พุ่มพวง ดวงจันทร์ ผู้ล่วงลับ
เปาวลี พรพิมลบนโปสเตอร์หนัง “พุ่มพวง"
“เปากับริว จิตสัมผัส” รายการ “คนอวดผี"
ระหว่างถ่ายทำรายการ “ล้วงลับตับแตก”
“เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” และ “ริว จิตสัมผัส” โหนกระแสหนัง “พุ่มพวง” ถึง 2 รายการ 2 วันติดต่อกัน ายการ “คนอวดผี” (วันพุธที่ 13 ก.ค) อ้างว่า วิญญาณพุ่มพวงอยู่ในรายการ ก่อนที่จะมาอ้างซ้ำในรายการ “ล้วงลับตับแตก” วันถัดมา (วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค.) แถมยังสร้างสตอรีให้ไฟตกและเครื่องวัดหัวใจเสียแล้วกลับมาใช้ได้อีก ผู้ชมทั้ง 2 รายการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวิร์คพอยท์ฯ ร่วมมือกับ “ริว จิตสัมผัส” เอาวิญญาณของพุ่มพวง ดวงจันทร์มาหากิน
คนอวดผี อ้าง พุ่มพวงอยู่ในรายการ รายการ “คนอวดผี” รายการดังแนวผีปนเซ็กซ์ของเวิร์คพอยท์ฯที่กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังออกอากาศได้ไม่กี่เทปได้เชิญ “บัณฑิต ทองดี” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวงและ “น้องเปาวลี พรพิมล” นางเอกภาพยนตร์ผู้มารับบทราชินีเพลงลูกทุ่งคนล่าสุดให้มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวงตลอดจนอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นขณะถ่ายทำซึ่งทั้งสองก็ผลัดกันแลกเปลี่ยนบอกเล่าเรื่องราวกันตามปกติ
ซึ่งในขณะที่ใกล้จะหมดช่วงสนทนานั้นเองที่จู่ๆ พิธีกรประจำรายการ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ก็พูดขึ้นมากลางปล้องว่าจะขอเชิญ “ริว จิตสัมผัส” พิธีกรประจำช่วงศูนย์บรรเทาทุกข์ผีได้เข้ามาพูดคุยแสดงทรรศนะ ซึ่งริวก็เดินเข้ามาหย่อนก้นก่อนที่จะพูดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้(หมายถึงน้องเปา) ไม่ได้แสดง แต่มีใครสักคนที่ผลักดันให้เธอแสดงออกมา
“เด็กคนนี้ไม่ได้แสดงครับ เพราะผมอยู่ในห้องแต่งตัว ผมรับรู้จากความรู้สึกได้ว่า ท่านบอกว่า ท่านมากับเด็ก มากับคนที่นั่งอยู่ในห้องที่กำลังทำรายการอยู่ และเขาก็ร้องเพลงนี้ให้ริวฟัง ...เมื่อสุริยน …(เพลง นักร้องบ้านนอก) เค้าบอกว่า เพลงนี้ก็ไปอาศัยเด็กคนนี้ถ่ายทอดเพลงนี้ขึ้นมา แล้วทำให้คนไม่สามารถคุมตัวเองได้
ผมว่าไม่ใช่การสิง แต่เป็นการส่งความรู้สึกเพราะเขามีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกับแม่ผึ้งในชีวิตจริง เราจะเห็นว่า ท่านเป็นคนที่ถ่ายทอดเสียงผ่านบทเพลงได้เหมือนการเล่า การฉายหนัง เลยทำให้ได้เป็นราชินีลูกทุ่งในทุกวันนี้ เด็กคนนี้ก็เหมือนกัน เด็กคนนี้มีความรู้สึกผ่านบทเพลง ผ่านความรู้สึกได้เหมือนกัน แล้วแม่ผึ้งถ่ายทอดความรู้สึกอันนี้กับเขา เขาไม่ได้เป็นคนแสดง แต่แม่เป็นคนส่งผ่านความรู้สึกให้เขา”
นอกเหนือจากนี้ยังกล่าวหน้าตาเฉยว่า“ขณะนี้วิญญาณของพุ่มพวงได้อยู่ที่ห้องส่งด้วย” !!?
“ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เอาไว้เป็นปราการป้องกันคนที่ไม่เห็นด้วย
ล้วงลับฯ ไฟตก เครื่องวัดหัวใจพัง ไม่หยุดแค่นั้น ในวันถัดไป “ริว จิตสัมผัส” กับเวิร์คพอยท์ฯ ยังแท็กทีมกันไปในรายการ “ล้วงลับตับแตก” ซึ่งมีเวิร์คพอยท์ฯเป็นผู้ผลิตอีกเช่นเคย คราวนี้ทางรายการเชิญน้องเปากับริวให้เป็นแขกรับเชิญในช่วงล้วงลับฯ ซึ่งตอนที่ริวขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ล้วงลับนั้น มดดำและหนุ่ม กรรชัยได้ผลัดกันยิงคำถามไปหาริว ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ว่าจริงหรือไม่ที่เขาไม่ใช่ผู้ชาย และจริงหรือไม่ที่เขาทำศัลยกรรมจมูก
ซึ่งคำถามแรกริวตอบว่าเขาเป็นคนที่ข้ามเพศไม่ยุ่งไม่สนใจและไม่ฝักใฝ่เรื่องทางเพศแต่ขอสนใจแต่เรื่องทำงานอย่างเดียวเท่านั้น ในความเป็นจริงจะมีคนข้ามเพศสักกี่คนที่อยู่เหนือกามคุณ !!? ส่วนคำถามหลังริวยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาทำศัลยกรรมจมูกจริงเพราะอยากให้ตัวเองดูดีเพราะต้องรับบทพระรองในละครปลาบู่ทองยุคที่ “มีน พิชญา วัฒนามนตรี” เป็นนางเอกเมื่อปี พ.ศ. 2552
ช่วงที่น้องเปา วลี พรพิมล ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ล้วงลับฯ มดดำก็ยิงคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของน้องเปาไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะวกมาที่เรื่องความเร้นลับของพุ่มพวงในกองถ่ายภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อมดดำป้อนคำถามว่าจริงหรือไม่ที่น้องเปามักจะเจออาถรรพ์ของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังไม่ทันที่น้องเปาจะตอบคำถาม เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียง “ตี๊ดๆ” พร้อมทั้งอาการ “ตกอกตกใจ” จากบรรดาพิธีกรในรายการ ก่อนที่จะมีเสียงผู้บรรยายช่วย “บิลด์” ให้ผู้ชมทางบ้านอินไปกับเรื่องผีๆ ที่เวิร์คพอยท์ฯตั้งใจนำเสนอว่าอยู่ดีๆ เครื่องวัดการเต้นของหัวใจเครื่องนี้ก็เกิดขัดข้องและส่งเสียงร้องขึ้นในช่วงนั้นพอดิบพอดี
ไม่เพียงเท่านั้น หนุ่ม กรรชัยยังเดินเข้าไปย้ำกับคนดูอีกว่าร้อยวันพันปีเครื่องนี้ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่พอคุยถึงเรื่องพุ่มพวงจู่ๆ มันก็แสดงอาการขึ้นมา หลังจากนั้นก็โฟกัสไปที่เรื่องเครื่องวัดการเต้นของหัวใจว่ามีทีมงานเข้ามาซ่อมแซมและใช้เวลานานถึง 20 นาที จนในที่สุดหนุ่ม กรรชัยกับผู้บรรยายก็บอกเล่าว่าเครื่องวัดการเต้นของหัวใจได้เสียอย่างถาวรไปแล้ว ซึ่งพอมดดำและคนอื่นๆ จะกลับมาคุยกับน้องเปาในเรื่องอาถรรพ์พุ่มพวง หนุ่ม กรรชัย(และผู้บรรยาย)ก็พูดแทรกขึ้นมาว่าอยู่ดีๆ เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้กลับมาทำงานตามปกติแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่อง “ไฟตก” ในรายการด้วย ก่อนที่กรรชัยจะชงไปให้ริวพูดถึงเรื่องวิญญาณด้วยคำถามที่ว่า “คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร” ซึ่งริวก็ตอบคำถามดังกล่าวแบบนิ่มๆ เข้าทางของเขาว่า
“ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร แต่บอกได้เลยว่าขณะนี้วิญญาณของแม่ผึ้งมาอยู่ที่นี่แล้ว” !?
