“กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” เผยตั้งแต่เริ่มต้นสานสัมพันธ์อีกครั้งกับแฟนหนุ่ม “มาริโอ้” เริ่มดีขึ้น บอกหวานกันมากขึ้นแต่ไม่ถึงขนาดเปิดตัวจนน่าเกลียด ออกตัวไม่ขอรับงานถ่ายแบบคู่เพราะไม่กล้าเอาใบหน้าเทียบกับแฟนหนุ่มที่หน้าหวานกว่า
หลังจากที่ดาราสาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” น้ำตาแตกเพราะพระเอกหนุ่มหน้าใส “มาริโอ้ เมาเร่อ”ไม่ชัดเจนในเรื่องสถานะความสัมพันธ์จนต้องถอยห่างออกมา ล่าสุดหนุ่มมาริโอ้ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้สามารถใช้คำว่าแฟนกับสาวกุ๊บกิ๊บได้แล้ว แถมโชว์แมนเข้าไปขอฝ่ายหญิงเป็นแฟนอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อกุ๊บกิ๊บได้ทราบข่าวจึงได้เปิดเผยความสัมพันธ์ที่ชัดเจนในครั้งนี้ แต่ก็ยังออกอาการเขินอายอยู่ตลอด
“ที่มาริโอ้ออกมาใช้คำว่าแฟนกับหนูมันก็ตามนั้นแหละค่ะ เราก็เขินบ้างอะไรบ้างเราก็เปิดตัวนะ(ยิ้มแบบเขินๆ) แต่ก็ไม่ถึงกับพรีเซ้นต์อะไรมากนักก็แค่ให้รู้ว่าเราคบกันแต่ก็ไม่ถึงกับไปออกงานคู่อะไรขนาดนั้น เราก็แค่คบกันธรรมดาเหมือนคนทั่วไป”
“ครั้งนี้ก็ใช้เวลานานนะ ตั้งแต่ก่อนเดือนกุมภาพันธ์ก็นานหลายเดือนแล้ว และมันก็พิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง เราก็เลยค่อนข้างมั่นใจและเราเลยออกมาพูดได้ พูดถึงชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยเปลี่ยนนะ แต่เราก็เจอกันมากขึ้นพยายามหาเวลามาเจอกันมากขึ้น และตอนนี้ก็พูดจากันเพราะขึ้น จากเมื่อก่อนที่จะให้สรรพนามแทนกันเป็นสัตว์ใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ก็จะประมาณว่า คุณมาริโอ้ คุณกุ๊บกิ๊บอะไรอย่างนี้ ก็เรียกกันเพราะขึ้น (หัวเราะ)ไม่ค่อยมีจิกหัวตบหัวกันเหมือนเมื่อก่อน”
“ส่วนตัวเราก็สบายใจเพราะไม่มีผลกระทบกับงานหรือแฟนคลับเลย ก็อย่างที่หนูบอกว่าหนูพูดว่าเราคบกันอย่างไร แต่เราก็ไม่ได้เปิดตัวจนน่าเกลียดขนาดแฟนคลับรับไม่ได้ และเราก็ไม่ได้ไปทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอยู่ตลอดเวลาค่ะ”
ปฏิเสธไม่ขอถ่ายแบบคู่แฟนหนุ่ม เพราะเหมือนฆ่าตัวตายที่ฝ่ายชายหน้าหวานกว่า แต่ถ้าเป็นละครคงต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ดูว่าเหมาะสมหรือไม่
“เรื่องงานมันก็งานแต่ถ้าจะให้หนูถ่ายกับเขา หนูไม่เอาเพราะเหมือนฆ่าตัวตาย ถ้าหนูถ่ายกันผู้ชายคนอื่นหนูยังสวยน่ารักกว่าแต่ถ้าถ่ายกับมาริโอ้หนูไม่ไหวค่ะ หน้าหนูตายเลย หน้ามาริโอ้สวยกว่าหนู ที่ไม่รับงานคู่เพราะกลัวอาถรรพ์ไม่จริงหรอกเพราะพี่ก็เห็นพวกหนูกันตั้งแต่เด็กๆ ไม่กลัวหรอกค่ะ แต่ถ้าจะเป็นเรื่องละครถ้าจะให้เล่นคู่กันอันนี้คงต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่จะดีกว่าคะ”
ออกอาการเขินเมื่อถูกถามว่าใช้แทนคำเรียกหนุ่มมาริโอ้ว่าอะไร เจ้าตัวเผยเรียกฝ่ายชายแทนว่า บี๋ ๆ
“สวีทซิค่ะสวีท ก็มีควงแขนกันบ้าง(หัวเราะ) แต่ก็เขิน ตอนนี้ก็สบายใจ อย่างโอ้เขามีอะไรเขาก็พูดตรงๆ อย่างตอนแรกที่เข้าวงการมา เขาก็บอกว่าสนิทกันหนูที่สุด อย่างตอนนี้เขาก็ไม่ปิด การแสดงออกของเราก็แค่จับมือ ไม่ใช่มาเดินกอดหอมกันซะหน่อย เราก็เลยคิดว่าไม่มีผลกระทบอะไร”
“เรื่องคำเรียกแทนกันหรอก หนูเรียกกันว่า “บี๋” หนูก็ลอกคนอื่นเขามาเหมือนกัน เราก็เรียกกันสั่นๆว่า บี๋ๆ เขินอะฮาไม่ออกเลยดูซิ (หัวเราะ)เวลาอยู่กับเพื่อนก็ห้าวบ้าง แต่ถ้าอยู่กันสองคนก็จะเรียกกันบี๋ๆ ตอนนี้ทั้งเรื่องงานและหัวใจก็ยังฉ่ำแต่งานยังฉ่ำได้อีก ยังจ้างได้อีก เวลานอนยังเยอะอยู่ ”
แจงคบกันครั้งนี้ไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไร บอกให้เป็นไปเรื่อยๆมากกว่า
“และการคบกับครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการให้คำมั่นสัญญาอะไร เพราะหนูคิดว่าเป็นเรื่องของอนาคต และเราก็คบกันไปเรื่อยๆ คือตอนนี้คบกันก็ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรที่จะให้เราทำเยอะ เราก็ทำงานไปเรื่อยๆ เพราะก็ยังไม่ได้อยู่ในช่วงอายุที่จะคิดเรื่องของแต่งงาน เพราะก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ ไม่มีอะไรต้องให้คิดเยอะ ก็ไปกันเรื่อยๆ”
บอก“เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้จัดการส่วนตัวไม่ได้ว่าอะไรหลังเด็กในสังกัดคบกันเอง
“พี่เอก็แฮปปี้ เพราะว่าปวดหัวเหลือเกินตอนที่พวกหนูทะเลาะกันและเราก็สนิทกับพี่เอทั้งคู่ มีอะไรก็ปรึกษาพี่เอว่าเรื่องนี้เราจะเอาอย่างไรกันดี เพราะเขาเห็นเรามาทั้งคู่แต่ตอนนี้พี่เอเขาก็สบายใจค่ะ ถือแอร์เมสสบาย”
ที่มา: manager.co.th
