“แอฟ” แฮปปี้ควง “สงกรานต์” ออกงานการกุศลถี่ ไม่เหมือนงานจ้างที่ต้องกังวลถึงความเหมาะสมในการรับงาน ลั่น 2 ปีครึ่งในการคบหากันไม่เร็วไปสำหรับการแต่งงาน เผยวินาทีแฟนหนุ่มขอแต่งงานไม่มีเซอร์ไพร์สเพราะตลอดระยะเวลาที่คบก็คุยเรื่องนี้เสมอ ลั่นแต่งงานแล้วไม่เป็นช้างเท้าหลัง บอกขอเป็นเท้าซ้ายเดินคู่กันไป
คบหาดูใจกันมา 2 ปีครึ่งแต่น้อยครั้งที่จะเห็นคู่รักสาว “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ควงแฟนหนุ่ม “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ออกงานร่วมกัน แต่ตั้งแต่มีข่าวเตรียมวิวาห์ก็เห็นทั้งคู่ควงกันออกงานสังคมถี่ ไม่ว่าจะลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และล่าสุดทั้งคู่ก็ควงกันมาร่วมรายการ “สุริวิภา” สด!!..ช่วยน้ำท่วม เพื่อรับโทรศัพท์ผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคเงินกับทางรายการ พร้อมเปิดใจคู่กันว่า…
แอฟ : “อย่างช่วงนี้ที่เราไปงานคู่กันบ่อยๆ ก็เลือกออกแต่งานการกุศล ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะตั้งใจไม่รับเลยนะคะ แต่พอเป็นงานจ้างแล้วเราก็จะคิดมาก เราจะมานั่งคิดว่ามันจะเหมาะสมมั้ย จะเป็นภาพที่ดีมั้ยที่เราจะไปออกงานคู่กัน แต่พอมันเป็นงานบุญ งานกุศลมันไม่มีอะไรที่จะต้องมานั่งคิดมาก เราไปด้วยใจไปทำประโยชน์ให้กับสังคมมันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว จะออกเดี่ยวออกคู่ก็คงไม่ใช่ประเด็น”
“จริงๆ ก็ช่วยงานมาหลายรูปแบบแล้ว ช่วงแรกๆ อาจจะไม่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ แต่เราก็ได้บริจาคเงิน สิ่งของไปกับผู้ที่เขามีโอกาสออกไป ช่วงหลังๆ เรา 2 คนเองก็ได้มีโอกาสลงพื้นที่โดยเฉพาะกรานต์เองก็มีโอกาสได้ลงไปหลายพื้นที่หลายจังหวัดแล้ว”
สงกรานต์ : “พอเราได้ไปลงพื้นที่ ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเขาก็รู้สึกสงสารครับ เราเข้าใจว่ามันลำบากจริงๆ คนที่เขาสะสมทรัพย์สินต่างๆ มาทั้งชีวิตแล้วมันหายไปทั้งหมดพร้อมสายน้ำเพียงคืนเดียว อย่างบางพื้นที่ก็ทำนาไว้เพื่อหวังผลผลิต ซึ่งเป็นรายได้หลักและรายได้เดียวของเขาก็หายไปในพริบตา เรารู้สึกเห็นใจเขามาก ผมเองตอนนี้มาทำงานอยู่ในกระทรวงไอซีที เป็นโฆษกกระทรวง ตอนนี้ก็ประจำเป็นคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ดอนเมืองเลยมีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่ที่นั่นทุกวัน เพื่อจะไปรับโทรศัพท์และประสานงานกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย คนที่ทำงานอยู่ที่นั่นเชื่อมั้ยครับว่าเขารับโทรศัพท์ไปร้องไห้ไปทุกวัน”
เผยช่วงนี้ยุ่งรอเคลียร์งานให้ลงตัวก่อนแล้วจะกลับมาคุยเรื่องแต่งงานจริงจังอีกที ลั่นคบกัน 2 ปีครึ่งไม่เร็วไปสำหรับแต่งงาน บอกตอนที่แฟนหนุ่มขอแต่งงานไม่มีอะไรเซอร์ไพร์สเพราะตลอดระยะเวลาที่คบก็คุยเรื่องนี้ตลอด
