Author Topic: “ณัฏฐ์” ใจชื้นคู่กรณีอาการดีวันดีคืน ผวาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุยังไม่กล้าขับรถเอง  (Read 809 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“ณัฏฐ์” ใจชื้นคู่กรณีอาการดีวันดีคืน อีก 2 อาทิตย์หมอให้กลับบ้านได้ ยินดีรับผิดชอบจนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนคดีให้ตำรวจจัดการเต็มที่ พร้อมเผยยังผวาไม่หายจนไม่กล้าขับรถเอง ส่วนเรื่องความรักกับ “น้อยหน่า” ไปได้สวย ตั้งแต่มีแฟนมาคนนี้ใช่ที่สุดแล้ว
       
       หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขับรถเบนซ์ชนรถจักรยานยนตร์ของนาย "อภิวัฒน์ ควรหา" อายุ 34 ปี ที่จ.ระยอง เป็นเหตุให้นายอภิวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดหนุ่ม "ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" ได้เผยถึงอาการล่าสุดอย่างใจชื้นขึ้นว่า ตอนนี้คู่กรณีดีขึ้นมาก ยืนยันจะรับผิดชอบจนกว่าจะหายเป็นปกติ
       
       "ตอนนี้ก็ให้ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการครับ เราก็มุ่งเน้นไปที่การเยียวยาคนเจ็บมากกว่า ก็ดีขึ้นมากแล้ว ผมได้โอกาสไปเยี่ยมพี่เขาแล้วพี่เขาก็อาการดีขึ้นมากเลยครับ ใจชื่นขึ้นเลย เพราะว่าย้ายจากโรงพยาบาลระยองไปโรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง เป็นโรงพยาบาลเอกชน ก็เป็นเครือของโรงพยาบาลกรุงเทพ หมอเขาเก่งมาก ให้การดูแลเต็มที่ แล้วก็ให้คุณหมอที่เป็นมือหนึ่งของโรงพยาบาลเลย มาตรฐานเขาเทียบเท่าที่กรุงเทพ หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว อีกประมาณ 2 อาทิตย์ก็กลับบ้านได้ แล้วล่าสุดที่ผมไปเยี่ยมพี่เขาก็เดินเองได้แล้ว เริ่มทานอาหารเองได้แล้ว"
       
       “ก็คุยกับพี่เขาครับ วันที่ไปเจอวันแรกผมก็หน้าเสียนิดนึง ตอนแรกที่เห็นตอนเกิดเหตุคือใจแป้วเลย กลัวว่าเขาจะเจ็บหนัก ไม่รู้ว่าพี่เขาจะโกรธเราหรือเปล่า แต่พอเราเข้าไปเขาเห็นว่าเราหน้าเสีย เขาก็เอามือข้างที่ไม่เจ็บมาบีมมือเรา พี่เขาน่ารักมาก บอกเราว่าไม่เป็นไรนะ เข้าใจ เขาก็รู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เขาเจ็บ แล้วก็ได้ไปเจอคุณพ่อพี่เขาได้มีโอกาสกราบขอโทษเขา คือผิดไม่ผิดผมไม่รู้นะครับ แต่ที่รู้คือผมทำให้เขาเจ็บ ผมต้องขอโทษคุณพ่อคุณแม่เขา แล้วพอเราได้ทำสิ่งที่เราควรทำแล้วเราก็รู้สึกสบายใจ แล้วพี่เขาก็หายวันหายคืนเราก็ยิ่งดีใจครับ"
       
       "เรื่องค่าใช้จ่ายค่าเสียหายก็ประกันเป็นผู้แลทั้งหมดครับ แล้วเราก็มีเยียวยาเพิ่มเติมให้ทางคุณพ่อพี่เขาด้วย อันนั้นถือเป็นเรื่องที่เราต้องทำ ส่วนเรื่องของประกันเขาก็น่ารักมากดูแลในเรื่องของค่าประกันทั้งหมด ทั้งฝ่ายเราแล้วก็ฝ่ายเขา ตอนแรกที่บอกที่บ้านผมเขาก็ตกใจกันมาก แต่ก็บอกไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว ผมยังทำงานได้แต่สิ่งที่ผมห่วงที่สุดคือพี่อภิวัฒน์ แล้วก็เราอยากเขาหายเร็วที่สุด”
       
       “เขาก็บอกว่าอยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาเป็นคนชอบทำงาน เขาเบื่อที่จะต้องมานอนที่โรงพยาบาล แต่อาการที่ต้องอัพเดทใหม่คือพี่เขาไม่ได้มีซี่โครงหักนะครับ ไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น ที่หมอผ่าช่องท้องคือมีลำไส้ฉีกนิดนึง หมอก็เลยต้องผ่าแล้วก็เย็บให้ เป็นแผลไม่ยาวเท่าไหร่ ส่วนปากก็เป็นคุณหมอศัลยกรรมเย็บให้ปกติมาก ก็คือตอนนี้หน้าเขาเหมือนเดิมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย มีแค่รอยเย็บ ผมห่วงที่สุดคือสมอง แต่ตรวจเช็คแล้วสมองไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่ได้มีการกระทบกระเทือน ก็ข่าวที่เขียนตอนแรกว่าพี่เขาทะลุเข้ามาในรถก็เขียนเกินจริงนะครับ พี่เขาไม่ได้ทะลุเข้ามาในรถครับ เป็นแค่อาจจะไปกระแทกตรงกระจกนิดหน่อย ทำให้เกิดบาดแผล แต่คุณหมอเย็บให้เรียบร้อยไม่ได้มีอะไร"
       
