Author Topic: อินเทลเผยเทรนด์เทคโนโลยีมาแรงปี 2554  (Read 1836 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


     เทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆ ในปี 2554 จะสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับยุคที่อุปกรณ์ต่างๆ สามารถใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตได้ (Pervasive computing) ในฐานะผู้ใช้ เราจะมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีให้เลือกใช้หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด โดยอินเทลมองว่า เทรนด์เทคโนโลยีของปี 2554 ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบการทำงานที่ฉลาด ทรงประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ได้แก่
       
       1. สมาร์ททีวี - ใกล้จะเป็นจริงเข้าไปทุกที
       
       อินเทลคาดว่า ผู้ผลิตโทรทัศน์และอุปกรณ์เซ็ตท้อปบ็อกซ์ ที่เป็นตัวแปลงสัญญาณระบบดิจิตอล จะเริ่มแข่งขันในตลาดสมาร์ททีวีอย่างพร้อมเพรียงกัน และภายในสิ้นปี 2554 บริษัทเหล่านี้จะสามารถประเมินทิศทางการยอมรับของผู้บริโภคสำหรับตลาดสมาร์ททีวีได้
       
       2. สาวกแท็บเล็ต เข้าสู่ยุค “ไฮบริด”
       
       แท็บเล็ตพีซีรูปแบบต่างๆ ตลอดจนระบบปฏิบัติการ จะมีจำหน่ายอย่างแพร่หลาย โดยคาดว่าจะมีอุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ผสมผสานกันระหว่างเน็ตบุ๊กชั้นเยี่ยมเข้ากับแท็บเล็ตชั้นยอด อย่างเช่น Intel-based Dell prototype ที่มีการเปิดตัวในงาน อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม หรือ new 11-inch Macbook Air เป็นต้น
       
       3. ยอดขายโน้ตบุ๊กพุ่งแรง
       
       ยอดขายโน้ตบุ๊กจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะมีคุณสมบัติด้านไฮเดฟิชันและกราฟิกใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคเลือกอย่างมากมาย รวมถึงระบบการแสดงผลไร้สาย ที่ทำให้สามารถส่งเนื้อหารายการต่างๆ ไปยังเครื่องรับโทรทัศน์เพื่อรับชมผ่านจอทีวี นอกจากนี้รอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีขององค์กร และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ยังจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้โน้ตบุ๊กมียอดขายที่แข็งแกร่งต่อไป
       
       4. พีซีและอุปกรณ์อัจฉริยะ จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้มากขึ้นด้วย Context Aware หรือ Perceptual Computing
       
       ผู้บริโภคจะหันมาตกหลุมรักกับการมาถึงเป็นครั้งแรกของ context aware หรือ perceptual computers ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ทั้ง ‘ฮาร์ด เซ็นเซอร์’ และ ‘ซอฟต์ เซ็นเซอร์’ ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์พกพาที่เรียกว่า Personal Vacation Assistant ซึ่งใช้เทคโนโลยี context-aware computing เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการเดินทางท่องเที่ยว อุปกรณ์พกพาดังกล่าวจะมีกล้องซึ่งประกอบด้วย “ฮาร์ดเซ็นเซอร์” ที่สามารถจดจำวัตถุและข้อมูลจากระบบจีพีเอส รวมทั้งข้อมูลจาก ‘ซอฟต์เซ็นเซอร์’ ที่นักท่องเที่ยวป้อนเข้าเครื่อง เช่น ปฏิทิน หรืออาหารที่ชอบ เพื่อจะได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ฯลฯ ได้ในทันที
       
       5. กฎของมัวร์ ยังคงเป็นจริงต่อไป
       
       นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ จะเดินหน้าท้าทายผู้ที่ยังคิดว่า กฎของมัวร์ สิ้นสุดลงแล้ว เพราะว่า ในปีต่อๆ ไป อุปกรณ์ใหม่นับพันล้านชิ้นจะมีสมรรถนะด้านการคำนวณและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสูง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงตามไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลจากคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่ฝังอยู่ในตัวชิปคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันยังช่วยลดการใช้พลังงานของอุปกรณ์ได้อย่างมหาศาล และทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย
       
       6. ความปลอดภัยของข้อมูลที่สูงขึ้น
       
       จากความต้องการด้านไอทีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะสภาพแวดล้อมการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น มีโมเดลการใช้งานใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงคลาวด์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกมากมายที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดังนั้นความปลอดภัยของข้อมูลจะยังคงเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ ตลอดปี 2554 อุตสาหกรรมไอทีจะยังคงเน้นความสำคัญของสมรรถนะสำหรับการปกป้องความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐานของตัวอุปกรณ์ และการรักษาความลับทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัวและที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แนวโน้มดังกล่าวจะทำให้ อินเทล™ คอร์™ วีโปร โปรเซสเซอร์ (Intel Core vPro) การซื้อกิจการของแมคอาฟีย์ (McAfee) และอีกหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชิปอินเทลมีบทบาทสำคัญ
       
