Author Topic: “ผอ.วาสุ” ไม่ยอม จ่อฟ้อง “ตุ๊กตา” หมิ่น ซัดขาดงานจนโดนพักงานเอง  (Read 964 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai





     จากกรณีที่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายวาสุ เลิศจรรยา ผู้อำนวยการ คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 โดนอดีตนักแสดงสาว-ดีเจ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด” ไล่กระทืบในงานทำบุญประจำปีของคลื่นที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกปลดจากหน้าที่ดีเจกลางอากาศ โดยไม่การแจ้งล่วงหน้าและไม่ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน จนเป็นเหตุให้ดีเจสาวบันดาลโทสะเข้าไปทำร้ายร่างการตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
       
       ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้(2 มิ.ย.) “ผอ.วาสุ” ก็ได้ออกมาแถลงข่าวโต้กลับตุ๊กตาคู่กรณีทันที ที่ช่อง9 อสมท โดยมี “นางกมลาสิริ อิศรางกูล ณ อยุธยา” ผช.กก.ผอ.ใหญ่สายงานวิทยุ และ ทนาย “วินัย วงศ์เมฆ” ร่วมแถลงด้วย ซึ่ง “นางกมลาสิริ” ได้เปิดฉากโต้กรณีที่ “ตุ๊กตา” ขู่ว่าในวันที่ 3 มิ.ย. จะเปิดโปงว่าคลื่นนี้มีการทุจริตกันภายในอย่างไร รวมถึงมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ว่าเป็นการใส่ความที่ไม่มีมูลความจริง
       
       “อย่างแรกขอยืนยันว่าในเรื่องกับการทุจริตคงจะไม่มีนะคะ เพราะว่าดิฉันได้มีการกำกับดูแลทุกชนิด งานอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องทอง ถ้าไม่มีลายเซ็นจากฝ่ายบัญชี ดิฉันไม่มีทางอนุมัตินะคะ ต้องมีการกำกับตรวจสอบกันก่อนค่ะ รวมถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักจัดรายการทั้งหลาย หรืออะไรก็ตาม เราได้รับการรายงานทุกอย่างมาจากผู้อำนวยการฝ่ายวิทยุ ก็ต้องผ่านสายตาดิฉันที่ดูแลก่อน”
       
       “อย่างไรก็ตามที่กล่าวถึงเรื่องการทุจริตและพาดพิงถึงบริษัท อสมท จำกัด มหาชน ทำให้เกิดความเสียหายแก่อสมท ตรงนี้ดิฉันก็ได้ชี้แจงแล้ว เรื่องนี้ถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องส่งสำนักงานตรวจสอบของฝ่ายอสมท ดำเนินการต่อไป ตอนนั้นเราก็คงอยู่ในขั้นที่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนกันว่าข้อเท็จจริงเกิดอะไรขึ้น แต่ยังขอยืนยันว่าคุณตุ๊กตายังมีชื่ออยู่ในผังรายการของเรา ยังไม่ได้ถอดออกนะคะ”
       
       หลังจากนั้น นายวาสุ เลิศจรรยา คู่กรณีของ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” ก็เป็นฝ่ายเปิดชี้แจงถึงกรณีพิพาทจนนำมาสู่การทำร้ายร่างกาย โดยปฏิเสธกรณีที่ถูก “ตุ๊กตา” กล่าวหาว่าเป็นคนสั่งพักงานและปลดออกจากการเป็นดีเจแบบไม่เป็นธรรม พร้อมแฉกลับว่าอีกฝ่ายเป็นฝ่ายมาสายติดต่อกันหลายเดือน อีกทั้งยังขาดงานและไม่ยอมมาทำงานเอง ทั้งที่มีการแจ้งไปเตือนไปแต่ก็ยังเพิกเฉย ทั้งนี้ตนเตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดต่อดีเจสาวเท้าหนัก ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมจ่อดำเนินคดีที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย
       
