“หลุยส์” ยอมรับมีปัญหากับ “ซูซี่” เพราะความเห็นไม่ตรงกัน แต่เคลียร์กันแล้ว เข้าใจอีกฝ่ายมีความคิดเป็นฝรั่งอาจทำให้ทีมงานบางคนไม่เข้าใจ เผย เคยได้ยินคนในกองถ่ายเม้าท์พฤติกรรมของซูซี่บ้าง แต่พูดไม่ได้ว่าเรื่องอะไร ปัดรวมหัว “สมาร์ท” แบนไม่ร่วมงาน
เจอข่าวเม้าท์สะกัดดาวรุ่งทั้งๆ ที่เพิ่งขึ้นแท่นนางเอกได้ไม่กี่เรื่อง สำหรับสาว “ซูซี่ สุษิรา แอนจิลีน่า แน่นหนา” ที่มีข่าวว่าพอมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อยก็เริ่มทำตัวเป็นซุป'ตา แสดงอาการวีนและเหวี่ยงคนในกองถ่ายละครไปทั่ว จนทำให้ทีมงานหลายคนไม่พอใจพากันเม้าท์สนั่นจนข่าวหลุดออกมา ทำให้เจ้าตัวถูกเพ่งเล็งอยู่ในตอนนี้ แถมพระเอกที่เคยร่วมงานด้วยอย่าง “สมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์” กับหนุ่ม “หลุยส์ สก๊อต” ก็ต่างพากันสไตร์ทไม่ขอร่วมงานด้วยอีกคน
แต่กับเรื่องนี้ทางด้านของหนุ่ม “สมาร์ท” ได้ออกมาปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่เคยมีปัญหากัน ล่าสุดเป็นทางฟากของหนุ่ม “หลุยส์” ที่ออกมายอมรับตรงๆ ว่ามีปัญหากันจริง ซึ่งเป็นเรื่องของความคิดที่ไม่ตรงกัน แต่ได้เคลียร์กันแล้ว
“เรื่องของซูซี่ผมก็ว่าเขาก็โอเคนะครับ เพราะผมเองร่วมงานกับเขาค่อนข้างที่จะง่าย ผมสื่อสารกับเขาได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย มันก็โอเคนะ แต่ความจริงแล้วความคิดของเขาจะออกไปในทางอินเตอร์เนชั่นนอลมากกว่า คือเขาเป็นคนเชียงใหม่ แต่ในความคิดก็ยังเหมือนเป็นฝรั่ง แต่มันก็มีบ้างที่บางคนหรือทีมงานอาจจะไม่เข้าใจเขา ผมเองก็มีบ้าง หมายถึงว่าเราถ่ายเสร็จเราก็ไปขอโทษเขา ว่าถ้าเราทำอะไรล่วงเกินไปก็ขอโทษ ณ ที่นี้เลย”
“แต่ถามว่าเคยโดนเหวี่ยง โดนบ่นไหม มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าหมายถึงเราเคยมีขัดแย้งทางความคิดบ้างไหม ก็มีเป็นเรื่องปกติ มันก็มีกันทุกคนแหละ คนเราความคิดไม่เหมือนกันหรือว่าขัดแย้งกัน แต่มันก็ไม่มีใครถูกใครผิด นั่นคือความคิดของคุณ แต่นี่ก็คือความคิดของผม มันก็แค่นั้น สรุปก็เคลียร์กันลงตัว ไม่มีอะไร”
ยัน ไม่เคยรวมหัวกับ “สมาร์ท กฤษฏา” รุมยี้ “ซูซี่” บอก ถึงได้ร่วมงานกันอีกครั้งก็ไม่มีปัญหา เผย เคยได้ยินคนในกองละครเม้าท์ถึงพฤติกรรมอีกฝ่ายมาบ้าง แต่ไม่อยากพูด
“แต่ที่บอกว่าผมกับสมาร์ทรวมตัว จะไม่ร่วมงานกับซูซี่ อันนี้เอามาจากไหน(หัวเราะ) ไม่มี ถ้าร่วมงานกันอีกก็ยังโอเคนะครับ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าบทจะเหมือนเดิมหรือเปล่า หรือการที่เราเล่นกันสองคน มันจะเหมือนเดิมไปหรือเปล่าเท่านั้นเอง คือต่างคนก็ต้องปรับกัน ผมก็ต้องปรับตัวนิดนึง แต่ต้องปรับมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า ผมก็ไม่ได้สังเกตด้วยว่าผมต้องปรับเข้าคนนี้มากแค่ไหนยังไง”
“ไม่ได้คิดมาก แต่ที่ทำให้ทุกอย่างมันโอเคก็เพราะว่าเขาพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วผมก็พูดได้ คือมันก็ได้ทั้งสองภาษา มันอธิบายกันได้ง่าย ก็เลยเข้ากันโอเคนะ ความจริงถ้ามีปัญหาปุ๊บ ก็เดินไปคุยกับน้องเขาเลย ว่ามีปัญหาอย่างนู้นอย่างนี้ก็เคลียร์กัน ไม่มีอะไร”
“ถามว่าเป็นเพราะคนในกองเอามาเม้าท์หรือเปล่า เรื่องนี้ถึงหลุดออกมา ก็อาจจะครับ ผมก็มีได้ยินมาบ้าง แต่เราก็พูดไม่ได้ ไม่ขอพูดดีกว่า ความจริงแล้วก็ได้ยินคนพูดมาบ้างมันก็มี เป็นบางคนที่ไม่เข้าใจกัน แต่ส่วนตัวผมเองก็ทำงานอยู่ตรงนี้ ทำอะไรไม่ได้ เราก็พยายามปรับความเข้าใจ พอความคิดเราไม่เหมือนกันมันก็แค่นั้น”
ที่มา: manager.co.th