       7. ผู้บริโภคจะเชื่อใจแบรนด์ที่ไว้ใจได้ภายใต้สภาวะความไม่แน่นอน
       
       ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไตร่ตรองมากขึ้นสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคิดแล้วคิดอีกก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าที่เล็งอยู่ และมีแนวโน้มที่จะหันกลับไปใช้สินค้าแบรนด์ที่ตนเองคุ้นเคย เพราะทราบถึงประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือของสินค้าแบรนด์ดังกล่าวที่ตนซื้อไปก่อนหน้านี้
       
       8. ปรากฎการณ์ที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคในแวดวงไอที (Consumerization)
       
       ปี 2554 จะเป็นปีที่เราเห็นการทับซ้อนกันระหว่างอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและอุปกรณ์สำหรับองค์กร เห็นได้จากปี 2553 ที่มีการนำไอโฟนและโทรศัพท์แอนดรอยด์มาใช้ในองค์กร ทั้งนี้ พนักงานจะมีความต้องการอุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ขณะที่ฝ่ายนายจ้างก็ต้องการที่จะขยายขอบเขตของการทำงานไปสู่อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และเนื่องจากปีที่ผ่านมายอดขายของสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 54 ทำให้สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทสำคัญทำให้พนักงานทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อถึงกันได้ตลอดเวลา  นอกจากนี้ อิทธิพลของเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็มีส่วนช่วยผลักดันให้สมาร์ทโฟนเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกประเทศของแถบเอเชียอีกด้วย ดังนั้นเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เวอร์ช่วลไลเซชั่น เทคโนโลยีป้องกันการโจรกรรม ระบบการจัดการจากระยะไกล และการรักษาความปลอดภัย จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้
       
       9. ป้ายโฆษณาอัจฉริยะ
       
       ป้ายโฆษณาดิจิตอลแบบอินเตอร์แอคทีฟอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ “Minority Report” จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เพราะความโดดเด่นในด้านการโต้ตอบด้วยรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงความสามารถในการจดจำใบหน้าและบุคลิกท่าทางต่างๆ ของคน
       
       10. การปฏิวัติของผู้บริโภคในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
       
       ผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เพียงแค่พูดถึงเรื่องการจัดการด้านการใช้พลังงาน ไปสู่การปฏิบัติจริง โดยจะมีอุปกรณ์และบริการต่างๆ ที่ช่วยบริหารจัดการด้านพลังงานภายในบ้าน นำเสนอในตลาดสำหรับผู้บริโภค
       
       11. เทคโนโลยียานยนต์
       
       จากการที่เทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ทำหน้าที่เหมือนระบบประสาทส่วนกลางของรถยนต์ในปัจจุบัน ทำให้เทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับรถยนต์จะยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติพิเศษด้านความบันเทิง การควบคุมสมาร์ทโฟนแบบแฮนด์ฟรีด้วยคำสั่งเสียง เทคโนโลยีความปลอดภัย หรือฟังก์ชั่นการขับขี่อัตโนมัติโดยรถยนต์ เป็นต้น
       
       12. แนวโน้มที่สดใสของคลาวด์และเวอร์ชวลไลเซชัน
       
       คลาวด์สำหรับองค์กรจะเริ่มประสบความสำเร็จ เพราะมีการนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่ใช้คลาวด์สำหรับธุรกิจมากขึ้น รวมถึงเครือข่ายสังคม จากการที่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนมากมุ่งหน้าสู่การทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับการใช้งานด้านไอทีของตนในปี 2553 ทำให้ในปีหน้านี้ เราจะยังเห็นองค์กรนำนำโซลูชันที่ใช้กับคลาวด์มาใช้ภายในองค์กร นอกจากนี้ การเรนเดอร์ข้อมูลที่ใช้คลาวด์จะสามารถทำได้ภายในระบบ และสามารถส่งข้อมูลไปทั่วระบบเครือข่ายบรอดแบนด์ เพื่อส่งต่อไปยังอุปกรณ์ที่มีพลังการประมวลผลกราฟิกระดับปานกลางได้
       
       Company Related Link :
       Intel

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1881 Views
Last post October 08, 2010, 04:57:16 PM
by Nick
0 Replies
3433 Views
Last post October 26, 2010, 01:24:35 PM
by Nick
11 Replies
8571 Views
Last post January 09, 2011, 12:07:43 PM
by Nick
0 Replies
6256 Views
Last post March 17, 2011, 03:52:14 PM
by Nick
0 Replies
1861 Views
Last post October 17, 2011, 12:17:04 PM
by Nick
0 Replies
2304 Views
Last post October 19, 2011, 04:25:17 PM
by Nick
0 Replies
1752 Views
Last post December 27, 2011, 08:58:33 AM
by Nick
0 Replies
1264 Views
Last post February 15, 2012, 02:51:24 PM
by Nick
0 Replies
1656 Views
Last post April 10, 2012, 06:39:37 PM
by Nick