       “ต้องขอชี้แจงว่าวันนี้สิ่งที่ตัวเองถูกกระทำนั้น ผมคิดว่าในฐานะผู้บริหารของสถานีของบมจ.อสมท จำกัด มหาชน ผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจนะครับ และทำงานอย่างโปร่งใส และมีความยุติธรรมสำหรับทุกๆ คน และที่ผ่านมาการบริหารงานของผมอยู่ในสายตาหัวหน้าทุกอย่างนะครับ และท่านผู้ช่วยกมลาสิริก็ขึ้นตรงกับกรรมการผู้อำนวยการบริษัทอสมท จำกัด มหาชนอยู่ และในสิ่งที่ผมแถลงมันเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงในขณะนี้นะครับ”
       
       “คุณตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด เข้ามาทำงานกับคลื่นของเราตั้งแต่ปี 2547 ก็เหมือนเป็นดีเจยุคแรกๆ ที่ร่วมกันสร้างคลื่นมาในฐานะที่อสมท ทำคลื่นนี้เมื่อเดือนที่ผ่านมาก็ครบ 7 ปีพอดี ที่ผ่านมาตุ๊กตาเป็นนักจัดรายการที่ดีนะครับ เป็นผู้รอบรู้เรื่องเพลงลูกทุ่งและจัดรายการได้ดี แต่เมื่อผ่านมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี2553 ก็มีปัญหาเรื่องของการทำงาน คือมาสาย แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะดีเจทุกคนก็มาสายเป็นเรื่องปกติ ผมก็มาสาย แต่เราจะมีข้อกำหนด สมมติสาย 15 นาที เราก็ตัดเงินไป มันจะมีกฎระเบียบของการทำงานตรงนี้อยู่แล้วในสถานี ซึ่งทุกคนก็รับทราบดี”
       
       “แต่สิ่งที่คุณตุ๊กตาปฏิบัติ ผมได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการ ชี้แจงไปยังผู้บริหารตามลำดับชั้นเรียบร้อย และโปรแกรมไดเร็คเตอร์ที่เป็นผู้ควบคุมงานโดยตรง ก็ได้ทำหนังสือถึงผม และไปส่งยังผู้ช่วยกมลาสิริเพื่อชี้แจงเหตุผล เพราะฉะนั้นคนจะเข้าจะออกจะมาจะไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงานที่อสมท นะครับ เนื่องจากเรามีระบบตรวจสอบ เรามีระบบการทำงานที่เป็นระบบระเบียบ อาจจะไม่ได้เหมือนกับเอกชนทั่วไป แต่รายงานของโปรแกรมไดเรคเตอร์ที่ผมได้รับมาทุกๆ วันก็คือมาสายต่อเนื่อง และไม่ได้มาสายธรรมดา คือสาย 40-50 นาทีต่อชั่วโมง”
       
       “สมมติจัดรายการ 1 ชั่วโมง มันจะมีช่วงโปรแกรมของสปอนเซอร์ ต้องเปิดสปอตอะไรตลอดเวลา แต่การที่เขามาสายต่อเนื่อง นาทีที่ 40 บ้าง 50 บ้างตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 เราก็คิดว่าน้องคงมีงานพิธีกรหรืออะไรเราก็ไม่เข้าไปยุ่ง แต่โปรแกรมไดเรคเตอร์เขาก็จะฟังรายการอยู่ตลอด แล้วพอเดือนมกราคม 54 มันก็เริ่มเยอะขึ้น ไม่ใช่แค่สิบกว่าวัน แต่มันเริ่มจะเป็นเดือน โปรแกรมไดเรคเตอร์ก็มาบอกผม ว่าเตือนตุ๊กตาด้วยวาจาแล้วนะว่าอย่ามาสายอีก พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ เราก็มีหนังสือแจ้งไปตามขั้นตอน คือเตือนด้วยวาจาก่อนและรู้สึกว่าเขาจะเตือนอยู่หลายครั้งเหมือนกัน เรื่องการมาทำงานสาย ซึ่งมันมีผลต่อความนิยมของรายการ และเรื่องของใบเตือนก็มีนะครับ และเขาก็รับทราบ”
       บอก มีการเตือนทั้งวาจาและใบเตือนแต่ก็ไม่ได้ผล ซ้ำมารู้ทีหลังว่าไปจัดรายการทางเคเบิ้ลทีวี และเวลาทับซ้อนกันจนเป็นเหตุให้มาไม่ทัน
       
