Author Topic: “ณัฎฐ์” แถลงเสียใจซิ่งรถชนคนเจ็บสาหัส ยันให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย  (Read 867 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ณัฎฐ์” โร่แถลงข่าวกรณีซิ่งเบนซ์ชนจยย.จนคู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ลั่นเป็นอุบัติเหตุ ยืนยันไม่ได้ขับด้วยความประมาทหรือรีบร้อนแต่อย่างใด ซึ่งพอชนก็รีบลงไปดูคู่กรณีทันที ย้ำจะรับผิดชอบทุกอย่างไม่ทิ้งแน่นอน ถึงกับออกปากเข็ดไม่กล้าขับรถต่างจังหวัดอีก ส่วนเรื่องคดีก็ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย
       
       ตกเป็นข่าวใหญ่หวิดซ้ำรอยน้องสาว “แพรวา อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา” สำหรับพระเอกหนุ่ม “ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ที่ขับเบนซ์ซิ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่จังหวัดระยอง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้(1 ธ.ค 54) หนุ่มณัฎฐ์ก็ร้อนใจขอเปิดแถลงข่าวเคลียร์เหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเองทันที ที่อาคารจันทร์สว่าง ถนนสวนสยาม โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยเหตุการณ์ตั้งแต่แรกว่า….
       
       “คือเมื่อวันจันทร์(28 พ.ย.)ผมไปถ่ายละคร ซึ่งวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 30 พฤศจิกายน ตอนนั้นผมพักเที่ยงพอดี ผมก็เลยขับรถออกมาจากกองถ่าย ซึ่งก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ความเร็วก็ประมาณ 80 ครับ เพราะแถวนั้นเขตชุมชน แต่ผมก็ไม่ได้ขับรถเร็วอยู่แล้วแต่ถนนมันโล่ง เราก็ขับตามเลนของเราปกติไม่ได้ขับเร็วมากด้วยความระวัง พอถึงจุดเกิดเหตุอยู่ดีๆ ก็มีรถของคู่กรณีขับมาในระยะกระชั้นชิดมากซึ่งไม่สามารถหลบได้ ผมอยู่เลนของผม ซึ่งถนนมันเป็นสองเลนไปทางเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรเขามายังไงก็ไม่ทันสังเกต ผมเบรกไม่ทันครับก็เลยชน”
       
       “พอชนเสร็จปั๊บก็รีบลงไปดูเขาเลย เราก็ไม่ได้หนี ไม่ได้ทิ้ง ลงจากรถก็รีบไปดูคนเจ็บเพราะเป็นห่วงเขามาก ก็เลยมีสติเลยให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยวอเรียกรถพยาบาลหน่อยได้ไหมครับ พอดีคนนั้นเขามีวิทยุสื่อสาร เขาก็วอเรียกรถมา ตอนนั้นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวิ่งเขามาดูกัน มามุ่งดูคนเจ็บ แล้วพยายามอย่าจับตัวเขาผมก็พูดภาษาอังกฤษไปว่า Don’t touch him อย่าจับเขา เรากลัวว่าเขาจะกระดูกหัก ก็มีนักท่องเที่ยวเป็นแพทย์อยู่แล้ว เราก็ไม่เป็นไร ก็รีบปฐมพยาบาลเขาก่อนแล้วก็อยู่ตรงนั้นตลอด แล้วก็รีบโทรแจ้งประกัน แจ้งเสร็จรถพยาบาลก็มา ซึ่งก็ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที คนเจ็บตอนนั้นเขายังมีสติอยู่ครับ ไม่ได้สลบ เขาก็พยายามจะลุก”
       
       “ผมก็ดูคนเจ็บแล้วก็คอยสื่อสารกันในระหว่างที่เขานำตัวคนเจ็บขึ้นรถ ผมก็ดูคนเจ็บขึ้นรถไปจนรถออก แล้วก็ค่อยนั่งรถตู้กองถ่ายไปสถานีตำรวจบ้านกล่ำ เราก็ต้องทำตามระเบียบเรียบร้อยผมไปเองเลย ไปกับทีมงาน ผมก็ไปให้คำให้การสอบปากคำเสร็จแล้วก็ถามตำรวจว่าเราต้องทำอย่างไรต่อ ก็ถามตำรวจว่าจะไปเยี่ยมคนไข้ได้หรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรคนไข้เจ็บอยู่ ไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ ผมก็ร้อนใจขับรถกลับไปกับทีมงานไปที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ไปกับคุณพ่ออ๊อด พ่อของคนเจ็บ ซึ่งคุณพ่อน่ารักมาก ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาจะย้ายโรงพยาบาล”
       
