Author Topic: “ประวิทย์” ออกกฎ ผู้จัดค่ายไหน ไม่ปั้น คู่พระ-นางเอง ไม่ให้เปิดกล้อง  (Read 826 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ประวิทย์” เผยตอนนี้ช่อง 3 เปิดทางให้ผู้จัดหน้าใหม่ได้เข้ามาทำงานเพิ่มขึ้น เพราะเท่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ พร้อมสั่งกฏเหล็กหากผู้จัดคนไหนไม่มีคู่พระเอก-นางเอกมาเองจะไม่ให้เปิดกล้อง เหตุเพราะถ้าใช้ดาราส่วนกลางจะเกิดการแย่งคิวงานกัน พร้อมประกาศหานักเขียนบทเพิ่ม
       
       เปิดศักราชใหม่ก็รุกงานละครเต็มที่ สำหรับหัวเรือใหญ่แห่งวิก3 “ประวิทย์ มาลีนนท์” ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยว่าปีนี้ทางช่อง 3 ได้เปิดโอกาสให้ผู้จัดละครหน้าใหม่ๆ ได้เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น เพราะที่มีอยู่นั้นยังไม่เพียงพอส่งผลทำให้ละครออนแอร์ไม่ทัน และยังมีปัญหาแย่งคิวงานพระเอกนางเอกกันอีก จึงมีนโยบายใหม่สั่งให้ผู้จัดละครแต่ละเรื่องต้องมีคู่พระ-นางมาเอง ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เปิดกล้อง
       
       “โปรเจกต์เรื่องละครต้องมีผู้จัดแบ่งงานกันทำและแนะนำแนวใหม่ๆ ทุกปีก็จะมีโครงการออกมาเรื่อยๆ เราอยากมีละครแนวใหม่ๆ ผู้จัดเรามีผู้จัดใหม่ๆ เยอะแยะ หน่อย บุษกร กับ แอน ทองประสม ก็มาแล้ว ดาว พอฤทัย อีก แต่ว่าเขาต้องมีความพร้อมและเขาต้องไปคุยกับคุณสมรักษ์ว่าพร้อมหรือเปล่า มีทีมงานหรือเปล่า มีดาราหรือเปล่า ถ้ามาเป็นผู้จัดอย่างเดียวแล้วมาใช้ทีมกองกลาง แล้วมันจะแย่งกันอย่างเดียวไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาเลย และการที่เรามีผู้จัดหน้าใหม่ขึ้นมา ผู้จัดเก่าก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยนะ เพราะขนาดมีเยอะมันก็ยังทำไม่ทันเลยครับ”
       
       “ส่วนละครบางเรื่องที่ถูกดอง ก็คือมันเป็นละครที่ไม่ทันสมัย สร้างแล้วไม่ถูกใจเรา แล้วจะไปออนแอร์ทำไมแต่ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่บางเรื่องเราก็ไม่มั่นใจ คือตอนที่เราให้ทำมันอีกอย่าง ออกมาแล้วมันเป็นอีกอย่าง แต่ไม่จำเป็นว่าต้องทิ้งนะ รอโอกาส ถ้ามีโอกาสก็ออกอากาศได้ ถามว่าทำไมไม่เอาช่วงละครรีรันมาให้ละครที่ถูกดองออนแอร์ ก็คือว่าผมจะใช้ไว้สำรองตอนละครเรื่องไหนออนแอร์ไม่ทันก็ยังมาเสียบแทนได้อยู่ แต่เราไม่ทิ้งแน่ แต่เรามีไม่เยอะหรอกเพราะเรื่องนึงเป็น 10 ล้านบาท ใครอยากจะทิ้ง”
       
       “อย่างเรื่องหมูแดงของ เปี๊ยก พิศาล เหมือนจะไม่ดี แต่ปรากฏเรตติ้งสูง คือผมตั้งใจให้เป็นละครเย็นอยู่แล้ว จริงๆ ช่วงเวลาเย็นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญกว่าหลังข่าว เป้าหมายของเราเป็นละครเย็น แต่พวกเราไปตีกันเอาเองว่าหลังข่าวเป็นเฟส1 ก่อนข่าวเป็นเฟส2 ซึ่งมันไม่จริง ช่วงเย็นคนดูมากกว่า มันเป็นการต่อเนื่องด้านละครมากกว่า อีกหน่อยถ้าเรามีดาราพอ มันจะกลืนกันหมดครับ ความหวังเราอยู่ที่ช่วงเย็นมากกว่าหลังข่าวมาตั้งแต่เริ่มแล้วครับ ละครเย็นดีมากๆ คนดูกันเบาๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก หลังข่าวมันดึก ละครหนักด้วย”
       