เป็นการกล่าวอ้างถึงวิญญาณของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” จากปากของ “ริว จิตสัมผัส” ผ่านรายการของ “เวิร์คพอยท์ฯ” ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ติดๆ กันถึง 2 วัน ซึ่งจะเป็นการกล่าวอ้างเพื่อใช้ชื่อในการเรียกเรตติ้งหรือไม่โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณา
ใครคือ “ริว จิตสัมผัส” ? “ริว จิตสัมผัส” มีชื่อจริงว่า “ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์” ริวเติบโตที่จังหวัดนราธิวาส ใช้ชีวิตคลุกคลีเที่ยวเล่นอยู่ที่ศาลเจ้า แม่โต๊ะโมะ ประวัติชีวิตก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็น “ริว จิตสัมผัส” เป็นเหมือนแผ่นเสียงตกร่องที่เขาเล่าให้ใครต่อใครฟังเสมอว่า ทุกครั้งที่ไปดูการทรงเจ้าเข้าผี เขาจะเกิดอาการตัวเย็นเยียบ หายใจไม่ออก ซึ่งเป็นอาการแปลกๆ ที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาริวบอกว่าตอนที่เขาอยู่ ป. 3 เทพเจ้ากวนอูได้มาเข้าฝันแล้วแจ้งว่าเขาเป็นผู้ถูกเลือกให้มี “พลังพิเศษ” ซึ่งต้องไปปฏิบัติภารกิจร่วมกันกับเทพเจ้ากวนอู โดยเขาบอกว่าเทพเจ้ากวนอูได้พาเขาไปทัวร์นรก ทำให้เขาได้เห็นการลงทัณฑ์คนบาปในรูปแบบต่างๆ นานา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลิกรับประทานเนื้อสัตว์ เพราะบอกว่าจู่ๆ ก็มองเห็นเลือดเต็มชามอาหารที่มีเนื้อหมูอยู่ ทำให้ริวตัดสินใจรับประทานอาหารเจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้น ริวก็เริ่มต้นทำงานโดยใช้การมี “จิตสัมผัส” ซึ่งอยู่ในวิชา “สัมผัสพิเศษ” ที่สามารถสื่อสารสัมผัสวิญญาณต่างๆเป็นจุดขาย ซึ่งเขามักจะย้ำกับใครต่อใครเสมอว่าไม่เคยใช้ความสามารถดังกล่าวเพื่อกอบโกยเงินทอง แต่หลังจากที่เขา ออกหนังสือ “ทำไมชีวิตต้องติดกรรม” ส่งผลให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ประกอบกับการทำงานพิธีกร ”รายการจิตสัมผัส” ของช่องเคเบิลกันตนาก็ยิ่งทำให้ “ริว จิตสัมผัส” มีฐานแฟนคลับโดยเฉพาะสาวๆ ที่ชื่นชอบเรื่องการดูดวง แก้กรรม สะเดาะเคราะห์ต่างๆ เพิ่มขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน เวิร์คพอยท์ฯ ก็พุ่งความสนใจไปที่ตัวของริว หลังจากที่ “รายการคนอวดผี” เริ่มฮอตฮิตอยู่ในความสนใจของแฟนโทรทัศน์ รายการนี้ก็เริ่มเชิญหมอดูคนแล้วคนเล่าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ดูดวงสะเดาะเคราะห์ให้คำแนะนำในทางเร้นลับเพื่อให้สอดคล้องไปกับธีมของรายการ ซึ่งหนังสือ “ทำไมชีวิตต้องติดกรรม” ของริวที่ตีพิมพ์ออกมาถึง 3 เล่มแล้วทำให้เขาได้รับการทาบทามจากเวิร์คพอยท์ฯ ให้เข้าไปนั่งเก้าอี้ประจำในรายการ “คนอวดผี” เพราะคอนเซ็ปต์และจุดขายของริวสอดคล้องต้องตรงกับรายการมากกว่าหมอดูรายอื่นๆ
