Author Topic: กรุ่นไอศึก 3G  (Read 908 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

กรุ่นไอศึก 3G
« on: January 23, 2011, 10:30:56 AM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ลุยดาต้า - ทีมผู้บริหารดีแทค นำโดนทอเร่ จอห์นเซ่น ซีอีโอ ในวันเปิดตัวซิมดาต้าหลายรูปแบบ และแถลงการยกเครื่องเน็ตเวิร์กครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มเทเลนอร์ ที่เขาใหญ่

    นาทีนี้เรียกว่ายอมกันไม่ได้สำหรับค่ายมือถือ หลังแนวโน้มการประมูลไลเซ่นส์ 3G ความถี่มาตรฐาน 2.1 GHz ถูกแช่แข็งอีกเป็นปีกว่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างตามกระบวนการสรรหากสทช.ชุดใหม่
       
       ทางออกของ 3 ค่ายมือถือ หนีไม่พ้นการอัปเกรดโครงข่ายเดิม ความถี่เดิมให้กลายเป็น 3G แก้ขัดเฉพาะหน้าไปก่อน เพื่อหลุดบ่วงสัญญาสัมปทานที่นับวันจะเหลืออายุน้อยลงทุกที อย่างทรูมูฟก็เดินทางลัดด้วยการซื้อฮัทช์เพื่อให้ได้ความถี่ 850 MHz ต่อยอดพัฒนาเปลี่ยนเทคโนโลยีจากซีดีเอ็มเอเป็น 3G HSPA พร้อมขยายอายุสัญญาออกไปอีก 14 ปี ซึ่งรายละเอียดยังคุยกันไม่จบ
       
       ส่วนที่จบแล้วและกำลังเริ่มต้นคือดีแทค ที่ออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปี เมื่อประกาศขอขึ้นเป็นผู้นำในตลาด "ดาต้าหรือการสื่อสารข้อมูล" บนมือถือให้ได้ภายใน 2 ปี
       
       "ปีนี้ ตลาดโมบายอินเทอร์เน็ตจะเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดโทรคมนาคมไทย ซึ่งดีแทคจะโฟกัสการทำตลาดโมบายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อให้ส่วนแบ่งการตลาดและรายได้จากการใช้งานดาต้ามากขึ้น ทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ประกาศแนวรบใหม่ที่มั่นอกมั่นใจว่าจะไม่เป็นรองใครอีกต่อไป ในงานเปิดตัวซิมการ์ดดาต้ารุ่นใหม่ที่เขาใหญ่
       
       เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สิ่งแรกที่ "ดีแทค" ลงมือทำก็คือ การเปลี่ยนเน็ตเวิร์กเก่าที่มีอยู่ปัจจุบัน 10,359 สถานีฐานทั่วประเทศ เป็นเน็ตเวิร์กใหม่ทั้งหมด ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขของการลงทุนในการเปลี่ยนเน็ตเวิร์กใหม่ครั้งนี้ แต่เชื่อว่า จะต้องใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ถึงแม้ดีแทคจะบอกว่า เป็นโครงการที่ราคาไม่แพงก็ตาม
       
       "โปรเจ็กต์นี้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของดีแทค การเปลี่ยนเน็ตเวิร์กของดีแทคทั้งหมดทั่วประเทศในครั้งนี้จะทำให้ดีแทคเป็นผู้นำด้านคุณภาพการให้บริการและความคุ้มค่าและเกิดความคล่องตัวในการยกระดับการให้บริการเมื่อถึงยุคที่เทคโนโลยีปรับเปลี่ยนอีกครั้งในอนาคต เชื่อว่า โครงการนี้นับเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเท่าที่เทเลนอร์กรุ๊ปเคยมีมา"
       
       ซีอีโอของดีแทคให้เหตุผลของการลงทุนครั้งนี้ว่า หนึ่ง ต้องการให้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอง ต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้เน็ตเวิร์กที่ดีขึ้น สามารถใช้งานโทร.และดาต้าที่มีคุณภาพดีขึ้น ความเร็วดีขึ้น และมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นด้วย สาม ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เช่น ช่วยลดพื้นที่การใช้อาคารและประหยัดพลังงานได้มากกว่า 50% จากของเดิมที่เคยใช้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นกรีน เทคโนโลยีนั่นเอง และสี่ เป็นเน็ตเวิร์กที่พร้อมอัปเกรดเป็น 3G
       
       ดูเหมือนเป็นความบังเอิญที่ทำให้โปรเจ็กต์สมบูรณ์แบบขึ้น เมื่อดีแทคได้รับอนุมัติจากบอร์ด บริษัท กสท โทรคมนาคม ให้ปรับปรุงโครงข่ายเดิมโดยใช้เทคโนโลยี High Speed Data Packet Access (HSPA) เพื่อทดลองให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHzแบบไม่เชิงพาณิชย์ จำนวน 1,220 สถานีฐาน จากเดิมที่มีการทดลองให้บริการอยู่แล้ว 36 สถานีฐาน
       
