ริเวอร์เบด ชิงตัดหน้าคู่แข่ง ส่งโซลูชันใหม่บนคลาวด์คอมพิวติ้ง ทั้งแอปฯ และสตอเรจ ชูจุดขายความเร็วที่ใช้งานง่าย ระบุเป็นเบอร์หนึ่งแน่นอนถึงแม้จะเป็นตลาดใหม่
นายพอลล์ เซอร์ราโน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น บริษัท ริเวอร์เบด เทคโนโลยี กล่าวว่า จากความตื่นตัวของบริษัทต่างๆ ที่หันมาสนใจ คลาวด์ เทคโนโลยี กันมากขึ้น โดยมีการประเมินว่า มูลค่าตลาดคลาวด์ทั่วโลกจะอยู่ระหว่าง 40-70 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจากที่ได้พูดคุยกับลูกค้าองค์กรระดับเอนเตอร์ไพรซ์ของรีเวอร์เบด ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 9,000 ราย เมื่อ 18 เดือนที่แล้ว พบว่า องค์กรต่างๆเป็นกังวลเรื่องความเร็วที่ลดลงจากการใช้คลาวด์เทคโนโลยี ในขณะที่ริเวอร์เบดเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์สื่อสารทางไกล หรือแวน ที่ช่วยให้ระบบไอทีขององค์กรมีความเร็วไม่ตกลง ทำให้การทำงานบนเครือข่ายยังคงมีประสิทธิภาพเหมือนกับใช้บริการภายในสำนักงาน จึงทำให้ริเวอร์เบดได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับคลาวด์ออกสู่ตลาด
ริเวอร์เบดเปิดตัวโซลูชันใหม่สำหรับระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง โซลูชันแรก เรียกว่า ริเวอร์เบด Steelhead คลาวด์ เป็นโซลูชันในระดับแอปพลิเคชัน โดยริเวอร์เบดจะเข้าคุยกับผู้ให้บริการคลาวด์โดยตรงเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ Steelhead ไว้ที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของผู้ให้บริการนั้นๆ ขณะที่ผู้ใช้บริการก็จะต้องติดตั้ง Steelhead ด้วยเช่นกัน หากผู้ใช้บริการต้องการความเร็วในการใช้งานที่รวดเร็วเหมือนกับที่ใช้บริการในเครือข่ายของตน ก็สามารถสมัครใช้บริการได้เพียงแค่คลิกเลือกใช้บริการ Steelhead เท่านั้น ระบบก็จะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ
"รูปแบบค่าบริการจะคิดเป็นรายเดือน โดยยืดหยุ่นว่า จะใช้บริการช่วงไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ โดยเวลานี้เปิดให้บริการแล้วกับอเมซอนเว็บเซอร์วิส โดยคิดค่าบริการประมาณ 250 เหรียญสหรัฐต่อเดือน"
โซลูชันที่สอง ริเวอร์เบด Whitewater เป็นโซลูชันด้านฮาร์ดแวร์สตอเรจ ซึ่งจะเน้นไปที่การใช้บริการแบ็กอัปและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพียงแต่ผู้ใช้บริการติดตั้ง Whitewater ไว้ที่ฝั่งลูกค้าเท่านั้น
"ทั้งสองโซลูชันถูกพัฒนาขึ้นมารองรับการทำงานบนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ ทำให้องค์กรขนาดใหญ่หรือเล็กสามารถสร้างระบบคลาวด์ส่วนตัวขึ้นได้ ที่สำคัญโซลูชันทั้งสองสามารถทำงานประสานกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของริเวอร์เบดได้ทันที"
นายวรกร ภัทรายานันท์ ผู้อำนวยการภูมิภาคประจำประเทศไทย มาเลเชีย และภาคพื้นอินโดจีน ริเวอร์เบด กล่าวว่า ริเวอร์เบดพร้อมแล้วสำหรับตลาดคลาวด์ โดยทั้ง 2 โซลูชันจะช่วยลดอุปสรรคด้านประสิทธิภาพการทำงานที่เกิดจากระยะทางระหว่างผู้ใช้และข้อมูล ทำให้ความยืดหยุ่นและมีความรวดเร็วในการทำงาน โดยฝ่ายไอทีไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบที่ใช้อยู่ ที่สำคัญโซลูชันดังกล่าวสามารถติดตั้งและบริการจัดการได้ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน
"ตลาดประเทศไทย คาดคะเนขนาดตลาดได้ค่อนข้างลำบาก แต่มั่นใจว่า ริเวอร์เบดน่าจะเป็นผู้นำตลาดได้เหมือนกับตลาดแวน ที่มีส่วนแบ่งตลาดในเอเชียแปซิฟิกครึ่งปีแรกถึง 47.2% ขณะที่คู่แข่งที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 16.4%"
ทั้งนี้รูปแบบการทำตลาดในไทยจะขายผ่านตัวแทนจำหน่ายกับซิสเต็มส์อินทิเกชัน (เอสไอ) เป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่า ตลาดไทยน่าจะตอบรับกับเรื่องสตอเรจคลาวด์ได้ดีกว่า Steelhead ซึ่งเป็นบริการโซลูชันด้านแอปพลิเคชัน ซึ่งเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับเซอร์วิสโพรวายเดอร์ในเอเชียแปซิฟิกที่มีอยู่ 16 รายโดยโมเดลการตั้งราคาคงจะไม่แตกต่างที่ทำร่วมกับอเมซอนเว็บเซอร์วิส
Company Related Link :
Riverbed Technology
ที่มา: manager.co.th
