Author Topic: ดีคอมหยุดลงทุนปรับทัพรอตลาดขาขึ้น  (Read 973 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ดีคอมรับสภาพเศรษฐกิจฝืด หยุดลงทุนเพิ่ม พร้อมขยับปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ ประเมินตลาดประมูลราชการยังดี

นายวิกร วิวิธคุณาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอมกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดค้าส่งคอมพิวเตอร์ปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยด้านความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้ต้องหยุดแผนขยายการลงทุนเพิ่มในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดี โลจิสแอนด์เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ดี ดิสทริบิวท์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด มีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 200 ล้านบาท
 
"ช่วงนี้เราขยับตัวลำบาก ต้องมอนิเตอร์สถานการณ์ตลอด จริงๆ แล้วเรามีแผนที่จะปรับโครงสร้างบริษัทให้มีการแยกแยะประเภทธุรกิจให้ชัดเจน โดยจะมีหนึ่งบริษัทที่ดูแลด้านการตลาดให้กับสินค้าของบริษัทโดยเฉพาะ แต่ช่วงนี้ต้องหยุดไว้ก่อน โดยหันมาเน้นการลดค่าใช้จ่ายขององค์ลงให้ได้มากที่สุด ส่วนจะปรับลดพนักงานลงหรือไม่ขอดูตัวเลขไตรมาส 2 อีกครั้ง" นายวิกรกล่าว
 
ด้านสถานการณ์ตลาดโดยรวม ปัจจุบัน ยังคงมีร้านค้ารายย่อยทยอยปิดกิจการลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ส่วนของบริษัทเองก็มียอดขายลดลงแล้ว 20% จากไตรมาสแรกที่ลดลงไปกว่า 10% และเริ่มเห็นสัญญาณของหนี้เสียเพิ่มขึ้นในระดับเท่าตัว
 
ทั้งนี้ ตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรใหญ่เริ่มมีสัญญาณการเติบโตลดลงกว่า 20% โฮมยูสลดลง 5-10% ส่วนตลาดที่ยังไปได้อยู่ คือ ตลาดราชการ เพราะรัฐยังมีการผลักดันโครงการต่างๆ
 
ในส่วนของดีคอมเอง ต้องคอยมอนิเตอร์ในรายละเอียดแต่ละกลุ่มให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมา บริษัทเริ่มดำเนินการลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนขั้นตอนโอเปอเรชั่น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมาสามารถปรับลดได้แล้วกว่า 20%
 
เขาเชื่อว่า ตลาดคอมพิวเตอร์น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายใน 3 เดือน เพราะถือเป็นปัจจัยที่ 6 มีความจำเป็น และอัตราการขยายตัวของการใช้คอมพิวเตอร์ก็ยังน้อยมาก คาดว่า หากสถานการณ์การเมืองไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้ ไตรมาสที่ 3 ก็น่าจะฟื้นตัวได้ และตลาดไอทีทั้งปีก็น่าจะลดลงเพียง 10% เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจโลกก็เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว
 
ด้านแนวทางการบุกตลาดปีนี้ จะเน้นตลาดต่างจังหวัดเต็มตัว ผ่านทางการประมูลงานของภาครัฐ ซึ่งถือว่ายังเป็นกลุ่มเดียวที่มีอัตราการเติบโตอยู่ โดยชูคอมพิวเตอร์แบรนด์ "ดีเอ็มเอ" ของบริษัทเป็นหัวหอกในการทำตลาด และล่าสุดได้โครงการประมูลคอมพิวเตอร์ของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาได้บางส่วน จากผู้เข้าร่วมโครงการการ 3-4 ราย มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท
 
ก่อนหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ทั้งปีราว 6,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ข้างต้นคาดว่าอาจต้องปรับลดยอดลงกว่า 20%
 
ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ปี 2551  มีมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้น 75,720 ล้านบาท โดย 66% ของมูลค่าตลาดรวมฮาร์ดแวร์ มาจากการขายกลุ่มสินค้าพีซี ที่ประกอบด้วยพีซีตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ค ซึ่งมีปริมาณการซื้อสูงสุด ส่วนในปีนี้ คาดว่ามูลค่าตลาดฮาร์ดแวร์จะลดลงเล็กน้อยประมาณ 0.4%  หรือมีมูลค่าราว 75,435 ล้านบาท

ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)