เมื่อมาอยู่ในชายคาของเวิร์คพอยท์ฯ ชื่อเสียงความโด่งดังยิ่งถาโถมเข้าไปหาเขา ริวได้รับเชิญให้ไปออกรายการตีสิบ รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย และรายการอื่นๆ ของเวิร์คพอยท์ในเวลาต่อมา นิตยสารหลายเล่มติดต่อขอสัมภาษณ์เขา รู้ตัวอีกที “ริว จิตสัมผัส” ก็มีสถานะไม่ต่างไปจากดาราหรือเซเลบคิวทองที่ใครต่อใครแย่งกันให้เขาไปปรากฏตัวไปเสียแล้ว
ไม้ตายของริวคือการดูลายเซ็น วันเดือนปีเกิดและทะเบียนบ้านหรือทะเบียนรถของคนอื่น แต่เอกลักษณ์อันชัดเจนของเขาจะจบลงที่ประโยคประจำตัวนั่นคือ “คุณเคยทำแท้งหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำแท้งหรือไม่?” ซึ่งเขาอ้างว่ามันเป็นภารกิจเดียวที่เทพเจ้ากวนอูมอบหมายให้เขาปฏิบัติ ก่อนที่จะสรุปว่าสิ่งที่เขาทำได้ช่วยเหลือไม่ให้พ่อแม่ทำแท้งลูกในไส้มาหลายรายแล้ว
เมื่อดังมากขึ้นก็เกิดกระแสโจมตีว่า “ริว จิตสัมผัส” เป็นของเก๊ ซึ่งทุกครั้งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เขามักจะพูดเฉไฉล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย แล้วย้ำหนักแน่นที่ประโยคเดิมๆ ว่า ตัวเขาไม่ได้ทำมาหากินบนความเดือดร้อนของคนอื่น และไม่ได้เอาเงินจากการดูดวงหรือให้คำปรึกษาใครเลยแม้แต่บาทเดียว แล้วชีวิตอยู่ได้อย่างไร !? แต่เขาไม่เคยชี้แจงว่า “ความโด่งดัง” ที่เกิดขึ้นนั้นตามมาได้นำมาซึ่งทรัพย์สินและสิทธิพิเศษมากมายขนาดไหน ทุกวันนี้ “ริว จิตสัมผัส” ยังเป็นชื่อที่ขายได้ ทั้งการปรากฏตัวหน้าจอโทรทัศน์ การไปบรรยายพิเศษตามที่ต่างๆ และการไปออกงานอีเวนต์ ซึ่งรายได้ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่ริวไม่เคยเปิดเผยและไม่เคยแม้แต่จะพูดถึง
ภาพวันนี้ “ริว จิตสัมผัส” เด็กปั้นรายล่าสุดของเวิร์คพอยท์ฯมีสถานะไม่ต่างไปจากเทพเจ้า เพราะทุกครั้งที่ใครสักคนวิพากษ์วิจารณ์ บรรดาแฟนคลับแม่ยกนับร้อยนับพัน(ที่ส่วนมากเป็นผู้หญิง) ก็จะต้องออกโรงมาพูดว่าริวไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ริวเป็นคนดีที่ต่อต้านการทำแท้ง และสนับสนุนให้คนยึดมั่นในศาสนา ซึ่งตัวริวเองก็ยอมรับเหมือนกันว่า
“ถ้าการหลอกลวงคนทำให้สังคมสูงขึ้น ทำให้คนในสังคมตระหนักเรื่องกฎแห่งกรรมได้ ริวยอมถูกประฌามว่าโง่และสติไม่ดี”
มองในอีกมุมสิ่งที่ริวกำลังปฏิบัติทำให้ผู้คนงมงายและไม่สนใจศึกษาหลักธรรมที่แท้ ได้หรือเปล่า !?
.........................................
ปัญญา นิรันดร์กูล ผู้อำนวยการสร้าง “คนอวดผี - ล้วงลับตับแตก”
“ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ หรือ “ริว จิตสัมผัส”
หนังสือ “ทำไมชีวิตต้องติดกรรม”
ที่มา นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 94 วันที่ 23 - 29 กรกฎาคม 2554
ที่มา: manager.co.th
