Author Topic: มือถือพลิกเกมรุกสุดฮอต เจาะตลาดสมาร์ททัชโฟน  (Read 997 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline IT

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1175
  • Karma: +6/-0
  • Gender: Male
  • Assist. I.T. Manager
    • mv




       - เกาะกระแส "สมาร์ททัชโฟน" เวทีสุดร้อนแรงมือถือประชันเกมการตลาด
       - แอลจี ซัมซุง โนเกีย เอชทีซี ไอโฟน ช่วงชิงผู้บริโภครุ่นใหม่กันสุดฤทธิ์
       - เชื่อหรือไม่ปี 2553 ตลาดนี้จะเติบโตอีกหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
       - ค่ายมือถือไหนแน่กว่ากันต้องจับตา เพราะผู้นำตลาดยังเปลี่ยนมือได้ทุกเมื่อ
       
       หากจะพูดว่า "สมาร์ททัชโฟน" คือโทรศัพท์มือถือที่ร้อนแรงที่สุดในตลาดขณะนี้คงจะไม่เกินเลยความเป็นจริงนัก เนื่องจากปรากฏการณ์การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของค่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำ ต่างพาเหรดมือถือรุ่นใหม่เข้ามาประชันโฉมกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร และพยายามที่จะขายจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ยอมรับในผลิตภัณฑ์ของค่ายมือถือตนเอง
       
       หากเจาะตลาดสมาร์ทโฟนของแต่ละค่ายจะเห็นได้ชัดว่าทุกค่ายมือถือวางตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่เป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างฐาน เพื่อที่จะได้ต่อยอดตลาดสมาร์ททัชโฟนในปีนี้ที่คาดหมายว่าจะเป็นตลาดที่มีการเติบโตอีกหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
       
       "เราเล็งว่าปีหน้าตลาดสมาร์ทโฟนจะมีการเติบโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จากปัจจัยบวกในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการ 3จี การที่ราคาสมาร์ทโฟนลดลง ทำให้ค่ายมือถือให้ความสำคัญกับตลาดนี้ค่อนข้างมาก"
       
       เป็นคำกล่าวของ สมศักดิ์ อธิศัยตระกูล ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด และว่า แอลจีได้มีการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้บริโภคไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างโทรศัพท์มือถือในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆ และกลุ่มทัชโฟนระดับพรีเมียมออกจากกันอย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้บริโภคที่ต้องการใช้โทรศัพท์ประเภทนี้จึงหลากหลายและกว้างขึ้น
       
       ปัจจัยที่เกิดขึ้นดังกล่าว แอลจีได้มีการวางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดและสร้างตลาดในกลุ่มนี้ โดยเริ่มจากการทำตลาดในกลุ่มแมสก่อน จากนั้นจึงจะขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่มีประสบการณ์ในการใช้สมาร์ทโฟนแล้ว
       
       "แอลจี จีเอ็ม730 จึงถูกวางเป็นหัวหอกในการเปิดตลาดนี้ให้กับแอลจี เป็นสมาร์ททัชโฟนที่วางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ผู้ที่ต้องการใช้ทัชโฟนซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งด้านมัลติมีเดียและฟังก์ชั่นต่างๆ ของสมาร์ทโฟน อาทิ การใช้งานด้านอีเมล การเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับคอมพิวเตอร์ จากการที่มือถือรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ "วินโดวส์โมบาย"
       
       ทั้งนี้ แอลจีมีการวางยุทธศาสตร์การรุกตลาดสมาร์ทโฟนทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย โดยแอลจีได้จับมือเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์เพื่อร่วมกันพัฒนาสมาร์ทโฟนให้สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ในทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีแผนที่จะขยายไลน์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมบายสู่ตลาดทั่วโลกกว่า 50 รุ่น
       
       จุดเด่นของแอลจี จีเอ็ม730 มาภายใต้คอนเซ็ปต์ "อีซี่ สมาร์ทโฟน" ที่ง่ายต่อการใช้งานกว่าสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ในท้องตลาด โดยทุกฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายนี้เป็นผลมาจากเทคโนโลยี S Class User Interface รองรับฟังก์ชั่นการทำงานทั้งในเชิงธุรกิจและด้านมัลติมีเดีย ที่สำคัญยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ลบภาพลักษณ์เดิมๆ ของสมาร์ทโฟนที่วางขายอยู่ในตลาด ด้วยความบางเพียง 11.9 มิลลิเมตร ในราคาเพียง 13,900 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ทำให้กลุ่มผู้ใช้งานขยายกว้างมากขึ้นตั้งแต่ระดับนักศึกษาจนถึงกลุ่มวัยทำงาน
       
       "เราเชื่อว่าแอลจี จีเอ็ม730 นี้จะช่วยสร้างตลาดสมาร์ทโฟนให้กับแอลจีได้เป็นอย่างดี โดยเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายในส่วนสมาร์ทโฟนได้ถึง 15,000 เครื่อง หรือคิดเป็น 15% ของตลาดรวมสมาร์ทโฟนในประเทศไทย" สมศักดิ์ กล่าว
       