       "การที่ดีแทคมี 3G ทำให้ดีแทคมีอาวุธสำคัญที่จะสู้กับคู่แข่งในตลาดได้ดีขึ้น รวมไปถึงคุณภาพการให้บริการโดยเฉพาะในตัวเมืองใหญ่อย่างในกรุงเทพฯ จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"
       
       ประเทศ ตันกุรานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม ดีแทค กล่าวว่า การเปลี่ยนเน็ตเวิร์กใหม่ของดีแทคจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ในอันดับแรกจะทยอยเปลี่ยนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ของภาคต่างๆ ก่อน โดยมีเป้าหมายให้สำเร็จ 50% ของเซลไซต์ทั้งหมดภายในปลายปี 2554 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 2555 ซึ่งตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไปลูกค้าที่อยู่ในเขตดังกล่าวจะสามารถใช้งานโทร. และดาต้าที่มีคุณภาพมากขึ้น มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น
       
       สำหรับลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ก็จะใช้งานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ทรานสปอร์ตเทคโนโลยีที่เลือกยังเป็นเทคโนโลยีที่รองรับ 3G โดยเฉพาะด้วย
       
       "ดีแทคมีการคุยกับอิริคสันเรื่องการเปลี่ยนเน็ตเวิร์กตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งข้อเสนอที่ดีแทคได้รับถือว่า คุ้มค่ามากสำหรับอายุสัมปทานที่เหลือ 8 ปี"
       
       ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดีแทค กล่าวถึงกลยุทธ์สำคัญ หลังจากดีแทคมีเน็ตเวิร์กใหม่ว่า ปีนี้ดีแทคตั้งเป้าจะผลักดันให้โมบายอินเทอร์เน็ตมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ รวมถึงการเปิดตัวโครงการแนะนำสินค้าต่างๆ ปัจจุบัน ดีแทคครองส่วนแบ่งการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 35% มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนบนเครือข่ายของดีแทคทั้งหมด 11 ล้านเครื่อง จากต้นปี 2553 มีการใช้งาน 8.9 ล้านเครื่อง และมีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 65 นาทีต่อวัน ขณะที่การใช้งานโทรศัพท์คุยกันเฉลี่ยอยู่ที่ 10 นาทีเท่านั้น
       
       รวมทั้งยังมีลูกค้ากว่า 75% จากทั้งหมด 20-21 ล้านรายที่ยังไม่ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ ถือเป็นโอกาสใหญ่มากของดีแทค ประกอบกับปีนี้มือถือทัชสกรีน สมาร์ทโฟนมีราคาถูกลง ใช้ง่ายขึ้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญให้คนใช้โมบายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
       
       "ปีที่แล้ว การใช้งานดาต้าบนเน็ตเวิร์กของดีแทคเพิ่มขึ้นมาก ทำให้เครือข่ายเก่าไม่สามารถรองรับปริมาณการใช้งานได้ทันจึงนำไปสู่การเปลี่ยนเครือข่ายใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่รู้สึกว่าเราสามารถเหนือคู่แข่งได้ โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีลูกค้าดีแทคใช้โมบายอินเทอร์เน็ต เพิ่มเป็น 6 ล้านราย จากที่มีอยู่ 4 ล้านราย"
       
       ปกรณ์ กล่าวอีกว่า ดีแทคจะทำโมบายอินเตอร์เน็ตให้เป็นแมส โดยจะเห็นแพกเกจด้านดาต้าทอยอยออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี มีวิธีคิดค่าบริการที่เป็นเมกะไบต์ และคิดเป็นนาที จะเห็นแพกเกจที่เป็นการเจาะกลุ่มผู้ใช้ในแต่ละเซกเมนต์มากขึ้น ทำให้ง่ายทั้งลูกค้าและร้านค้าที่ขายซิมของดีแทคด้วย
       
       การปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ของดีแทค มองได้ว่า เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยีครั้งสำคัญ เป็นการอุดจุดอ่อนทางด้านเน็ตเวิร์กที่เคยถูกนำมาใช้เป็นจุดขายของคู่แข่งอย่างเอไอเอส และทรูมูฟมาโดยตลอด
       
       เน็ตเวิร์กใหม่นี้นอกจากจะสามารถอัปเกรดเป็น 3G ได้ทันทีแล้ว ยังสามารถให้บริการเอดจ์ พลัส เหมือนกับที่เอไอเอสกำลังดำเนินการปรับเน็ตเวิร์กอยู่ในขณะนี้ด้วย
       
       นับจากนี้ต่อไป แนวรบของค่ายมือถือ คงหนีไม่พ้นการทุ่มสรรพกำลังเพื่ออัปเกรดโครงข่ายให้มีความสามารถในการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงหรือมุ่งไปที่ 3G HSPA ซึ่งดูเหมือนโอกาสกำลังเข้าทางทรูมูฟและดีแทค ในขณะที่พี่เบิ้มในวงการอย่างเอไอเอส ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกว่าเพื่อน เพราะถูกปมแก้สัญญารัดคออยู่ในขณะนี้


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)