       “จนกระทั่งโปรแกรมไดเรคเตอร์เขารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว มันต่อเนื่องตั้งแต่ธันวาคม 53 - กุมภาพันธ์ 54 ซึ่งมันมีผลต่อรายการ และธุรกิจวิทยุเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง และพนักงานในอสมท ทุกคนจะรู้ว่าทุกคนมีเป้าหมายในการทำงาน ทุกคนมี KPI ในการชี้วัดการทำงาน ผมเป็นผอ.สถานี ผมก็มีเป้าว่ารายได้ปีนึงต้องได้เท่าไหร่ๆ และเดือนนึงต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งทุกอย่างผมตรวจเช็คแล้ว มีเอกสารที่เกิดขึ้นจริง และปกตินักจัดรายการเวลามาก็จะมีบัตรตอก ปรากฏว่าตุ๊กตาไม่ได้ตอกบัตรเลย เซ็นกำกับเอง และไม่มีเวลาเข้าออก ซึ่งระยะเวลาก็เป็นเดือน และถ้าเป็นคนที่เคร่งเรื่องเวลาจริงๆ เขาก็จะไม่ให้ยาวขนาดนี้”
       
       “ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหาร ผมก็ต้องดูแลจัดการ ผมก็มีสิทธิที่จะดูแลตรงนี้ด้วย ทีนี้เราก็มีใบเตือนกันปกตินะครับ จนกระทั่งหนังสือฉบับนี้ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เอกสารทั้งหมดมีรายงานจาก Co-Producer ว่าเขามาช่วงเวลากี่โมง ซึ่งปกติเขาจะจัดรายการช่วง 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน แต่เขามาบางทีนาทีที่ 30-40-50 โปรแกรมไดเรคเตอร์ก็บอกอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องนั้นอย่างเดียว มันมีเรื่องการลงชื่อร่วมกิจกรรมหรือไปประชุมนักจัดรายการเขาก็ไม่มา มาร่วมกิจกรรมเราน้อยมาก มาแป๊บเดียวแล้วก็กลับ และประชาสัมพันธ์รายการของเขาทางเคเบิ้ลทีวีในคลื่นด้วย ซึ่งเราไม่รู้มาก่อนว่าเขาทำเคเบิ้ลทีวี แล้วเอารายการนั้นมาประชาสัมพันธ์ในคลื่น ซึ่งปกติมันไม่ได้อยู่แล้ว”
       
       “ซึ่งสัญญาของเราก็เป็นสัญญาการจัดรายการครับ สัญญาจะบอกว่าคุณเป็นนักจัดรายการ ไม่สามารถไปจัดรายการที่คลื่นอื่น ก็เป็นสัญญาจ้างปกติครับ เพราะตุ๊กตาไม่ได้เซ็นสัญญาในปี 53 เขาก็ถือเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งเขาไม่ได้เซ็น เนื่องจากเขาบอกว่าเอกสารช้า เขาก็เลยไม่ได้เซ็น ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้โปรแกรมไดเรคเตอร์บอกว่าเขาขออนุญาตปรับผังรายการ ซึ่งเขาคิดว่าไม่มีผลต่อความนิยม แต่ผมในฐานะที่เป็นผู้บริหารและตุ๊กตาอยู่กับคลื่นมาตลอด 6 ปีเต็มๆ ผมก็ทำหนังสือไปถึงผู้ช่วยกมลาสิริว่าเป็นไปตามรายงานของโปรแกรมไดเรคเตอร์จริง เพราะผมตรวจเอกสารแล้ว ผมก็บอกว่าตุ๊กตาเป็นผู้ที่อยู่กับเรามาตลอด ผมก็เลยคิดว่ายังมีประโยชน์ในด้านสร้างฐานความนิยมอะไรต่างๆ ถึงแม้จะมีเรื่องนู่นนี่บ้าง แต่ก็ยังอยากให้ทำงานอยู่”
       
