ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ
บราเดอร์เฮหลังปรับกลยุทธ์ใหม่ส่งผลให้ยอดขายปี 53 เติบโตมากที่สุดในอาเซียนด้วยส่วนแบ่งกว่า 30% ส่วนปี 54 เตรียมทุ่มงบเท่าตัวในการโปรโมตแบรนด์ เจาะกลุ่มต่างจังหวัด เน้นคุณภาพการให้บริการ และเปิดตัวสินค้าใหม่ หวังโตขึ้นอีก 15%
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าแม้ในปีที่ผ่านมาบราเดอร์จะต้องเจอกับปัญหาทางการเมือง และน้ำท่วมแต่เราก็สามารถทำยอดขายในตลาดรวมได้มากกว่าปี 52 ถึง 20% ซึ่งถือว่าโตที่สุดในอาเซียน
"ในปี 2553 พริ้นเตอร์เลเซอร์สีแบบมัลติฟังก์ชันมียอดการเติบโตสูงถึง 210%, ขณะที่อิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน เติบโต 54% ส่วนเครื่องพิมพ์ฉลากพี-ทัช เพิ่มขึ้น 50%"
สำหรับในปี 2554 บราเดอร์จะเน้นขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้า SoHo มากขึ้น จากเดิมที่เน้นเฉพาะกลุ่ม SMB และราชการ เนื่องจากมองว่าในกลุ่มนี้ยังมีช่องว่างอีกมาก และมีกำลังซื้อสูง โดยมีการแบ่งทีมขายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถดูแลกลุ่มของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังจะโฟกัสไปที่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 30% ให้เป็น 35%
กลยุทธ์ที่บราเดอร์เลือกใช้ในการขยายตลาดคือการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ทีมขาย เน้นไปที่การเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าในแต่ละสาขา แทนการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย โดยมองว่าปัจจุบันจำนวนร้านค้า และศูนย์บริการมีจำนวนมากพอสำหรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ ในทุกๆจังหวัด
"ปัจจุบันเรามีตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 250 ราย และศูนย์บริการที่เป็นศูนย์รับซ่อม 145 จุด"
นอกจากนี้บราเดอร์ยังได้ทุ่มงบประมาณในการทำตลาดอีกกว่าเท่าตัว ในการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย รวมถึงการตกแต่งดิสเพลย์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
"ในส่วนของออนไลน์ เราจะเน้นการเพิ่มสีสันให้กับสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก แบนเนอร์ เว็บไซต์องค์กร โดยจะเน้นไปที่การสื่อสารแบบ 2 ทาง (Two Way Communication) เพื่อจะได้ทราบความต้องการของลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น"
ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์จะมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยโฟกัสกลุ่มเลเซอร์พรินเตอร์ทั้งหมด ชูจุดขายราคาเริ่มต้นที่ 2,590 บาท เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในกลุ่ม SoHo และองค์กรขนาดใหญ่
พร้อมกันนี้บราเดอร์ยังได้มีการเปิดตัวสินค้าในกลุ่มโมโน เลเซอร์ พรินเตอร์ทั้งหมด 4 รุ่นคือ HL2130 ราคา 2,590 บาท ความเร็ว 20 แผ่นต่อนาที ใช้โทนเนอร์คุณภาพสูงราคา 690 บาท, รุ่น HL2240D ราคา 3,990 บาท เครื่องพิมพ์ระบบ 2 หน้าอัตโนมัติ, รุ่น HL 2250DN เครื่องพิมพ์ระบบเน็ตเวิร์กแบบ 2 หน้า ราคา 5,990 บาท และรุ่น HL22020 DW เครื่องพิมพ์ระบบ 2 หน้าอัตโนมัติ ที่มีระบบไวเลส พิมพ์ได้ 26 แผ่นต่อนาที นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดตัวพรินเตอร์ในกลุ่มเลเซอร์อีกกว่า 10 รุ่น
สำหรับพรินเตอร์ที่ใช้ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง บราเดอร์ยังไม่มีแผนจะนำเข้ามาวางจำหน่าย เพราะมองว่าตลาดในเมืองไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเคยชินกับการต่อปลั๊ก และสั่งพรินต์ผ่านไวเลส ซึ่งในอนาคตก็ต้องรอดูกันต่อไป
Company Relate Link :
Brother
ที่มา: manager.co.th