แอฟ : “ช่วงนี้ต้องยอมรับว่าเราค่อนข้างยุ่งทั้ง 2 คน กรานต์เองก็ต้องมาช่วยเรื่องของน้ำท่วมทุกวันตั้งแต่เช้าถึงดึก เขาทำงานในหน่วยงานสำคัญที่ต้องรับเรื่องร้องทุกข์ทั้งวัน ก็เลยยังไม่มีเวลาคิดเรื่องส่วนตัวค่ะ ตอนนี้ เลยยังไม่มีความคืบหน้า รอให้กรานต์หายยุ่งก่อนค่ะ”
สงกรานต์ : “ก็คุยกับแอฟว่ารอให้พ้นช่วงนี้ก่อนแล้วกัน เพราะผมเองค่อนข้างที่จะวุ่นพอสมควร แอฟเองเขาก็มีงานละครที่ยังค้างคาอยู่ เราก็คุยกันแล้วว่าถ้าเราเคลียร์งานกันลงตัว และมีเวลาว่างก็จะมานั่งคิดเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ตอนนี้ก็รอฤกษ์ก่อน ถ้าได้ฤกษ์แล้วก็จะทำอะไรได้สะดวกขึ้น”
แอฟ : “หลายคนอาจจะมองว่าเราคบกัน 2 ปีครึ่งเร็วไปที่จะตัดสินใจแต่งงาน แต่แอฟเองก็ไม่เคยถามเขาเหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกเวลานี้ แต่สำหรับแอฟโอเคค่ะ ไม่ได้เร็วจนเกินไป ถ้าเทียบหลายๆ อย่างกับอายุแอฟแล้วอันนี้แน่นอนว่าไม่เร็ว อยู่ในวัยปกติธรรมดาของคนที่มีครอบครัวได้แล้ว ส่วนเรื่องของการรู้จักกันแอฟว่า 2 ปีครึ่งก็โอเคในระดับนึง ไม่ได้ช้า ไม่ได้เร็ว อยู่ในระยะที่เห็นตัวตนของกันและกันจริงๆ แล้ว มันหมดช่วงโปรโมชั่น คือช่วงโปรโมชั่นของแต่ละคนมันสั้นยาวต่างกัน แต่เราจะรู้ตัวว่ามันหมดเมื่อไหร่ ถ้ามันหมดแล้วเขาเป็นตัวของตัวเอง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เราก็ต้องมานั่งคิดแล้วว่าเราจะยอมรับตัวตนเขาได้มั้ยก็ว่ากันไป”
“คือเหมือนที่ผ่านมาเราก็คุยๆ กันอยู่ตลอด ยังไม่มีการขออะไรอย่างเป็นทางการ ด้วยความที่เราคุยกันอยู่แล้วเลยไม่รู้สึกว่ามันเร็วไป เราก็คุยกันเล่นๆ ไม่ได้เป็นทางการ จนวันนึงที่เราเริ่มคุยกันแบบซีเรียสว่าเราตั้งใจจะแต่งงานกันจริงๆ แล้ว มันเลยไม่ได้เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์ส หรือมีโมเม้นท์ขอแต่งงาน เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนถึงเวลานึงที่เราควรจะต้องจริงจังแล้ว ก็ไปดูฤกษ์กัน ผู้ใหญ่ไม่มีเร่ง ทุกคนมีแต่จะสนับสนุน เหลือแต่เรา 2 คนตัดสินใจ ก็มั่นใจว่าเขาใช่ตั้งแต่เป็นแฟนกันค่ะ หมายถึงว่าแต่ละสเต็ปก็แตกต่างกันไป ก็มั่นใจกับคนนี้ที่จะเลือกมาเป็นแฟนเรา อันนี้ก็เป็นอีกสเต็ปนึงที่จะให้เขาเลื่อนขั้นมั้ย”
“แอฟ” ลั่นไม่คิดเป็นช้างเท้าหลัง แล้วแต่คนจะมองเป็นดวงนารีอุปถัมภ์ ส่วนตนมีความสุขที่สุดกับหน้าที่แฟนหนุ่มดูแลโบนันซ่า
แอฟ : “คงแล้วแต่คนจะมองว่าอะไรคือดีของชีวิต แต่สำหรับแอฟ...(นิ่งคิด) การที่เขาทำงานอยู่บนโบนันซ่าแอฟมีความสุขที่สุดแล้ว เอาอย่างนี้ดีกว่า แต่เรื่องอื่นๆ มันแล้วแต่คนจะมองว่าอะไรเป็นความก้าวหน้าของเขา (ยินดีเป็นช้างเท้าหลังสนับสนุนเขาทุกเรื่อง?) ไม่ค่ะ แอฟจะไม่เป็นเท้าหลัง ขอเป็นเท้าซ้ายได้มั้ยคะ"
ที่มา: manager.co.th
