบกัน ซึ่งยอมรับได้ก็เลยไม่มีปัญหา แต่รับพอคนรู้ว่าเป็นเมีย อ.ยิ่งศักดิ์ ต่างก็ตกใจ ด้านอ.ยิ่งศักดิ์โต้ข่าวหย่ากันแล้ว ยันอยู่กินกันมา 26 ปี ขาเตียงยังแข็งแรง แต่ที่ไม่ได้พาไปไหนมาไหนเพราะภรรยาอยู่เชียงใหม่ และไม่ชอบออกสื่อ
      
       แต่งงานมีครอบครัวมานาน 26 ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีใครเห็น “อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” ควงศรีภรรยาออกงาน ยิ่งที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพลักษณ์ของอ.ยิ่งศักดิ์ที่แสดงออกมา คนส่วนใหญ่มองว่าตรงกันข้ามกับเพศตนเอง แม้จะแต่งงานและมีลูกแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ทำเอาฮือฮาไปตามๆ กันเพราะนับเป็นครั้งแรกที่อ.ยิ่งศักดิ์ควงภรรยาชาวสิงคโปร์ “เมย์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” มาร่วมแสดงความยินดีในงานรับปริญญาลูกสาวคนโต “น้องนานา มารีน่า” ที่วิทยาเทคโนโลยีสยาม ย่านจรัญสนิทวงศ์ งานนี้ยังมีลูกชายคนเล็ก “น้องเท็ดดี้ กวิน” และ “นางอุบล” คุณแม่ของอ.ยิ่งศักดิ์ ร่วมด้วย “เป็กกี้ ริสา หงส์หิรัญ” อดีตนางงามมาร่วมแสดงความยินดีอีกด้วย งานนี้อ.ยิ่งศักดิ์ก็เลยจัดเต็ม ทั้งเปิดตัวและเปิดใจถึงชีวิตครอบครัวที่หลายคนอยากรู้มานาน
      
       อ.ยิ่งศักดิ์ : “ก็มีความสุขดีครับ พวกเราแฮปปี้ดี นานทีจะได้อยู่ร่วมกัน 4 คนแบบนี้ เพราะต่างคนต่างทำมาหากิน ลูกก็เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน ส่วนเราก็อยู่แต่ในครัว”
      
       “ผมรู้สึกภูมิใจกับลูกทั้งสองคนมาก ก็จบปริญญาโททั้งคู่พร้อมกันในปีนี้ ลูกชายคนนี้หล่อมาก เรียนจบปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ สาขาการจัดการมาจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ส่วนอีกคนลูกสาวก็เรียนจบปริญญาโท ศึกษาศาสตร์ จากวิทยาลัยเทคโนสยาม และจะให้ลูกทั้งสองคนเรียนต่อปริญญาเอกเลยไหม เราก็ไม่ได้บังคับ แต่พูดอยู่เสมอว่าถ้าพ่อมีการศึกษาระดับนี้ ลูกที่ดีไม่ควรมีการศึกษาน้อยกว่าพ่อ เพราะไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าเราสองคนก็คงพึ่งลูกไม่ได้ คงตายอย่างโดดเดี่ยวแน่นอน ซึ่งน้องนานากับน้องเท็ดดี้ก็ได้สัญญากับผมว่าจะจบปริญญาเอกให้ได้ก่อนอายุ 30 ปีครับ (ยิ้ม)”
      
       เรียนจบปริญญาโทแล้วจะมาสานต่อธุรกิจครอบครัว
      
       นานา : “ตอนนี้มาดูแลโรงเรียน ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ หลายคนคงไม่รู้ว่าอ.ยิ่งศักดิ์เปิดโรงเรียนด้วย โรงเรียนที่เปิดเป็นโรงเรียนสอนทำขนมของแม่บ้านระยะสั้น 5-7 วัน แล้วก็มีเป็นหลักสูตรระยะยาวปวช.ค่ะ”
      
       เท็ดดี้ : “ตอนนี้มาดูเรื่องบัญชีและการเงิน รายรับรายจ่าย แต่ก็คงต้องฝึกๆ กันไปครับ ตอนนี้ประสบการณ์ยังน้อย ผมจบวิศวกรรมจะเกี่ยวกับธุรกิจไหม แต่เราประยุกต์เข้ามาใช้ด้วยกันได้ จริงๆ วิศวกรรมตอนที่ผมเรียนปริญญาตรีเป็นวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาอุตสาหการ ก็เป็นบริหารอยู่แล้ว และตอนเรียนปริญญาโทเป็นวิศวกรรมบริหาร มีบริหารด้วย มันไม่ใช่แค่วิศวกรรมอย่างเดียว เราสามารถปรับเข้ากับกิจการที่บ้านได้ครับ”
      
       อ.ยิ่งศักดิ์ : “แต่ถ้าถาม ผมไม่เคยรู้เรื่องเลย ลูกขอสตางค์ไปเป็นล้าน ไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ที่ออสเตรเลีย เข้าใจว่าเขาไปเรียนบริหารมาตลอด เขาไม่ได้บอก จบวิศวะสองใบแล้วจะทำมาหากินอะไรกับโรงเรียนเรา แต่เขาบอกเราว่าปรับได้ ก็นั่งดูอยู่ว่าเมื่อไหร่จะปรับ พ่อจะได้สบาย แก่ขนาดนี้แล้ว จะทำงานได้อีกกี่ปีมันก็ต้องรีบๆ ลูกก็เพิ่งจะโต แล้วก็เพิ่งจะลงมาทำงานแทนเรา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะได้สักแค่ไหน เราก็ต้องเป็นเพื่อนเขาอยู่”
      
