Author Topic: “ปู” ห่วงสวยงดกินเหล้ากลัวหน้าบวม เผยโตแล้วขอตั้งใจเรียน-ทำงาน  (Read 1120 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ปู ไปรยา” ห่วงสวยงดกินเหล้าเพราะกลัวหน้าบวม เผยตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงาน ไม่ให้ภาพฉาวหลุดออกมาอีก โอดต้องรีบทำงานแข่งกับนักแสดงคนอื่นๆ เพราะหายไปหลายปี ขอบคุณช่อง 7 ที่ให้โอกาส ปิดเทอมกลับมาเมื่อไหร่ก็ป้อนละครให้ทันที
       
       หายหน้าไปเรียนต่อเมืองนอกหลายปี แต่ทุกครั้งที่บินกลับมาเมืองไทย เจ้าแม่ 7 สี “สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ก็ยังเรียกใช้บริการ “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” ให้มาเล่นละครอยู่เสมอ ถึงแม้ที่ผ่านมาปูจะเป็นข่าวอื้อฉาวมีภาพหลุดจ๊วบจ๊าบกระจายว่อนเน็ตก็ตาม
       
       “ปูกลับมาเมื่อต้นเดือนค่ะ ก็ได้ละคร 1 เรื่อง เพราะจะอยู่ประมาณ 3 - 4 เดือน แต่คราวนี้คงไม่ถ่ายเร่งแล้ว เพราะละครเป็นแนวมีร้อง มีเต้นด้วยเลยต้องใช้เวลา ก็ดีเหมือนกันนะคะ แล้วก็มีงานอย่างอื่นด้วย ช่วงนี้รับงานอีเว้นท์ไว้ ก็คงได้เจอกันบ่อยๆ นอกจากนั้นแล้วก็จะมีถ่ายหนังสือบ้าง”
       
       “เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่งเข้าไปที่ช่อง 7 มา ทางช่องก็ดีนะคุณแดงดีกับปูมาก ปูก็ให้เกียรติเขามาก และปูก็รักเขามาก เพราะเขารอปูจริงๆ อย่างบางครั้งปุบปับปูก็มา งานบางทีก็ไม่มีเตรียมไว้ เพราะคงเตรียมไม่ทัน แต่ครั้งนี้เขาช่วยปูมาตลอด และคอยปูมาโดยตลอด ก็โชคดีค่ะที่ได้อยู่ช่อง 7”
       
       “ตอนแรกเขาก็ถามปูนะว่าร้องเพลงได้ไหม ปูก็บอกว่าไม่เคยลอง(หัวเราะ) เขาบอกงั้นก็ไปลองเรียนดูแล้วกัน ก็ถือเป็นประสบการณ์ เล่นเป็นคนน่ารักอารมณ์ดีบ้างดีกว่า เพราะดราม่าเราก็ลองเล่นแล้ว มาลองด้านนี้เผื่อมันดีก็จะได้เล่นเรื่อยๆ”
       
       “บทเรื่องนี้ก็เป็นการเปลี่ยนลุค เพราะช่องบอกว่าเขาจะเปลี่ยนลุคปู เดี๋ยวไว้ลองดูแล้วกัน แต่ยังไม่รู้ว่าอะไรขนาดไหน เพราะเพิ่งได้คุยกับคุณหลุยส์(สยาม สังวริบุตร)เมื่อวาน เดี๋ยวคงต้องคุยกันอีกรอบ เพราะเขาขอเวลาเตรียมงาน 2 อาทิตย์ แล้วจะไปเร่งนักแสดงคนอื่นก็ไม่ได้ คือคิวปูน่ะได้ แต่นักแสดงคนอื่นจะบังคับให้เขามาถ่ายกับปูก็ใช่ว่าจะแฟร์ แต่ปูโชคดีที่คุณแดงมีบทมาให้ ก็โอเค”
       
       “ตอนแรกจริงๆ จะมี 2 เรื่องค่ะ แต่ว่าบทยังเขียนไม่เสร็จ แล้วปูก็อยู่ได้แค่ 3 เดือนครึ่ง และกว่าจะเริ่มถ่ายก็เดือนนึงผ่านไปแล้ว เวลาก็จะเหลือ 2 เดือนครึ่ง ละครเรื่องไหนก็คงไม่ทัน ไม่เหมือนคราวที่แล้วพอเรตติ้งมันดีปูก็บินกลับมาถ่ายให้ทุกคนไม่ได้ ก็เกรงใจ แต่ไม่ใช่ว่าปูปฏิเสธนะคะ เพียงแต่เราคุยกันแล้วว่ามันแฟร์เหรอที่จะบังคับนักแสดงคนอื่นให้เทเวลาของเขาเพื่อปู”
       