       ย้ำไม่คิดชนแล้วชิ่ง ลั่นดูแลอย่างดีไม่ทอดทิ้ง แต่ยังผวาเล็กน้อยตอนนี้ให้ที่บ้านขับรถให้
       
       “หลังจากเกิดเรื่องผมยังไม่ขับรถเลยครับ ให้คนที่บ้านขับให้ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้ผมทำงาน 7 วัน เราก็เหนื่อยครับ น้ำหนักลงเหนื่อยจริงๆ แต่เราก็มีความสุขในการทำงาน คงสักพักนึงแล้วกันที่จะไม่ขับรถ ไม่ใช่ว่ากลัวหรือผวาจากอุบัติเหตุอะไรครับ แต่จริงๆ ก็ยังเห็นภาพอยู่นิดนึง ถือซะว่าเป็นช่วงที่ดีที่เราพอจะได้พักบ้างแล้วกัน เพราะปกติก็ขับรถเองตลอด ตอนนี้หลังจากเกิดเรื่องก็ให้ที่บ้านดูแล ปกติเขาก็จะเป็นห่วงอยู่แล้วนี่ก็ให้ดูเต็มที่เลย”
       
       “เหตุการณ์นี้สอนผมในเรื่องของการมีสติ ถึงแม้ว่าเราเป็นไม่ประมาณอยู่แล้ว ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่ขาดฝันขึ้นได้ ผมว่าถ้าเรามีสติในเหตุการณ์แบบนี้ เราจะทำอะไรได้ถูก คือตอนนั้นผมโชคดีที่ลงมารีบดูคนเจ็บแล้วก็ส่งโรงพยาบาล ไปที่สถานีตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอนหมดเลย ไม่ได้คิดจะหนีไปไหน เพราะก็บอกครอบครัวเขา บอกพี่เขาว่าพี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลพี่เต็มที่และครอบครัว”
       
       “เขาก็อุ่นใจเราไม่ได้หนีไปไหน เพราะว่าเราก็ถึงตัวเขาก่อน ก่อนที่ตำรวจจะถึงตัวเขาอีก ก่อนที่ทุกๆ คนจะถึงตัวเขาเพราะว่าเราต้องการแสดงความรักผิดชอบ ผิดไม่ผิดเราไม่รู้ ขอแค่ผมจะดูแลคนเจ็บ เพราะว่าเขาเจ็บเราไม่ได้เป็นอะไร ผมต้องดูแลให้เขาเต็มที่อยู่แล้ว เพราะยังไงเราก็มีประกันก็ต้องดูแลเขา แต่หลังจากนี้ก็คงจะไปดูแลเขาอยู่เรื่อยๆ เราก็พูดคุยหยอกล้อเขาว่าพี่อย่าเพิ่งเบื่อผมนะ ผมจะมาเยี่ยมบ่อยๆ เขาก็ยิ้มคือเขาก็รู้ว่าเราดูแลเขา เยียวยาตั้งแต่แรก เราก็เยียวยาเพิ่มเติมไปอีกที่เผื่อว่าเขาจะต้องใช้ในการเดินทางของคุณพ่อ”
       
       เผยเตรียมไปทำบุญสะเดาเคราะห์หลังเกิดเรื่องร้าย ซึ้งหวานใจสาว “น้อยหน่า สิริผกา กรรณสูต” เป็นห่วงเป็นใย ลั่นตั้งแต่มีแฟนมาคนนี้ใช่ที่สุดแล้ว ขอศึกษากันไปเรื่อยๆ
       
       "คงต้องทำครับ แต่ปกติผมก็ทำบุญอยู่ตลอดเวลา ว่างๆ ผมก็ไปถือศีล8 ที่วัด มันคงเป็นจังหวะที่มันจะต้องเกิด เราก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นโชคไม่ดีหรืออะไรครับ ทุกคนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ ขอให้มีสติเท่านั้นเอง ในเวลาที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
       
       “ส่วนน้อยหน่าเขาก็ให้กำลังใจครับ เป็นห่วงพยายามที่จะถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย ทุกๆ คนรอบตัวผมน่ารักมาก เป็นห่วงหมดเลย เราก็ดีใจในภาวะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเราก็ได้เห็นความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้ก็คุยอยู่แค่คนเดียวครับ เขาคนเดียวที่เรารู้สึกว่าเราคุยแล้วสบายใจ ไม่อยากคุยกับใครขอแค่คนเดียวก็พอ เท่าที่ดูมาก็ใช่ที่สุดเท่าที่เคยคบมา เขาเป็นคนใจเย็น เขาเป็นคนนิ่ง คือผมไม่เคยพบผู้หญิงแบบนี้ แต่ได้พบเราก็รู้สึกว่าเราอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ รู้สึกเย็นๆ อะไรก็ได้ยังไงก็ได้ ก็ค่อยดูๆ ไป ผมไม่อยากจะรีบ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)