       “ผมก็เลยบอกว่าเห็นควรย้ายไปทำงานในวันเสาร์ สลับกับปู ยุวดี และเท่ห์ อุเทน หนังสือฉบับนี้ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งผ่านมานานแล้ว พอเสร็จโปรแกรมไดเรคเตอร์ก็ไปแจ้งตุ๊กตาว่าจะให้จัดเสาร์-อาทิตย์ ให้ไปจัดเวลาให้ได้ก่อน เขาก็บอกว่าจะไปเคลียร์ไม่ให้เวลามันทับกัน เราก็เลยมารู้ทีหลังว่าเขาจัดรายการเคเบิ้ลทีวีชนกับรายการที่เริ่มงาน นั่นคือสาเหตุที่เขามาสาย ผมไม่แน่ใจว่าเขาจัดรายการที่เคเบิ้ลถึงกี่โมง แต่คิดว่าน่าจะถึง 4 ทุ่ม และกว่าจะมาถึงสถานีมันก็สาย ก็เลยทำให้มันเกิดเวลาซ้อนทับกัน นี่ก็คือคำชี้แจงที่เขาบอกว่าลาออกโดยไม่เป็นธรรม แต่ทุกอย่างมันมีเอกสารหมด และเป็นระบบระเบียบของอสมท”
       
       เผย ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม “ตุ๊กตา” ไม่เคยติดต่อกลับมาทางสถานีเลยเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม และยอมรับว่าบอกกับดีเจคนอื่นไปว่า อีกฝ่ายลาออกไปแล้วจริง เพราะเห็นหายไปนาน
       
       “หลังจากนั้นเดือนมีนาคม ที่เป็นการเริ่มผังใหม่ ตั้งแต่ มีนาคม-พฤษภาคม มัน 3 เดือนเต็มๆ ที่ตุ๊กตาไม่ได้ติดต่อทางคลื่น และไม่ได้อะไรกับทางคลื่นเลย ดีเจก็ถามผมว่าตุ๊กตาไปไหน วันที่ประชุมดีเจล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ผมก็ชี้แจงให้ทราบว่าตุ๊กตามีปัญหาเรื่องเวลาซ้อนทับการทำงานและมาสาย เราก็ปรับผังและให้ไปเคลียร์เรื่องเวลา”
       
       “ถามว่าตุ๊กตายังอยู่ในผังไหม ก็ยังอยู่นะครับ ผังล่าสุดก็ยังมีชื่อตุ๊กตาอยู่ในด้วยเดือนมีนาคม เราไม่ได้ปรับเขาออก เหตุผลก็คือเราให้โอกาสเขาไปเคลียร์งานก่อน แต่เขาหายไปเป็นเวลาที่นานมาก และดีเจทุกคนก็สงสัย เขาถามผม ผมก็บอกว่าน่าจะลาออกไปแล้วเนื่องจากไม่ได้ติดต่อทางคลื่นเลย เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่คลื่นคู่แข่งหรือเปล่าหรือไปทำอะไรยังไง นี่คือคำชี้แจงที่มีเอกสารชัดเจนนะครับ”
       
       “ในเรื่องการแก้ปัญหาในฐานะเป็นผู้บริหารคลื่น ผมเป็นคนที่ค่อนข้างให้โอกาสนะครับ โดยการปรับเปลี่ยนเวลา เพราะผมรู้สึกว่าบุคลากรในคลื่นมีความสำคัญทั้งนั้น แต่ปกติแล้วนักจัดรายการในธุรกิจวิทยุมันจะเข้าจะออกกันตลอดเวลา และของอสมท จะมีสัญญาแนบอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตุ๊กตาเขาเป็นฟรีแลนซ์ เพราะเขาไม่ยอมมาเซ็นสัญญา แต่ที่ผ่านมาเขาก็เซ็นสัญญา จนเมื่อปี 53 ที่ไม่ได้เซ็น ก็เลยอาจจะมีความรู้สึกว่าอยากมาจัดหรือไม่อยากมาจัดอันนี้ไม่รู้ แต่การที่หายไป 3 วันในแง่ของการทำงานที่ไม่แจ้งหัวหน้ามันก็ถือว่าลาออกเรียบร้อยแล้วนะครับ”
       