       “ผมก็เลยขอเบอร์ติดต่อไว้เพราะยังทำอะไรไม่ได้ ซึ่งผมก็ไม่อยากให้งานเสีย ปัญหาก็ต้องแก้กันไป ถ้าผมมัวแต่มาวิตกจริตงานก็อาจจะเสีย แต่ก็เป็นกังวลตลอด แล้วก็ให้ทีมงานโทรเช็คกับคุณพ่ออ๊อดตลอดทุกชั่วโมง จนทุ่มสองทุ่ม จึงได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมพี่เขา ก็ขอทีมงานไปว่าไม่ไหวแล้วผมอยากไปเยี่ยม เขาย้ายจากโรงพยาบาลแกลงไปโรงพยาบาลระยอง พอย้ายไปผมก็เลยไปเยี่ยม เราร้อนใจเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเราทิ้งหรือไม่รับผิดชอบ เรารับผิดชอบเต็มที่อยู่แล้วเพราะเรารถใหญ่เราก็ไม่ได้ตั้งใจ”
       
       “เราก็เต็มที่อยู่แล้ว เขาจะได้อุ่นใจว่าเราจะดูแลเขา พอไปถึงโรงพยาบาลก็ให้ทีมงานไปกดเงินให้เขาก่อน เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก็ให้เขาไปทีแรกเลย 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นเรื่องของค่าเสียหายมอเตอร์ไซค์ก็ให้ประกันจัดการ เพราะผมมีประกันชั้น1 อยู่แล้ว เรื่องของคดีก็ให้ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนทุกอย่าง เราก็ขอเบอร์ติดต่อทางครอบครัว”
       
       “อาการล่าสุดก็คือต้องผ่าตัดซี่โครง ตอนนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัดอีกรอบนึง แต่ยังไม่คอนเฟิร์ม ซึ่งคุณแม่ก็กำลังเดินทางไปที่ระยองอีกรอบกับคุณอา เพื่อไปจัดการเรื่องคดีและดูแลคนเจ็บด้วย ถามว่าคนเจ็บเรียกร้องอะไรไหม ก็คือด้วยความที่เราแสดงตนตั้งแต่แรกเขาก็ดีใจ เขาพูดกับผมว่าดีว่าผมไม่ทิ้งเขา เขาพูดแบบนี้เราก็ชื่นใจ”
       
       “ตอนนี้ผมมีคิวถ่ายละคร 7 วันเลย แต่อาทิตย์หน้าผมจะไประยองอีกรอบนึง ยังไงผมก็ต้องหาโอกาสไปเยี่ยม คือเราต้องรับผิดชอบเต็มที่ พ่อของคนเจ็บเขาก็เป็นเจ้าของรีสอร์ทน่ารักมากๆ เขาก็คุยด้วยความใจเย็น เราก็ประทับใจเขา อย่างน้อยเราก็แสดงความจริงใจ ตัวผมไม่เป็นอะไรแต่ผมรู้สึกเสียใจ ผมไม่ได้ห่วงรถนะ ช่างมันเพราะมันซ่อมได้ แต่คนนี่สิ ซึ่งจิตใจผมไปอยู่ตาตุ่มแล้วเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ผมไม่ได้ขับเร็วมาก มันสุดวิสัยเราเบรกไม่ทันจริงๆ ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่ดูแล”
       
       ยันไม่ได้ขับรถด้วยความประมาทเพราะตนเป็นคนขับรถไม่เร็ว เผยจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่กล้าขับรถออกต่างจังหวัดอีก
       
       “หลายคนมองว่าเป็นความประมาท มันคืออุบัติเหตุครับ อย่าไปมองอย่านั้นเลย ตั้งแต่ผมขับรถมาก็ไม่เคยขับชนเลย แต่เหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอด ผมเป็นคนรักรถนะรักมากๆ พอเกิดเรื่องผมก็โทรหาพี่บอย ถกลเกียรติ ว่าเกิดเรื่องแบบนี้นะ พี่เขาก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุไม่เป็นไร เราก็ดูแลเขาให้เรียบร้อย เราก็ดูแลแน่นอน”
       
       “ตอนนี้ผมไม่กล้าขับรถเลยนะ ยิ่งออกต่างจังหวัด ผมก็รู้สึกว่าแม้เราระวังก็ยังเจอ ผมขอไม่ขับรถตอนนี้ แต่ไม่ได้กลัวนะแต่ผมมีเรื่องให้คิดเยอะ คุณแม่ก็เป็นห่วงทางนั้นด้วย ตอนนี้คุณแม่ก็ดูแลจัดการให้ผมถือว่าฟาดเคราะห์ไป ถึงผมไม่ได้เจ็บแต่ก็มีคนได้รับบาดเจ็บ ผมเสียใจจริงๆ อยากให้ทุกคนระมัดระวังในการขับรถด้วยอยากให้มีสติครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)