Author Topic: เครื่องใช้ไฟฟ้าทรงๆ ทรุดๆ ...รอความหวังครึ่งปีหลังจะโต  (Read 1087 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

แน่นอนแล้วว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี (GDP) ในไตรมาสแรกนี้มีโอกาสสูงมากที่จะติดลบมากกว่า 4-4.3% ด้วยการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกและการนำเข้าก็ล้วนแต่ทรุดตัวลง

เมื่อกำลังซื้อน้อยลง "เครื่องใช้ไฟฟ้า" หนึ่งในกลุ่มสินค้าที่ถูกมองว่าฟุ่มเฟือยหรือชะลอเอาไว้ก่อนได้จึงเป็นกลุ่มธุรกิจที่โดนหางเลขอย่างไม่ต้องสงสัย

"เฮียน วู (ฮาเวิร์ด) ลี" กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้ากลายเป็นสินค้ากลุ่มแรกๆ ที่ลูกค้าชะลอการซื้อเอาไว้ก่อน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ตลาดในภาพรวมจะกับตกอยู่ในภาวะติดลบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบอัตราการเติบโตของ 3 กลุ่มสินค้าหลัก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (เอชเอ) ค่อนข้างที่จะทรงตัวทั้งราคาและจำนวนยูนิตเพราะการแข่งขันของราคาไม่หวือหวาและรุนแรงเท่ากลุ่มภาพและเสียง (เอวี) ที่อาจต้องเจอกับภาวะติดลบแม้ว่าจอบางแอลวีดีทีวีและพลาสมาทีวีจะยังคงเดินเครื่องไปได้เรื่อยๆ ตามเทรนด์ของตลาดที่เริ่มเข้ามาแทนที่จอแบนซีอาร์ที

ไตรมาสแรกแอลจีสามารถทำได้ 3.5 พันล้านบาท โตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน มาจากยอดขายกลุ่มครัวเรือนและเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนสินค้าพรีเมี่ยมให้มาร์จิ้นดีกว่า ประกอบกับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ยังมีกำลังซื้อที่ดีต่อเนื่อง และช่วงไตรมาส 2-3 กลุ่มสินค้าแอลซีดีและโทรศัพท์มือถือจะเข้ามาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน

ขณะที่ "โยจิ ฮิกาชิดะ" ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มการตลาดคอนซูเมอร์ บริษัท โซนี่ไทย จำกัด ยอมรับว่าการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมายากลำบาก ทำให้ยอดขายโซนี่ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ แต่มาร์เก็ตแชร์ในบางกลุ่มสินค้าที่เป็นหัวใจหลักของโซนี่กลับเพิ่มมากขึ้น อาทิ กล้องดิจิทัลและกล้องแคมคอร์ดเดอร์ ซึ่งพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้ายิ่งเมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งจะเลือกความคุ้มค่าที่เหมาะสมกับคุณภาพ สอดคล้องกับรูปแบบการใช้สินค้าเปลี่ยนไป ลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายและมีความเป็นตัวเองมากขึ้น

การทำตลาดของโซนี่นอกจากหาสินค้าที่สอดรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไปแล้ว การกระตุ้นตลาดด้วยรูปแบบของสินค้าให้เป็นเพอร์ซันนอล ยูสเซอร์จะมาเป็นตัวขับเคลื่อนควบคู่กับใช้สีสันคัลเลอร์ฟูล เทรนดี้ และแฟชั่นนิสต้าเป็นตัวบุกตลาด

"อาณัติ จ่างตระกูล" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ระบุในเรื่องเดียวกันว่า ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะกลุ่มเอวีคาดว่าจะติดลบกว่า 5% ผลจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้การทำตลาดนอกจากกลุ่มลูกค้าโฮมยูสแล้ว ซัมซุง จะโฟกัสที่กลุ่มบีทูบีมากขึ้น จับมือกับพันธมิตรหลากหลายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

ล่าสุดได้จับมือกับไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จัดแคมเปญโปรโมชั่นมูลค่า 70 ล้านบาท เมื่อซื้อมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง

ขณะที่ "คาซูโอ ซาซากิ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ปไทย จำกัด กล่าวว่า การจะเพิ่มยอดขายและเติบโตท่ามกลางวิกฤตเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เชื่อว่าแต่ละคนต่างต้องทำให้ได้ ซึ่งส่วนตัวพยายามที่จะมองภาพบวก หา positive ideas เข้ามาเป็นแนวทางทำตลาด หาตลาดใหม่ วิธีการใหม่ๆ เข้ามาสร้างยอดขายในตลาดที่มีแนวโน้มอาจต้องติดลบ

ขณะเดียวกันก็ต้องประเมินตลาดเป็นช่วงๆ แม้ครึ่งปีแรกอาจจะไม่ดี แต่ก็ตั้งความหวังว่าครึ่งหลังจะต้องดีกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรเศรษฐกิจก็ยังคงต้องรอดูสัญญาณจากยักษ์ใหญ่อเมริกาอยู่ดี

จากนี้ไปยังต้องลุ้นลึกๆ ว่าอีก 2-3 ไตรมาสที่เหลือจะมีปาฏิหาริย์มากระตุ้นการจับจ่ายให้เกิด...ให้ได้

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)