       “อย่างที่บอกว่าผมค่อนข้างจะให้โอกาส เพราะเห็นว่ายังเป็นนักจัดรายการคุณภาพอีกหนึ่งท่านที่มีความรู้เรื่องเพลงลูกทุ่ง และร่วมงานกันมาเป็นเวลานาน ถือว่าคลื่นลูกทุ่งมหานครประสบความสำเร็จเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งก็เพราะตุ๊กตาและนักจัดรายการหลายๆ คนในยุคแรกเริ่มที่ดูแลสร้างคลื่นกันมา ส่วนอีกกรณีหนึ่งที่บอกว่าไปด่าไปว่าบุพการีของคุณตุ๊กตา ผมยืนยันว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้คุยกับคุณแม่ของคุณตุ๊กตา ตอนนั้นที่บอกว่าให้ไปเคลียร์เรื่องเวลาและคุณแม่เขาก็โทรมา”
       
       จวก ถ้าตนไปด่าบุพการีของ “ตุ๊กตา” จริง เรื่องเกิดตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ทำไมป่านนี้ถึงเพิ่งมาเอาเรื่อง และที่ตนไม่ตอบโต้ตอนที่ถูกทำร้ายร่างกาย เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิง แต่เตรียมแจ้งความและฟ้องแน่นอน
       
       “จริงๆ ผมเคยไปเจอคุณแม่เขาครั้งนึงที่งานทำบุญบ้านใหม่ของตุ๊กตา และผมก็บอกเปรยๆ ว่าแม่เดี๋ยวผมจะดูแลตุ๊กตาเอง แม่ไม่ต้องห่วง เพราะว่าตอนนั้นตุ๊กตาภาระเยอะ ภาระเรื่องการผ่อนบ้าน และรายได้ก็มาจากที่ลูกทุ่งมหานครที่เดียว และก็จะมีจ๊อบพิธีกรอะไรต่างๆ บ้าง ซึ่งผมก็รับปากแม่ไป ผมบอกว่าผมเตือนน้องแล้ว บอกน้องไปแล้วว่าเรื่องมาสายอะไรก็บอกหมด ผมก็อธิบายให้เขาฟังปกติ ถ้าสมมติผมไม่ดีจริง ผมไปด่าทำให้เขาเสียหาย เรื่องมันเกิดมานานแล้วนะครับ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมแล้ว แต่ทำไมเขาถึงเพิ่งมามีเรื่องอะไรตอนนี้”
       
       “จนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันเกิดของคลื่นลูกทุ่งมหานครครบ 7 ปี ทุกปีเราจะมีการทำบุญที่วัดพระราม 9 ตลอด และเราเชิญทุกคนไปร่วมทำบุญ เลี้ยงพระ ถวายสังฆทานกัน และช่วงบ่ายเราก็จะไปแจกโชคเป็นเรื่องปกติ และทุกปีจะมีการเอารถถ่ายทอดเสียงไปออกอากาศสดที่นั่น ผมก็จัดรายการสดด้วยและมีการสัมภาษณ์ศิลปินปกติ ผมก็ไปถึงประมาณ 7.30 น. เพื่อจะไปเริ่มจัดรายการที่นั้น และมีน้องทีมงานมาบอกว่าตุ๊กตามา ผมก็ค่อนข้างแปลกใจว่าหายไปนานแล้วมาทำอะไรตั้งแต่เช้า ก็บอกว่าจะขอคุยกับผม ผมก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนขอจัดรายการก่อน เพราะวันนั้นศิลปินเยอะมาก แฟนคลับที่มาร่วมงานก็เยอะ ผมก็จัดรายการปกติ”
       