       เผยอีก 1 ปีก็จะเรียนจบแล้ว
       “ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ค่ะ มาคราวนี้ 3 เดือนครึ่งแล้วก็กลับไปเรียนต่อ แต่ก็จะจบแล้ว ผลสอบจะทราบวันจันทร์นี้ค่ะ ลุ้นเหมือนกันนะ กลัวพ่อแม่ว่า แต่ครั้งนี้น่าจะโอเคนะ เพราะปูตั้งใจกว่าตอนที่เรียนปีหนึ่ง พอปีสองก็ยังง๊องแง๊งๆ อยู่ แต่พออยู่ปี 3 เราก็รู้หน้าที่ตัวเองแล้วก็ตั้งใจเรียนเต็มที่ กดดันอยู่เหมือนกัน เพราะพ่อชอบพูดว่าสอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่มันแพงนะอยู่ที่โน่น(หัวเราะ) กดดันตลอด”
       
       “หลังๆ ที่ไม่ค่อยมีข่าวเพราะว่าปูค่อนข้างระวังตัวมาก เพราะที่ผ่านมาปูมีข่าวตลอด และแต่ละอย่างที่ทำเราก็ไม่ได้คิด เราทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป แล้วเรียนโรงเรียนนานาชาติด้วย ใครพูดก็ไม่ค่อยอยากจะฟัง แต่ตอนนี้เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็รู้ว่าหน้าที่การงานเราคืออะไร อาชีพเราทำงานด้านนี้ มันก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรนะ เราได้ทำงานตรงนี้ก็อยากจะทำให้มันดีๆ ก็คิดว่าคงไม่มีภาพอะไรออกมาอีก(หัวเราะ)”
       
       “ช่วงนี้งดปาร์ตี้ค่ะ เพราะกลัวอ้วน แอลกอฮอลล์ทำให้หน้าบวม(หัวเราะ) แล้วเราอยู่โน่นไม่มีใครทำหน้าให้ ทำหน้าเอง ย้อมผมเอง สู้เขาไม่ไหว พอกลับมาเมืองไทยปูไม่ได้รับงานเลย เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาไปหาหมอทำหน้าทุกวัน ทำสีผม เข้ายิม ครบหมด”(หัวเราะ)
       
       “แต่ถามว่ายังมีปาร์ตี้อยู่บ้างไหม ก็มีบ้างค่ะ แต่ว่าไม่ได้ดื่มเหมือนเมื่อก่อน ไม่รู้สิ พอเด็กปีหนึ่ง ปีสองเข้ามาเราก็เริ่มรู้สึกแก่นิดนึง เพราะเขา 17-18 แต่เราก็ 21 แล้ว จะไปเฮฮาปาร์ตี้อะไรกับเขาล่ะ ก็ไม่ค่อยแล้ว แต่ก็คงไม่ถึงกับเลิกปาร์ตี้เลยหรอก เพราะมันก็คงเป็นธรรมดาของคนเรามันต้องมีกับเพื่อนบ้าง เราผู้หญิงก็อยากจะแต่งตัวสวย แล้วจะแต่งสวยให้ใครดูล่ะ ก็ต้องมีไปเที่ยว ไปเต้นบ้าง”
       
       เผยตอนนี้รับงานเองแล้ว
       “ตอนนี้คุณลุงไม่ได้ดูคิวงานให้แล้ว เพราะว่าคุณลุงไปขายน้ำอาโรเวร่า(หัวเราะ) ปูเห็นเขาไม่ค่อยว่าง วันนี้ก็โทรไปถามว่าลุงมาไหม เขาก็บอกไม่ว่าง ติดงาน แล้วก็เพิ่งคุยกับช่องไปว่าตอนนี้ปูรับคิวเอง ถ้าจะมีอะไรผิดก็ผิดที่เรา เพราะปูต้องมารับเอง แล้วคุณแม่ก็ไม่เคยยุ่งเรื่องงานของปูอยู่แล้ว ตอนนี้ปูก็เลยต้องดูแลตัวเอง แล้วพี่เอ(ศุภชัย ศรีวิจิตร) ก็มีช่วยดูให้บ้าง แต่พี่เอจะดูด้านงานโฆษณา ด้านงานชิ้นใหญ่ๆ แต่เรื่องละครปูจะดูคิวเอง ก็แอบงงนิดนึง ช่วยกันดูกับคนขับรถ(หัวเราะ)”
       
