Author Topic: ไมโครซอฟท์ ทุ่ม 100 ล้านบาท ลุยตลาดคอนซูเมอร์  (Read 2300 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ไมโครซอฟท์ เปิดแคมเปญ 'Microsoft, Greath Time Together' หวังลุยตลาดคอนซูเมอร์ เบื้องต้นใช้งบ 30 ล้านบาททำโฆษณาโทรทัศน์ ส่วนทั้งปีวางงบทำตลาดกว่า 100 ล้านบาท พร้อมดึง ซิงกูล่า ช่วยโปรโมทแคมเปญ ในกลุ่มผลิตภัฑณ์ วินโดวส์ 7 และ ออฟฟิศ 2010
       
       นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แคมเปญดังกล่าวถือเป็นโกลบอลล์ แคมเปญ ที่จัดขึ้นกว่า 35 ประเทศทั่วโลก เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในกลุ่มคอนซูเมอร์ ให้หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ และเข้าถึงการใช้งานที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น
       
       "ในช่วงไตรมาสแรก เราใช้งบกว่า 30 ล้านบาท เฉพาะโฆษณาบนโทรทัศน์ ยังไม่รวมกับช่องทางการสื่อสารอื่นๆแบบ 360 องศา และสื่อใหม่อย่างโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วย ทำให้คาดว่าทั้งปีนี้ อาจใช้งบกับแคมเปญนี้ราว 100 ล้านบาท"
       
       โดยปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ระหว่างลูกค้าในกลุ่มลูกค้าองค์กรของไมโครซอฟท์ อยู่ประมาณ 60% ส่วนอีก 40% จะอยู่ในกลุ่ม SOHO และคอนซูเมอร์ ซึ่งจากแคมเปญดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมากลายเป็น 50% ได้ในอนาคต
       
       นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้วง Singular มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อสื่อสารให้แคมเปญเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเพลงธีมของแคมเปญ “Second Chance” เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์อย่างวินโดวส์ 7 และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2010 มากขึ้น
       
       "จุดประสงค์หลักของแคมเปญนี้ คือต้องการสื่อไปยังกลุ่มผู้บริโภคราว 5 - 6 ล้านคน ที่อาจยังไม่เข้าใจความสามารถของวินโดวส์ 7 และ ออฟฟิศ 2010 ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน ร่วมกับการทำงาน เพราะในอนาคต เมื่อเกิดการคอนซูเมอไรเซชัน ไอที จะทำให้ลูกค้าที่ในกลุ่มคอนซูเมอร์ และองค์กร กลายเป็นกลุ่มเดียวกันในที่สุด"
       
       ขณะเดียวกัน ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธ์มากขึ้น จากความสามารถของผลิตภัณฑ์ที่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อใช้งานในระบบคลาวด์ ซึ่งในจุดนี้ซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธ์จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)