       “ปรากฏว่าสักพักตุ๊กตาก็เปิดประตูรถ ผมก็ถามอ้าวตุ๊กตามีอะไร เขาก็บอกพี่ขอคุยด้วยหน่อย ผมก็บอกให้เข้ามาคุยข้างในแอร์เย็นๆ เขาก็บอกไม่ได้ อยากคุยข้างนอก ผมก็ออกไป เขาก็ใช้คำพูดที่มันไม่ดีเลย และบอกว่าไปนั่นนี่เขาทำไม คือเยอะมาก ผมก็บอกว่าทำไม 3-4 เดือนไม่มาคุยกันล่ะ หายไปทำไม ทำไมไม่มาเคลียร์กัน เขาก็บอกว่าหนูยังไม่ออก หนูยังไม่ได้ทำใบลาออกเลย สักพักเขาก็ทำร้ายร่างกายผม มีชก มีผลัก มีถีบ ตอนนั้นผมได้สติเพราะด้วยวิญญาณของคนต่อสู้มันต้องโต้ตอบอยู่แล้วล่ะ แต่ผมเห็นว่าเขาเป็นผู้หญิง เราก็ไม่ควรจะไปทำร้ายผู้หญิงอย่างนั้น ผมก็เลยยอมให้ทำร้ายร่างกาย จากนั้นผมก็ขึ้นรถตู้จัดรายการปกติ แล้วก็มีพี่ที่เป็นช่างเข้ามาห้ามกัน”
       
       “แต่ผมไม่ได้ทำร้ายหรือโต้ตอบอะไรตุ๊กตาเลย จากที่ว่าล้มเซมันก็ล้มครับ แต่ไม่ถึงกับคลานนะครับ(หัวเราะ) แล้วเรื่องทำร้ายร่างกายผมคงแจ้งความดำเนินคดีปกติ ส่วนที่มีพาดพิงแล้วทำให้ผมเสียหายในเรื่องของเกียรติยศชื่อเสียงในฐานะเป็นพนักงานของอสมท ผมก็จะดูแลเรื่องของการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป และคลื่นลูกทุ่งมหานครก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ทุกอย่างยังบริหารงานอยู่เหมือนเดิม เรายังคงเป็นคลื่นอันดับหนึ่งที่มีรายได้สูงสุดในอสมท และเรายังมีแฟนคลับหนาแน่น ก็ยืนยันหนักแน่นว่ายังปกติ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยครับ”
       
       “ที่ต้องออกมาแถลงข่าวที่จากเดิมเคยบอกว่าจะไม่แถลง ก็เพราะข่าวมันบิดเบือนจากความเป็นจริงครับ และผมเป็นพนักงานของอสมท ผมก็ต้องรอพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อนว่าจะออกมายังไงครับ แต่ถ้าหลังจากนี้เขาจะเอาหลักฐานอะไรออกมาก็แล้วแต่เขาครับ ถ้ามีอะไรพาดพิงให้ผมเสียหาย ทางกฎหมายของอสมท ทนายของผมก็ต้องดำเนินคดีตามปกติครับ ก็คงต้องรอดูหลังฐานของเขา แต่ปกติอสมท มีระบบตรวจสอบเอกสารเยอะ วุ่นวายมาก คือด้วยความที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องมีสตง. ตรวจสอบ ต้องมีระบบขั้นตอนอะไรต่างๆ สังกัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรีด้วย ก็ต้องมีระบบตรวจสอบนะครับ จะเคลียร์กันไหมเหรอ ก็ถ้าข้อมูลเขาไม่มีอะไรเหมือนกับที่เขาให้ไปก่อนหน้านี้ ก็คงไม่คุยครับ ปล่อยให้เป็นเรื่องของทนายครับ”
       
       ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กำลังมีการแถลงข่าวอยู่นั้น ได้มีบรรดาแฟนคลับของนายวาสุแห่แหนกันมาชูป้ายเป็นกำลังใจ พร้อมกับนำดอกไม้มามอบให้กับเจ้าตัวถึงงานแถลงข่าวอีกด้วย
       
       ขณะที่ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” ก็เตรียมเปิดแถลงข่าวชุดใหญ่อีกครั้งในวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 13.00 น. ที่ร้านห้องรับแขก ถนนเลียบทางด่วน พร้อมกับขู่จะเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของคลื่นนี้ให้หมดไส้ โดยในการแถลงครั้งนี้จะขนเหล่าดีเจที่โดนไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรมมาร่วมแถลงด้วย เรียกว่าเป็นหนังม้วนยาวที่ต้องติดตามดูบทสรุปกันต่อไป ส่วนความคืบหน้าต่างๆ ทีม บันเทิงASTVผู้จัดการออนไลน์ จะนำมารายงานต่อไป


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)