แรกจับประทับใจกับ Motorola RAZR

[Nick]

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=ezuWMqTxjGI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ezuWMqTxjGI</a>

      ไหนๆก็เป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการและพร้อมวางจำหน่าย Motorola RAZR ในประเทศไทย ทีมงานไซเบอร์บิสก็ไม่รอช้า หยิบตัวตัวเครื่องมาแกะกล่องเป็นน้ำจิ้มให้ได้รับชมกัน ส่วนรีวิวเต็มๆ ติดตามได้ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
       
       ด้วยความรู้สึกที่หลงรักโมโตโรล่า มาตั้งแต่สมัย RAZR V3 ไล่มาจนถึง RAZR V8 กับวัสดุที่เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใครในสมัยนั้น มาวันนี้เมื่อโมโตโรลา หยิบซับแบรนด์อย่าง RAZR กลับมาใช้อีกครั้งกับโปรดักส์ที่คาดว่าจะเป็นแฟลกชิปต่อไปในอนาคตตัวนี้คงไม่ทำให้ผิดหวัง
       
       สิ่งที่รู้สึกได้จากสัมผัสแรกเลยคือความบางของตัวเครื่อง (7.1 มม.) กับวัสดุที่ยังคงทนแข็งแรงเหมือนเดิม งานประกอบทำออกมาได้เนียนสมกับเป็นแบรนด์มืออาชีพ ในส่วนของหลังเครื่องก็มีการนำ Kevla มาใช้เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับตัวสินค้า
       
       อีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้คือความคมชัดของหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด qHD ซึ่งเป็นจอแบบ Super AMOLED ทำให้สีทีไ่ด้ค่อนข้างสดใส เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาก็จะพบกับหน้าจอล็อกสกรีนแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ RAZR คือผู้ใช้สามารถเลือกที่จะปลดล็อก ปิดเสียง เรียกใช้งานกล้องได้ทันทีจากหน้านี้
       
       ความเร็วในการรับสัมผัสจากอินเตอร์เฟสของ RAZR กลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ เพราะถ้าเทียบกับเครื่องในระดับราคาเดียวกันแล้ว เชื่อว่าความลื่นไหลบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.5 ใน RAZR ดูแล้วลื่นมากที่สุด แต่ทั้งนี้คงต้องรอวัดกันอีกครั้งเมื่อ 4.0 เริ่มทยอยให้หลายๆแบรนด์อัปเกรด

       เลือกรับชมเป็นไฟล์ความละเอียดสูง 1080p ได้ที่มุมขวาล่าง
       
       จุดที่ยังคงต้องเหลือเป็นการบ้านไปทดสอบสำหรับทีมงานคงหนีไม่พ้นระบบ Smart Actions ที่ทางโมโตฯเคลมว่าจะช่วยลดอัตราการใช้แบตเตอรีได้ถึง 30% รวมกับระบบคลาวด์คอมพิวติงที่ใช้ในการโหลดเพลงลงเครื่องในชื่อ 'MotoCast' และกล้องที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ถึง 1080p ยังไงรอติดตามกันได้ครับ
       
       สำหรับราคาเปิดตัวของ Motorola RAZR อยู่ที่ 18,900 บาท ทำให้ออกมาชนกับเครื่องที่อยู่ในตลาดอย่าง Samsung Galaxy S2 และ HTC Sensation XE ดังนั้น การมาครั้งนี้ของโมโตฯ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกลุ่มไฮเอนด์แอนดรอยด์โฟนนั้น จะร้อนระอุแค่ไหนคงต้องกับตาดูกันต่อไป

ที่มา: manager.co.th