       “ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะปูไม่เคยดูแลตัวเองเลย แต่จะให้ลุงมาตามปูตลอดก็คงไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่ได้แต่งงานสักที เขาอยู่กับหนูเขาจะมีแฟนได้ยังไง มาตามปูทุกวัน(หัวเราะ) ปูก็เกรงใจเขาด้วย เวลาไปนั่งรอในกองมันก็ร้อน เขาก็เบื่อ ให้เขาทำอย่างอื่นดีกว่า ปูเองก็โตแล้ว มางานก็ได้มาเจอพี่ๆ นี่แหละ”
       
       “ความรักตอนนี้หัวใจสีชมพู แต่อยู่คนเดียว(หัวเราะ) คือยุ่ง เพื่อนๆ ก็ยุ่ง เราก็ยุ่งก็เลยไม่มีเพื่อนมาคุยด้วย ไม่ใช่ว่าอยู่กันคนละประเทศหรอก แต่มันยุ่งจริงๆ ต่างคนต่างยุ่ง แล้วช่วงนี้ตอนอยู่โน่นก็อยู่แค่ 3 เดือนกว่า อยู่นี่ก็ 3 เดือนกว่า จะคบใครเป็นกิจจะลักษณะมันก็คงยาก แต่ปูก็มีคุยๆ มีอะไรๆ ของปูตามประสาเด็กทั่วไป ส่วนขุนพลเขาก็เพิ่งบินกลับมาเมื่อเช้า รู้แค่นี้เอง เขาก็เพิ่งโทรมาบอกว่ากลับมาแล้ว ได้เมสแซจแล้ว ปูก็โอเค แต่ไม่ได้นัดเจอกัน ปูยังไม่รู้อะไรกับเขามาก แต่ที่รู้ก็คือปูต้องมีถ่ายละคร และมีอีเว้นท์ แค่นี้ก็แบ่งคิวยากแล้ว”
       
       “ถามว่ายังดูใจกันอยู่ไหม จริงๆ มันก็เป็นอย่างนี้มาไม่รู้กี่ปีแล้ว เพราะตอนนี้หน้าที่ของปูจริงๆ ก็คือขอให้เรียนให้จบ แล้วก็ทำงาน เพราะตอนนี้ปูต้องแข่งกับนักแสดงคนอื่นแล้ว เพราะเราหายไปตั้ง 4 เดือน กลับมาคราวนี้เราก็ต้องทำให้คุ้ม คนเราอยู่ไหนมันก็ต้องมีเพื่อน อยู่นี่ก็มีเพื่อน อยู่โน่นก็มีเพื่อน ปูเป็นคนเฟรนด์ลี่อยู่แล้ว ถ้าขุนพลเขามีแฟนใหม่หนูจะไปว่าเขาได้ยังไง เขาไม่ได้แต่งงานกับหนูนี่(หัวเราะ) แต่ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว เขาเป็นคนนิสัยดี ครอบครัวเขาน่ารักมาก ปูให้เกียรติเขา และให้เกียรติครอบครัวเขา”
       
       “เราเป็นเพื่อนกันตั้งนานแล้ว ไม่อยากใช้คำว่าพี่น้อง มันฟังดูแปลกๆ เพราะน้องชายหนูก็มีอยู่แล้ว ก็เป็นเพื่อนแล้วกัน เป็นเพื่อนสนิท ก็ถ้าว่างก็คุยกันเจอกัน แต่แค่ในฐานะเพื่อน แต่กลับมายังไม่ค่อยได้คุยเลย เขาคงอยากใช้เวลากับครอบครัวเขา หนูก็เพิ่งย้ายบ้าน ก็อยากใช้เวลาจัดห้อง อยู่กับครอบครัวก่อน แต่เขาบอกว่าเวลาคนโสดงานจะรุ่งนะ ก็เลยคิดว่าน่าจะลองดูดีไหม แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นค่ะ เพราะปูเป็นคนเฟรนด์ลี่ ใครเข้ามาก็คุย แต่คุยในฐานะเพื่อนไปก่อน แล้วถ้าจบแล้วก็ค่อยว่ากัน จบแล้วลุยงานอีก 2-3 ปีก็ค่อยมีก็ได้”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)