       ซัมซุงสร้างนิยามใหม่
       ตลาดสมาร์ททัชโฟน
       
       ซัมซุงถือเป็นอีกหนึ่งค่ายมือถือเกาหลีที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดสมาร์ทโฟนอย่างมาก ด้วยการเปิดตัวออมเนียแฟมิลี่พร้อมกัน 4 รุ่น โดยซัมซุงต้องการที่จะสร้างนิยามใหม่ๆ ให้กับตลาดสมาร์ททัชโฟนของเมืองไทย ซึ่งแนวทางการทำตลาดโทรศัพท์มือถือของซัมซุงจะเห็นได้ชัดว่ามีการเปิดตัวมือถือที่เป็นทัชโฟนกว่า 20 รุ่นในปีนี้
       
       ในการเปิดตัวล่าสุดของซัมซุง ได้มีการเปิดตัวสมาร์ททัชโฟนแห่งปี "ซัมซุง ออมเนีย II" ต่อจากซัมซุง ออมเนีย ที่สร้างปรากฏการณ์สมาร์ททัชโฟนไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ด้วยยอดขายกว่า 25,000 เครื่องในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีการเปิดตัว ออมเนีย คิว, ออมเนีย ไลต์ และออมเนีย โปร ให้ผู้บริโภคเข้าถึงประสบการณ์ในทุกกลุ่มตลาดด้วย
       
       ทางซัมซุงมองว่าภาพรวมตลาดทัชโฟน 7 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา โตกว่า 700% หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 700,000 เครื่อง ขณะที่ทัชโฟนของซัมซุงมียอดขายกว่า 130,000 เครื่อง หรือมีมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 1,000% จากยอดขายทัชโฟน 12,000 เครื่องในปีที่แล้ว
       
       ทั้งนี้ หลังจากซัมซุงเปิดตัวสมาร์ททัชโฟน ซัมซุง ออมเนีย II และออมเนีย แฟมิลี่ ซัมซุงตั้งเป้ายอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 50,000 เครื่อง ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายรวมทัชโฟนซัมซุงในสิ้นปีรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ทำให้ซัมซุงครองแชมป์ผู้นำตลาดทัชโฟนสิ้นปีด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 55%
       
       มนาเทศ อันนวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จุดเด่นของซัมซุง ออมเนีย II คือประสบการณ์สูงสุดด้านมัลติมีเดีย สะดวกในการใช้งานระบบสัมผัสยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 3.7 นิ้วแบบ AMOLED การตอบสนองรวดเร็วกว่าหน้าจอทีเอฟที แอลซีดีทั่วไปถึง 1,000 เท่า ระบบสัมผัสเทคโนโลยี TouchWiz 2.0 ได้รับการพัฒนาขั้นสูงทั้งไอคอนหน้าจอได้รับการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เลือกเข้าเมนูได้สะดวกและตื่นเต้น ด้วย Cube UI อินเตอร์เฟซดีไซน์ 3 มิติ และฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย
       
       นอกจากนี้ สมาร์ทโฟน ออมเนีย II ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมบาย 6.1 โปรเฟสชันนอล ที่รองรับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่น 6.5 ได้ทันที มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือที่จะแปรสภาพให้หน้าจอเล็กๆ ในมือเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่คุ้นเคย รองรับการเชื่อมต่อที่ใดก็ได้
       
       สำหรับในไลน์อัพ "ออมเนีย แฟมิลี่" ได้แก่ "ออมเนีย โปร" สมาร์ททัชโฟนแบบสไลด์พร้อมคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มีคุณสมบัติพิเศษแยกโหมด "Work" และโหมด "Life" ออกจากกัน "ออมเนีย คิว" สมาร์ทโฟน พร้อมคีย์บอร์ดแบบ QWERTY สำหรับคนรุ่นใหม่ให้สื่อสารเร็วทุกข้อความ รองรับการรับส่ง Instant Messaging ให้แชตได้ทุกที่ทุกเวลา และ "ออมเนีย ไลต์" สมาร์ททัชโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ใช้งานมัลติมีเดีย อินเทอร์เน็ต และอินเตอร์เฟซตอบรับไลฟ์สไตล์
       
       ซัมซุงยังเอาใจผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะด้วยพรีเมียมแมสทัชโฟน ล่าสุด "ซัมซุง แคนดี้" ที่เน้นการใช้สีสันที่หลากหลายไม่ซ้ำใครกว่า 3 สี ได้แก่ เหลือง ส้ม ชมพู พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่รองรับการใช้ชีวิตออนไลน์กับคอมมูนิตี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ ด้วยราคาไม่ถึง 6 พันบาท
       
       โนเกียเน้นมิวสิก
       เจาะตลาดทัชโฟน
       
       ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่างโนเกีย มีการเปิดตัวทัชโฟนรุ่นใหม่โนเกีย 5530 XpressMusic เข้ามาเสริมช่วยโนเกีย 5800 ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปี โดยเป็นมือถือระบบสัมผัสขนาดกะทัดรัดที่ให้การเชื่อมต่อรวดเร็ว มีจุดเด่นที่ Contact Bar มีปุ่มลัดสัมผัสเดียวเข้าสู่เนื้อหาและเครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊กและมายสเปซ โดยโนเกียวางราคามือถือรุ่นนี้ไว้ที่ 9,250 บาท
       
