'ออราเคิล' ใช้ไทยเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ก่อนใช้บุกตลาดอาเซียน หวังขยายตลาดองค์กรขนาดกลางถึงเล็กเพิ่ม จับมือ 'เดลล์' พันธมิตรฮาร์ดแวร์ พร้อม 3 พันธมิตรโซลูชั่น เสนอแพกเกจ 2 อิน 1 ชูกลยุทธ์โซลูชั่นพร้อมใช้ในราคาโดนใจ สมเหตุสมผล
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้บริษัทห้างร้านขนาดกลางถึงเล็กจำเป็นต้องไตร่ตรองเรื่องการลงทุนมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบไอทีที่จะต้องมองหาโซลูชั่นที่เหมาะสมกับความพร้อมขององค์กร ทั้งด้านกำลังทุน โซลูชั่นที่จะลงทุน และความพร้อมของกองกำลังดูแลระบบ ซึ่งเป็นโจทย์ที่สำคัญของผู้ประกอบการ ซึ่งทางบริษัทด้านไอทีได้เล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มองค์กรดังกล่าว จึงได้พัฒนาแพกเกจออกมาหลากหลายรูปแบบ
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายซอฟต์แวร์ธุรกิจรายใหญ่ ได้ปรับเปลี่ยนโมเดลการทำตลาดในประเทศไทยเพื่อเจาะกลุ่มองค์กรขนาดกลางและเล็กในประเทศไทยใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดตัวโครงการที่เรียกว่า Oracle VAD Remarketer Program ด้วยการร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายหลัก 3 ราย เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่รีเซลเลอร์ในการเริ่มต้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ ออราเคิล และขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นเพื่อสร้างช่องทางการขายผ่านระบบ 1-CLICK ORDERING มาแล้ว ซึ่งเป็นลักษณะของการขยายช่องทางจัดจำหน่าย
แต่สำหรับโปรแกรมนี้ ทาง ออราเคิล ประเทศไทย ได้จับมือพันธมิตรทางด้านฮาร์ดแวร์อย่างบริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ขายพ่วงเป็นแพกเกจ เพื่อสร้างความมั่นใจถึงประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทั้งสองบริษัทว่า สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มที่
'ทั้งเดลล์และออราเคิลมีหลักปรัชญาการทำงานที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ การนำเสนอเทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด' อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
นอกจากที่จะมีพันธมิตรทางด้านฮาร์ดแวร์แล้ว ทางออราเคิลยังได้ดึงผู้ผลิตซอฟต์แวร์อิสระ 3 ราย ประกอบไปด้วย บริษัท ทรีไอ อินโฟเทค (ประเทศไทย) จำกัด ที่เสนอโซลูชั่นเน้นอีอาร์พีสำหรับกลุ่มธุรกิจการผลิตและค้าปลีก บริษัท เอเอสเอพี โซลูชั่น จำกัด เสนอบริการฐานข้อมูลของออราเคิลและระบบธุรกิจอัจฉริยะสำหรับธุรกิจค้าปลีก โทรคมนาคม การผลิต การบินและธุรกิจประกัน และบริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เน้นสินค้ากลุ่ม Oracle Business Intelligence ที่มีความชำนาญในการพัฒนาโซลูชั่นที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของออราเคิลบนเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge โดยมี องค์กรขนาดกลางและเล็ก เป็นตลาดเป้าหมายที่วางไว้
ณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียนของออราเคิล และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เราต้องการที่จะนำเสนอโซลูชั่นไอทีที่ดีที่สุดให้แก่บริษัทขนาดกลางที่กำลังเติบโต โดยตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงและงบประมาณได้อย่างลงตัว
จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.) พบว่า ปัจจุบันบริษัทขนาดกลางในประเทศไทย หรือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 1,000 คนในปี 2552 มีถึง 2.42 ล้านราย มีมูลค่าตลาดรวม 6 ล้านล้านบาท
ณัฐศักดิ์ มองว่า กลุ่มบริษัทดังกล่าวยังมีนโยบายหาโซลูชั่นช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือครั้งนี้ ทางออราเคิลทำตลาดแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ของเดลล์ และโซลูชั่นของ 3 บริษัทเท่านั้น โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างฐานลูกค้าใหม่โดยเฉพาะ
'จริงๆ แล้ว ออราเคิลได้ทดลองทำตลาดกับกลุ่มดังกล่าวมาบ้างแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี'
ณัฐศักดิ์ กล่าวอีกว่า การร่วมมือครั้งนี้เริ่มในไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน ก่อนเตรียมขยายความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
'การที่เราเริ่มในประเทศไทยก่อน เนื่องจากมีความพร้อมมากกว่าทั้งทีมงานและพันธมิตร โครงการอ้างอิง และโซลูชั่นของพาร์ตเนอร์แต่ละรายผ่านการพิสูจน์แล้ว เพราะความร่วมมือแบบนี้จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้และความเป็นโลคัลมาช่วย ดังนั้น การนำซอฟต์แวร์ที่ผ่านการพิสูจน์ด้านการใช้งานมาแล้ว และมีราคาสมเหตุสมผล ขณะที่สามารถให้ลูกค้าติดตั้งได้รวดเร็วกว่า ทำให้เชื่อว่าโมเดลนี้น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก'
ส่วนแผนส่งเสริมการตลาดนั้น ทางออราเคิลและเดลล์จะเน้นการทำตลาดผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ การจัดสัมมนาให้ความรู้ รวมไปถึงการทำตลาดผ่านคอลเซ็นเตอร์ของทั้งสองบริษัท ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าดังกล่าว
ณัฐศักดิ์ กล่าวอย่างมั่นใจว่า ถึงแม้การแข่งขันในตลาดจะรุนแรงพอสมควร แต่ละรายต่างมีการนำเสนอที่แตกต่างกัน แต่ด้วยโซลูชั่นที่สามารถขยายความสามารถของระบบได้อย่างยืดหยุ่น ติดตั้งได้เร็ว มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี มีคนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ทำให้เชื่อได้ว่า แพกเกจดังกล่าวสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ที่มา: manager.co.th