       เมื่อถามถึงการพาภรรยามาเปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรก “อ.ยิ่งศักดิ์” ก็บอกเผยอย่างชื่นมื่นว่า…
      
       อ.ยิ่งศักดิ์ : “ปกติไม่ค่อยมีคนได้เห็นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา คุณคิดว่าอ.ยิ่งศักดิ์ไม่มีปัญญามีครอบครัวใช่ไหม ผมก็ขอบอกซะเลยว่า วันนี้มีครอบครัวเป็นของตัวเอง มีลูกมีภรรยาครบครับ ไม่ได้ยืมของใครใช้เลย แล้วก็ไม่ได้ใช้ของผิดประเภทด้วย ขอบอกไว้ก่อนตรงนี้”
      
       เมย์ ภรรยา: “การดูแลลูกคือช่วงเด็กๆ เราจะเป็นคนที่ดูแล แต่พอเขาโตแล้วก็ดูแลตัวเองได้ เราก็ต้องมีหน้าที่อื่น ตอนนี้เราดูแลโรงเรียนศิลปศาสตร์การอาหารอีกสาขาที่เชียงใหม่”
      
       ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหย่ากับภรรยาแล้วนั้น “อ.ยิ่งศักดิ์” ก็เคลียร์ชัดว่าไม่จริงสักนิดเดียว
      
       อ.ยิ่งศักดิ์ : “ขอบอกเลยนะครับว่าเราไม่ได้หย่ากัน แล้วก็ไม่ได้เลิกกันด้วย เราอยู่ด้วยกันมา 26 ปีแล้ว ครบถ้วนเหมือนเดิม โดยปกติแล้วคุณเมย์จะเป็นคนไม่ค่อยชอบออกทีวี เขาจะพูดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ค่อยมีอิสระ ไปไหนก็มีแต่คนมอง ลูกสองคนก็ไปหากินแล้ว อย่าเอาเขาเข้าไปยุ่งด้วยเลย เขาจะได้สบายๆ”
      
       “ขนาดลูกรับปริญญาที่ซิดนีย์ ผมยังต้องไปคนเดียวเลยเพราะว่าคุณเมย์มีคุณแม่อยู่ที่เชียงใหม่ อายุ 80 ปีแล้ว อีกอย่างก็เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว อย่างครั้งนี้ทิ้งมา 3 วันแล้ว เราก็ห่วงนะ แต่ก็จ้างพยาบาลมาดูแล และมันก็ไม่ใช่ใกล้ๆ เดินทางไปเดินทางมาทุกคน ทำทีวีอาทิตย์ละ 6 รายการ มันก็หายใจไม่ค่อยทันแล้วนะ แล้วที่โรงเรียนคุณเมย์ก็สอนเองด้วย เรามีพนักงานทั้งหมดแค่ 5-6 คนเท่านั้น เพราะฉะนั้นมันไม่มีวันหยุดเลย นี่ก็แพลนกันล่วงหน้าไว้เลย”
      
       เมย์ ภรรยา : “แต่เราก็คุยกันทุกวัน มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษากันตลอด ที่ไม่ชอบออกสื่อเพราะเราเป็นคนธรรมดา แล้วก็ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรเหมือนเขา เราก็พูดไม่เก่ง เป็นคนสิงคโปร์พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด บางทีเราก็ใช้ภาษาไทยไม่ค่อยถูก งั้นเราอยู่เบื้องหลังดีกว่า เพราะว่าอย่างไรการงานเราก็มีอยู่แล้ว และถ้าว่างก็ลงไปหาที่กรุงเทพ ถ้าเขาว่างก็จะขึ้นมาหาที่เชียงใหม่ค่ะ”
      
       ภาพลักษณ์ของ “อ.ยิ่งศักดิ์” ที่แสดงออกมาคนส่วนใหญ่มองว่าตรงกันข้ามกับเพศตนเอง แม้จะแต่งงานและมีลูกแล้ว ซึ่งกับเรื่องนี้ผู้เป็นภรรยาตอบยิ้มๆ ว่า…
      
       เมย์ ภรรยา: “เฉยๆ นะ ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ตอนที่คบกันแต่แรกเขาก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว (หัวเราะ) ไม่ใช่เพิ่งเป็นนะ แต่ก็จะมีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นสุภาพบุรุษ เข้าใจกันจึงไม่ได้รู้สึกแตกต่าง เมื่อยอมรับกันได้ ตรงนี้จึงไม่ใช่ปัญหา”
      
       เหตุที่ไม่ชอบออกสื่อ เพราะว่ากลัวถูกถามปัญหานี้หรือเปล่า?
      
       เมย์ ภรรยา : “ไม่ค่ะ เราไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้ว ถ้าแคร์เราก็อยู่ไม่ได้ แต่บางครั้งเวลาลูกศิษย์มาเรียน เราก็ไม่ได้บอกว่าเราเป็นใคร พอเขามารู้ว่าเราเป็นภรรยาของ อ.ยิ่งศักดิ์ก็ตกใจ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)