       เห็นได้ชัดว่าโนเกียพยายามที่จะพัฒนาออกมาแข่งขันกับค่ายมือถือรายอื่นๆ ที่ทำตลาดทัชโฟน อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบฟีเจอร์ฟังก์ชั่นและราคาของโนเกียกับค่ายคู่แข่งขันเกาหลีแล้วถือว่าเสียเปรียบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคาดหวังการใช้งานของผู้บริโภควันนี้เปลี่ยนแปลงไป และต้องการอะไรที่มากยิ่งขึ้นจากการใช้งานทัชโฟนที่ต้องการตอบสนองความต้องการใช้งานในทุกๆ ด้าน ไม่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
       
       โนเกียยังได้เปิดตัวโนเกียที่เป็นทัชโฟนอีก 2 รุ่นในต่างประเทศ ได้แก่ โนเกีย 5520 ที่จะมีราคาถูกกว่า 5530 ที่เปิดตัวในประเทศไทยแล้ว และโนเกีย 5800 ที่มีการใส่ฟังก์ชั่นเนวิเกเตอร์เข้ามา จึงต้องจับตาดูว่าทั้งสองรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับจากตลาดมากน้อยเพียงไร ขณะที่คู่แข่งขันรายอื่นๆ ในตลาด พาเหรดสินค้าในตลาดเดียวกันออกสู่ตลาดอย่างมากมาย
       
       ไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ
       กระแสที่ยังได้รับความนิยม
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการทำตลาด "ไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ" นั้น แม้ว่าจะมีปัญหาในช่วงการส่งมอบสินค้านี้ให้กับลูกค้าที่สั่งจอง แต่ทรูมูฟก็แก้ไขปัญหาจนปัจจุบันผู้ที่สนใจสามารถที่จะซื้อไอโฟนรุ่นใหม่นี้ได้ทันทีที่ร้านจำหน่าย
       
       ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหาร ด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากตลาด มียอดจองพุ่งสูงกว่า 10,000 เครื่อง ซึ่งมากกว่าการจองเครื่องไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า
       
       นอกจากนี้ทางทรูมูฟยังได้มีการทำตลาด ไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ รุ่น 8 กิกะไบต์ ในราคาพิเศษเครื่องละ 19,900 บาท พร้อมเลือกแพกเกจสำหรับทรูมูฟ ไอโฟน 3จีเอส ไวไฟ แพกเกจใดก็ได้ และข้อเสนอผ่อน 0% นาน 10 เดือนจากบัตรเครดิตของธนาคารที่ร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย หรือราคาเครื่องละ 20,900 บาท เมื่อซื้อเครื่องเปล่า
       
       HTC Hero
       ฮีโร่ตัวจริง
       
       เอชทีซี ได้มีการเปิดตัว "เอชทีซี ฮีโร่" แอนดรอยด์โฟนตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับยูสเซอร์อินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ "เอชทีซี เซนส์" ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซใหม่ที่มีในโปรดักส์ไลน์ของเอชทีซี อินเตอร์เฟซใหม่นี้ทำให้ Hero เป็นมือถือที่ผสานรวมเอารูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างเป็นเอกลักษณ์และเป็นแอนดรอยด์โฟนเหนือระดับ
       
       การมาของเอชทีซี ฮีโร่นี้จึงน่าจะทำให้เอชทีซีมีทางเลือกใหม่สู่ตลาดสมาร์ททัชโฟน และน่าที่จะเป็นจุดดึงดูดสำคัญให้กับค่ายมือถือแห่งนี้เจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
       
       เอชทีซี ฮีโร่ มุ่งเน้นการสร้างดีไซน์ที่มีความแตกต่างและหลากหลาย มีรูปทรงบางกะทัดรัดและโค้งเป็นมุมด้านล่างในองศาที่ลงตัว ทำให้มีแนวรับที่กระชับมือ และใบหน้าคุณ ทำให้คุยโทรศัพท์ได้สะดวกสบายและชัดเจนขึ้น มีการเคลือบสารหน้าจอกันรอยนิ้วมือด้วย หน้าจอเอชวีจีเอ ขนาด 3.2 นิ้ว เอชทีซี ฮีโร่ทำให้การแสดงหน้าเว็บได้ดีที่สุด แสดงมัลติมีเดีย และคอนเทนต์อื่นๆ รวมทั้งมีฟีเจอร์ต่างๆ ประกอบด้วย จีพีเอส เข็มทิศดิจิตอล จีเซ็นเซอร์ หูฟังสเตอริโอ 3.5 มม. กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล และหน่วยความจำเสริมไมโครเอสดี นอกจากนี้แล้ว เอชทีซี ฮีโร่ ยังมีปุ่มค้นหา ที่ให้มากกว่าการค้นหาปรกติ



ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)