กูเกิลสบช่องเศรษฐกิจโลกหดเดินสายโปรโมท “กูเกิลแอดเวิร์ดส” เครื่องมือการตลาดออนไลน์ เผยทั่วโลกนิยมใช้เพิ่ม หวังช่วยลดต้นทุนการโฆษณา
น.ส.พรทิพย์ กองชุน ผู้จัดการผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทยของกูเกิล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ช่วงเศรษฐกิจหดตัวทั่วโลก หลายธุรกิจเริ่มหันมองหาเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์มากขึ้น เห็นได้จากจำนวนธุรกิจที่หันมาให้ “กูเกิลแอดเวิร์ดส” เครื่องมือการโฆษณาออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ การทำธุรกิจในประเทศไทยก็มีผู้ใช้กูเกิลแอดเวิร์ดสขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก สินค้าทางด้านเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน จากที่ก่อนหน้านี้จะเป็นธุรกิจท่องเที่ยวเป็นหลัก
“ถือว่าเป็นโอกาสของกูเกิล แอดเวิร์ดส ณ ช่วงเวลานี้ เพราะทุกที่ก็ต้องการลดต้นทุนเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ลง อย่างในไทยก็มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นทุกปี”
จากจำนวนลูกค้าที่ใช้งานมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น กูเกิลจึงตั้งทีมงานคนไทยที่ดูแลลูกค้าที่ใช้ “กูเกิล แอดเวิร์ดส” ในไทยโดยเฉพาะแต่ประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เคยมีผู้ประเมินเอาไว้ว่า กูเกิลสามารถสร้างรายได้จากเครื่องมือโฆษณาประเภทนี้ในไทยไปแล้วไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้านบาท
“ส่วนกูเกิลในไทยปีนี้ เราก็ยังคงเน้นโปรโมทบริการ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ เครื่องมือโฆษณา และบริการด้านคอนซูเมอร์เป็นหลัก เช่น เสิร์ชเอ็นจิน กูเกิลแมพเป็นต้น ซึ่งแต่ละปีก็จะมีทีมงานคนไทยเพิ่มขึ้นมาดูแลลูกค้าในไทยโดยเฉพาะ อย่างตอนนี้เรากำลังรับสมัครวิศวกรคนไทยให้ไปประจำที่กูเกิล ในเซี่ยงไฮ้อยู่” น.ส.พรทิพย์ กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ พึ่งเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ บริษัทไอที เวิร์คส ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องสแกนลายนิ้วมือหนึ่งในบริษัทไทย ที่หันมาใช้การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้หันมาใช้ “กูเกิล แอดเวิร์ดส” โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าโดยเป็นสัดส่วนราว 70-80% ของงบทำตลาดทั้งหมด เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี
เขา กล่าวว่า หลังจากหันมาใช้เครื่องมือดังกล่าว พบว่า อัตราส่วนในการซื้อสินค้าของลูกค้าที่มาจากการคลิกโฆษณาในกูเกิล แอดเวิร์ดส สูงกว่าลูกค้าที่เห็นโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์มากกว่า 2-3 เท่าตัว พร้อมทั้งประเมินว่า ต้นทุนในการดึงดูดลูกค้าผ่านแอดเวิร์ดสประหยัดกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ถึง 50%
“ผมมองว่า การทำการตลาดออนไลน์ มีความจำเป็นในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ขณะเดียวกัน รูปแบบการทำตลาดออนไลน์ ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย และเราสามารถประเมิน วิเคราะห์ รายละเอียดของการคลิกของลูกค้าแต่ละครั้ง เพื่อมากำหนดเป็นแคมเปญการตลาดต่อไปได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ที่มา: bangkokbiznews.com
