"ก้อย" เล็งอีก 4 ปีสละโสด ออกตัวไม่อยากเอาเรื่องนี้กดดัน "ตูน"

[Nick]

"ก้อย" เผยคุยเรื่องแต่งงานกับ "ตูน" แล้ว แต่ยังไม่จริงจัง บอกให้เป็นเรื่องของอนาคต เล็งอีก 4 ปีแต่งงาน ออกตัวไม่อยากเอาเรื่องนี้มากดดันฝ่ายชาย ปัดเกาเหลา "ขิง" แฟนเก่าตูน ยืนยันร่วมงานกันได้ไม่มีปัญหา
       
       ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวมาให้ระคายหูว่าความรักของนางเอก "ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ" กับหวานใจ "ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย" จะรักๆ เลิกๆ แต่ทั้งคู่ก็ได้ออกมาโต้กลับแล้วว่า ความรักยังหวานชื่นกันดีอยู่ ล่าสุดหนุ่ม “ตูน” ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอยากแต่งงานแล้ว ทำเอาหลายคนลุ้นไปกับสาว “ก้อย” ว่า อย่างนี้จะมีข่าวดีเร็วๆ นี้หรือเปล่า? ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า…
       
       "น่าจะเป็นความคิดของเขามากกว่า เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า เหมือนกับวางแผนอนาคต ชีวิตของเขาเองเอาไว้ ยังไม่ได้คุยอะไรกันซีเรียสค่ะ ส่วนใหญ่จะคุยกันว่า อนาคตอยากจะทำอะไร มีงานอะไรที่อยากทำบ้าง อะไรที่อยากค้นหา มีอะไรที่สนใจอีก วางแผนยังไง ส่วนใหญ่จะปรึกษาเรื่องที่บ้านมากกว่า"
       
       "เรื่องแต่งงานไกลมาก ก้อยยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น แล้วก็อยากจะทำงานตรงนี้ก่อน อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เรายังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ เรื่องการแต่งงานก็เป็นอะไรที่น่าค้นหาเหมือนกัน แต่ว่าต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมดีกว่า"
       
       แจงถ้าฝ่ายชายขอก็ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบด้วย เพราะมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่
       
       "มันก็ต้องดูตามเนื้อผ้าด้วย (หัวเราะ) ในส่วนตัวก้อย ก้อยมองเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตคู่ แล้วเราทั้งคู่น่าจะต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ทางจิตใจ อารมณ์ทางผู้ใหญ่ เป็นเรื่องของวุฒิภาวะมากกว่า หลายคนบอกว่าต้องแต่งงานเมื่อพร้อม"
       
       "จริงๆ แล้วการแต่งงานมันเหมือนกับบอกว่า ถึงจุดอิ่มตัวของความรักแล้ว เป็นการก้าวไปสู่อีกสเตปหนึ่งของความรัก จากการเป็นคู่รักกัน ต่อไปก็คือมีครอบครัว มีลูก แต่ ณ เวลานี้สำหรับก้อยเอง ยังไม่ได้คิดไกล คิดแค่ว่าทำงานของเราให้เต็มที่อย่างมีความสุข เขาก็จะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่และมีความสุขค่ะ"
       
       "เรื่องแบบนี้เราคุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ ด้วยความที่ก้อยเด็กกว่า ก็จะปรึกษาเขาเรื่องครอบครัว มีอะไรก็ปรึกษาเขา อย่างตอนนี้ก็จะคิดถึงเรื่องของครอบครัวของก้อยมากกว่า เราทำงานตรงนี้ แล้วมีอะไรที่จะสามารถสร้างฐานะของเราได้ เราก็อยากที่จะตอบแทนตรงนี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ให้กับคนที่เลี้ยงดูเรามามีความสุขก่อน แล้วก้าวต่อไปค่อยเป็นทีของเรา ให้เรามีความสุขบ้าง"
       
       เผย เคยคุยกันเรื่องแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีแพลนแน่นอนในอนาคต
       
       "เป็นการพูดขำๆ มากกว่า แต่ไม่มีอะไรซีเรียส เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องเซนส์ซิทีฟ ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เราไม่อยากจะให้เรื่องตรงนี้มากดดันความรักของเรา ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ก็จะบอกว่าอยากจะทำวันนี้ให้ที่สุด ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากไปคาดคะเนว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้"
       
       "ก็ในวัยอายุเท่านี้ ไม่ได้เด็กมากหรือโตเป็นผู้ใหญ่มาก ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเราก็ต้องวางแผนอนาคตชีวิตของเราเหมือนกัน อย่างที่บอก ไม่อยากเอาเรื่องแต่งงานมากดดัน เรารู้ว่าวันนี้เรามีคนที่เรารักแล้วทำให้ทุกวันให้มีความสุขก็พอ อนาคตจะเดินไปถึงตรงนั้นมั้ย ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กัน"
       
       "เอาซักอีก 3-4 ปีละกัน จริงๆ แล้วถ้าพูดเรื่องความรักก็จริงจังอยู่แล้ว ไม่ว่าอยู่ในสถานภาพไหนก็ตาม แต่ว่าการแต่งงานมันเป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิต มันต้องรอบคอบ จะคิดอะไร จะทำอะไร จะตอบอะไร การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันรายละเอียดมันเยอะ ตอนนี้ยังไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้น เพราะยังมีอะไรที่ต้องทำในชีวิตอีกเยอะ (ยังไม่มีแผน?) ไม่มีแน่นอนค่ะ"
       
       อยู่ๆ ก็มีคนปล่อยข่าวว่า “ก้อย” ซดเกาเหลากับ "ขิง ทัศนพรรณ สิริสุขะ" แฟนเก่า “ตูน” สอบถามความจริงไปเจ้าตัวก็ถึงกับเหวอ พร้อมปฏิเสธว่า….
       
       "โอ๊ย.. ก้อยไม่รู้จักพี่ขิงเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ ไม่เคยคุยเลยค่ะ ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ (รู้หรือเปล่าเขายังคุยยังติดต่อกันอยู่มั้ย?) ไม่ทราบเลยค่ะ ไม่เคยเจอด้วย แค่รับทราบว่าพี่ขิงเป็นใคร แต่คือพี่ตูนกับพี่ขิงก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยังเป็นเพื่อนกัน เพราะเขารู้จักกันมานานมากแล้วค่ะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้มีเรื่องหรือประเด็นอะไรที่มาทำให้เป็นปัญหาอย่างที่เป็นข่าว"
       
       "ร่วมงานกันได้ค่ะ เข้าไปสวัสดีพี่เขาแน่นอนค่ะ วันนั้นเลิกงานเสร็จไปเจอพี่ตูน ยังคุยกันอยู่เลยนะว่าเจอข่าวเดียวกัน ก็ขำๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร คิดว่าเป็นอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จริงๆ แล้วมันอยู่ที่คนสองคนว่าจะประคับประคองกันต่อไป ถ้าเราไปหวั่นไหวกับคำพูดหรือข่าวที่เกิดขึ้น เราก็จะแพ้ภัย แต่ถ้าเราเข้มแข็งและมองว่าเป็นปัจจัยภายนอก ไม่ได้เอามาทำให้มันเป็นปัญหาเราสองคน"

ที่มา: manager.co.th