       สั่งกำชับละครไม่จำเป็นต้องมีฉากเลิฟซีน รวมไปถึงการใช้ความรุนแรง ทั้งวาจาและการกระทำ บอกเป็นความตั้งใจของตัวเองไม่ใช่เพราะทำตามกระแส
       
       “อย่างกระแสของช่อง3 มีฉากเลิฟซีนเยอะก็จากปีที่แล้วเราตั้งใจจะให้ลดลง คุณสมรักษ์ก็พยายามอยู่เพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องขาย ความเห็นส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องขาย ไม่ใช่เพราะกระแสวิจารณ์ แต่เป็นความตั้งใจ เราตั้งใจลดความรุนแรงทั้งภาษาด้วย เลิฟซีนเราไม่ส่งเสริม ส่วนปีนี้นโยบายละครเราคือสร้างแนวทางใหม่ๆ บอกตรงๆ เลย ช่องเราอยากเป็นแบบดิสนีย์ อยากเป็นสถานะครอบครัว พอพร้อมแล้วก็อยากเป็นเหมือนช่องดิสนีย์ดูได้ทั้งครอบครัว ตอนนี้เราก็มีครอบครัวเด็ก บีอีซีเทโรเขาก็ไปสร้างเป็นครอบครัวข่าวเด็ก แต่เราต้องทำค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”
       
       บอกกำลังขาดแคลนนักประพันธ์ อีกทั้งเล็งปั้นพระเอก นางเอกใหม่ ให้ได้มากที่สุด
       
       “เราไม่ได้เตรียมคนทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง และคนที่เขียนบทประพันธ์ ตอนนี้ขาด เราพยายามหาแนวอื่นๆบ้างเพราะมันขายได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ เราอยากให้ผู้จัดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ออกมา ไม่ทำร้ายคนดู แต่มันต้องใช้เวลา บทประพันธ์ก็ไม่มี ต้องเชิญชวนคนใหม่ๆ เข้ามา”
       
       “พระ-นางช่อง3 เองก็เยอะ แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาท เมื่อก่อนมีครอบครัวไม่ได้เลยนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหา เราไม่ห้ามว่าใครเป็นพระเอกนางเอกแล้วไปแต่งงานจะเป็นพระเอกนางเอกอีกไม่ได้ มันไม่จำเป็นครับเดี๋ยวนี้คนดูรับได้แล้ว เราไม่เคยไปห้ามอยู่แล้ว แต่ก็แล้วแต่บท ไม่จำเป็นต้องลดบทลง ส่วนพระเอกก็อาจจะเด็กลงแต่ไม่มาก เด็กมากไม่ได้เพราะบางทีต้องเป็นพระเอกมาดนักธุรกิจ ส่วนผู้หญิงก็ยังสามารถทำให้ดูโตขึ้นได้ ผู้ชายโตไม่ได้นะ”
       
       “ส่วนที่ลูกครึ่งเยอะมันเป็นความบังเอิญ ส่วนพระ-นางก็อยากได้รุ่นใหม่เท่าที่จะเยอะได้ เราก็บอกคุณสมรักษ์ หรือผู้จัดต้องมีพระ-นางปีละคู่ให้ได้ ไม่ได้กดดันนะ แต่ถ้าไม่มีพระ-นางมา เปิดกล้องไม่ได้ เพราะถ้ามาใช้กองกลางมันต่อคิวนาน ผมพุดทุกปีนะว่าใครไม่มีดาราตัวเองเปิดกล้องยาก แต่เราไม่ได้เจาะจงว่าค่ายไหนนะ ใครไม่มีดาราเป็นของตัวเอง ต้องรอคิวไป หรือไม่ก็ต้องรอเด็กที่ว่างให้เอาไปใช้ ซึ่งก็ไม่ใช้คนที่เขาต้องการ”
       
       “ต่อไปนี้อยากให้ดาราคนใดคนนึงเทคิวให้เสร็จ เสร็จแล้วไปต่อเรื่องอื่น เล่นให้เรื่องเดียวไปเลย แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักปีนึงกว่าจะเป็นระบบ เราไม่ชำนาญที่จะถ่ายไปออนแอร์ไป เพราะงานมันประณีตอยู่ เราควบคุมคุณภาพได้ ดาราไม่ล้นหรอกเพราะละครทำไม่ทันจริงๆ ครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)